วันอังคาร, มิถุนายน 06, 2560

ว่าด้วย 'สื่อใหญ่ไร้สาร'ะ และ ทหารเต็ม 'บอร์ดวิสาหกิจ'

นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น
อีกครั้งกับอนิจจังในสังคมไตแลนเดีย ความคลั่งไคล้ ‘hysteria’ ฆาตกรกลายเป็นดารา ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

เปรี้ยวมีอาการเครียดกว่าเพื่อน ส่วนอีก คน ยังปกติ” เหมือนว่าท่านผู้อ่านพากันเป็นห่วงเป็นใยยิ่งนัก

ทางเรือนจำก็ไม่ทราบว่านักโทษแต่ละคนมีความคิดอย่างไรกับผู้ต้องขังใหม่ทั้ง คนนี้ จึงต้องป้องกันดูแลให้รอบคอบไว้ก่อน

โดย “จัดพี่เลี้ยงซึ่งเป็นนักโทษชั้นดีช่วยดูแลเพื่อป้องกันเหตุร้าย


สำนักข่าวใหญ่รายงานละเอียดคำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น ถึงสวัสดิภาพและความสะดวกสบายของผู้ต้องหาในคุก (น่าจะเพราะเป็นที่รู้เห็นกันดีว่าทัณฑสถานหญิงนั้นแออัดยัดเยียดเพียงไร)

ขณะที่มีการตั้งกรรมการสอบตำรวจชุดจับกุมสามสาวหั่นศพ ว่าไฉนต้องมีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการตั้ง ๙๙ นายเชียว ไหนทั่น ผบ.ตร. เน้นหนักว่าเขาเตรียมมอบตัวอยู่แล้ว ทำไมใช้กำลังพลมากเกิ้น

งานนี้นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาฯ ผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญอีกแหละยื่นแก่ผู้ตรวจการแผ่นดินถามว่า “เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่


เรื่องนี้เรื่องใหญ่ไม่เบาก็ใช่ แต่เบี้ยร่ายปลายทางไร้สาระน่ะเยอะ ถึงกับจะต้องให้ ผอ.เรือนจำ ออกมาแถลงว่าผู้ต้องโทษอยู่ดีไหมนั่น

แต่กับเรื่องหนักหน่วงมากกว่า กับสวัสดิภาพของประเทศโดยรวม กลายเป็นประเด็นที่มีคนสนใจน้อย ดั่งกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยโวยเรื่องสถานะการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย

เนื่องจากตัวเลขผลขาดทุนสะสมมีสูงถึง ๘๐๕,๘๓๕ ล้านบาท ขณะที่ ธปท. มีทุนประเดิมเพียง ๒๐ ล้านบาท ดังนั้น หากเทียบสัดส่วน (Ratio) ผลขาดทุนสะสม ต่อ ทุน จะสูงถึง ๔๐,๙๒๑ เท่า”

ทั้งนี้เขาอ้างถึงตัวเลขหนี้สินของแบ๊งค์ชาติว่าขณะนี้มีเกือบ ๕ ล้านล้านบาท และทุนคงคลังติดลบเกือบ ๗ แสน ๕ หมื่นล้านบาท คำถามของเขาคือว่า

ในเมื่อหนี้รวมของ ธปท. เกือบห้าล้านล้านนี้รวมอยู่ในหนี้สาธารณะแล้วหรือยัง ถ้ายัง เมื่อนำไปรวมกับหนี้สาธารณะอีกเกือบ ๖ ล้านล้านบาทด้วยแล้ว

“จะทำให้หนี้ทั้งหมดกลายเป็น ๑๐,๘๘๕,๖๗๕ ล้านบาท หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนี้ อาจแสดงว่าหนี้สาธารณะต่อ GDP อาจสูงถึงร้อยละ ๗๕.๗๗ ตามมาได้”


ไม่ใช่แค่ ๔๑ เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ตามที่กระทรวงคลังแถลงออกมาเมื่อไม่นานมานี้ และนี่นำไปสู่ข้อกังขาเกี่ยวกับการอ้างตนมือสะอาดของ คสช. ทำตัวเป็นอัศวินม้าขาวจะเข้ามาปฏิรูปรัฐกิจประเทศไทย

โดยเฉพาะต่อการที่สำนักข่าวบีบีซีไทยเพิ่งเสนอรายงานเรื่องคณะรัฐประหาร ส่งนายทหารเข้าไปนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจเป็นจำนวนมากกว่าครั้งใดๆ ท่ามกลางสัญญานว่า คสช. จะอยู่ยาวช่วยปฏิรูป

ขณะมี ภาพลบที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจมักถูกมองว่าเป็นเพียงสมบัติผลัดกันชมของผู้มีอำนาจ ก็ปรากฏมีทหาร คสช. เป็นกรรมการบอร์ดมากกว่าก่อนยึดอำนาจเมื่อสามปีที่แล้วถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

ปัจจุบันมีทหารนั่งในบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ ๔๐ แห่ง ในจำนวนนี้ ๑๖ แห่งมีทหารเป็นประธาน มากกว่าในยุครัฐบาลพลเรือนถึง ๕ เท่า

ครั้นเมื่อคำนึงถึงตัวเลขการเงินของรัฐวิสาหกิจไทย (๕๖ แห่งในความเกี่ยวโยงกับ ๑๕ กระทรวง) มีสินทรัพย์รวมกัน ๑๔ ล้านล้านบาท สร้างรายได้ปีละ ๔.๓ ล้านล้านบาท ทำกำไรสุทธิถึง ๑.๙ แสนล้านบาท


ไฉนไม่สามารถพยุงสถานะการคลังให้ดีกว่าสภาพติดหนี้พอกพูนที่เป็นอยู่ขณะนี้ได้

บีบีซีไทยยังเอ่ยถึงตัวอย่างทหารบางคนที่นั่งหลายเก้าอี้หรือสวมหมวกหลายใบ เช่นอดีตเสนาธิการทหารรุ่นเดียวกับน้องนายกฯ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา มีตำแหน่งแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ แล้วยังได้เป็นกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจอีกสามแห่ง

ข่าวเจาะจงพล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข คนเดียวมีรายได้ทั้งสิ้นจากการเป็นบอร์ด ๑๑.๗๗ ล้านบาท แล้วยังจะมีแบบนี้อีกกี่คนในจำนวนทหารที่ได้เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจยุค คสช. นี้ ๘๐ คน

ประจวบกับที่สำนักข่าวอิศรารายงานทรัพย์สินของสามพี่น้องตระกูลวงษ์สุวรรณไว้เมื่อปลายปี ๒๕๕๗ รวมกัน ๒๒๘ ล้าน ถึงปีนี้ไม่อาจคาดเดาได้แน่นอนว่าเพิ่มขึ้นเท่าไหร่


ยังไม่นับทรัพย์สินของน้องชายนายกฯ หรือทรัพย์สินของนายทหารรุ่นกลางที่กำลังดวงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น พล.ท. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาค ๑ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ไปคุมบอร์ดกองสลาก เป็นต้น

เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ออกอาการไม่พอใจที่สื่อสายหลักเล่นข่าว สามสาวหั่นศพกันจนเป็นเรื่องฮิต ก็น่าชมเชยว่าสวนกระแสได้ถูกทาง ยิ่งถ้าตามเช็ดเรื่องใช้ตำรวจตั้ง ๙๙ นายทำคดี 'เปรี้ยว' ด้วย คงพอไปคุยกับทรั้มพ์ได้


ถ้าหากช่วยลุยเรื่องรั่วไหลในรัฐวิสาหกิจสำเร็จได้ด้วยละก็จะไปโลดกันใหญ่ ไม่ต้องรอ กปปส. บีบ ปชป. ดันขึ้นเป็นนายกฯ คนนอกให้เสียชื่อ ว่าได้มาด้วยเล่ห์กลมนต์คาถา เลือกตั้งคราวหน้าถ้ามี ลงสมัครเองเลย รับรองสง่าผ่าเผยแน่