วันอาทิตย์, มิถุนายน 04, 2560

พรรคเพื่อไทยน่าจะเตรียมตัว ลับคมฝีปากไว้เป็นพรรคฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง

มุขใหม่ไม่เว้นแต่ละวันนะนี่ บิ๊กตูบยอดรักของลิ่วล้อ คสช. คราวนี้ให้ลุ้นน้าน นานนนน แบบว่า อีจัน เล่าเรื่อง เปรี้ยวเชียวละ

รองโฆษกคณะรักษาความสงบฯ ออกมาบอกว่าจะใช้ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เป็นเวลา ๓ เดือน “ทยอยนำเรื่องราวความคืบหน้าในการทำงานด้านต่างๆ ของ คสช. ตลอด ๓ ปีที่ผ่านมา” มาเล่าแจ้งยัดใส่หัวชาวบ้าน (ที่เปิดดูทีวี)

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง แถลงว่าจะเป็นการนำเสนอในรูปแบบวิดีทัศน์ จัดทำขึ้นเป็นตอนพิเศษของรายการ เดินหน้าประเทศไทยที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องต้องออกอากาศ ทุกวันอาทิตย์หลังเคารพธงชาติ ๖ โมงเย็น

รองโฆษกฯ พูดย้าว ยาว วกวนพอดู ว่ายังมี ภารกิจ สำคัญ ทั้งยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ล้วนเป็นงานสำคัญเร่งด่วน โดยจะ “นำสาระสำคัญและความคืบหน้าผลการดำเนินงานมาร้อยเรียง และนำเสนอเป็นการเฉพาะเรื่อง ให้ประชาชนเข้าใจง่าย”


ก็เลยต้องใช้เวลามากหน่อย ถึงสามเดือน ค่อยๆ ย่อยแล้วอัดใส่สมองเหมือนยัดไส้กรอก ทำยังกับว่าประชาชนเนี้ย โง้ โง่

แท้จริงก็เป็นการเริ่มหาเสียง สำแดงผลงาน รอไว้เด้งรับลูก นายกฯ คนนอก ที่พวกขนหน้าแข้งเผด็จการกำลังทำแคมเปญกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น กปปส. นั่งร้านเดิม ที่เข้าไปครอบ ปชป. พรรครอส้มหล่น หรือพวกลิ่วล้อในสภาทหารตั้ง สนช. สปท. และ ปยป. ซึ่งรอเป็น สว. พรรคทหาร ๒๕๐ คนกันอย่างใจจรดใจจ่อ

ระหว่างที่ ปชป. และ กปปส. เพิ่งจูบปากจ๊วบใหญ่กันไปหมาดๆ และปล่อยให้ เอกนัฐ พร้อมพันธุ์ เริ่มกระบวนการสาดโคลนถล่ม เพื่อไทยพรรคเป็นต่อ วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปก็อีกคน จัดการเสี้ยมการเมือง สามประสาน ปชป.-กปปส.-คสช.

กล่าวถึงข้อเสนอสูตรจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ตนมีโมเดลในใจ” ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพวก (แก๊งไอติม มั้ง) เป็นแกนนำในสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส. เล่นการเมืองข้างถนน (ศัพท์ทางการ ภาคประชาชน’) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. กุมอำนาจความมั่นคง

ถ้าทั้งส่วนจับมือเป็นหนึ่ง จะต่อสู้กับระบอบทักษิณในระยะเปลี่ยนผ่านได้ ถ้าเเยกกันเดินเเยกกันตี เชื่อว่าจะพ่ายเเพ้” ทนายวันชัยที่หวังจะขยับจาก ขนหน้าแข้งขึ้นไปเป็น ลิ่วล้อ เขาว่างั้น


แต่รูปการณ์ตามจริงน่าจะเป็น กปปส. เข้าไปเกาะ ปชป. แบบกาฝากเสียละมากกว่า ในฐานะลิ่วล้อผลักดันบิ๊กตูบเข้าเป็นนายกฯ คนนอก ของรัฐบาลผสมในสไตล์ ราบ ๑๑ เพียงแต่หัวหน้าพรรคจะไม่ได้เป็นนายกฯ ก็คงไม่หนีรองนายกฯ เช่นเดียวกับ อนุทิน ชาญวีรกูล ของพรรคภูมิใจไทย

สุเทือกพูดไว้ชัด “ในรัฐธรรมนูญมีบทเฉพาะกาลที่จะให้ ส.ว.ลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯได้” เสียงในวุฒิสภาเป็นของ คสช. อยู่แล้วทั้ง ๒๕๐ คน เพียงมีพรรคการเมืองในสภาผู้แทนฯ อีกร้อยกว่าเสียงช่วยเทให้ ประยุทธ์ก็จะได้เป็นนายกฯ โดยไม่ต้องลงเลือกตั้ง ไม่ต้องตั้งพรรคการเมือง และไม่ต้องอยู่ในกำกับ กกต.

แถมตอนนี้อีกอย่างน้อยๆ หนึ่งปี นอกจากรายการเดินหน้าประเทศไทยภาคพิเศษใน ๓ เดือนจากนี้ไปแล้ว ประยุทธ์และพรรค คสช. สามารถหาเสียงได้อย่างไม่มีคู่แข่ง

ใครขืนด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ ก็เรียกเข้าค่าย ส่งทหารไปป้วนเปี้ยนที่บ้าน หรือจับไปควบคุมตัวฐานขัดคำสั่ง คสช. ฝ่าฝืน ม.๑๑๖ จังหวะเหมาะยัดข้อหา ม.๑๑๒ อีกกระทง แค่นี้ก็เงียบกันเป็นเป่าสาก

เหตุนี้พรรค คสช. จึงได้ใช้ยุทธวิธี ม้าเมืองทรอยส่ง กปปส. เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่ใน ปชป. ซึ่งก็คงจะไม่ถึงขนาดยึดพรรคได้ แต่ก็สามารถทำให้พรรคประชาธิปัตย์ (โดยเฉพาะแก๊งไอติมของอภิสิทธิ์) ขยับตัวอย่างไรไม่ออก

(ถ้ามี) เลือกตั้งแล้วก็ได้แต่รอส้มหล่น ได้กระทรวงเกรดเอและเอ-ลบสักสองสามกระทรวง เช่น ศึกษา วัฒนธรรม และท่องเที่ยว โชคดีได้ต่างประเทศติดปลายหอกมาด้วย ต้องเฮ

ส่วนพรรคเพื่อไทยน่าจะเตรียมตัว ลับคมฝีปากไว้เป็นพรรคฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง ถึงตอนนั้นยังมีสิทธิ์ได้พูด ไม่เหมือนตอนนี้

ถึงจะมีหวังได้เสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนฯ ก็ไม่มีทางร่วมกับพรรคใหญ่ๆ ตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ลำพังพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคย่อยๆ อีกสองสามพรรคก็ไม่พอตั้งรัฐบาลได้ เว้นแต่ว่าจะมีเซอร์ไพร้ส์พลิกล้อคกลายเป็น ข้ารองบู้ธ แทนพรรค ปชป.

นั่นแหละคือภาพวาดหวังหลังจากที่ คสช. เบื่อคืนความสุข หันไปคืนการเมืองให้ประชาชนได้ร่วมเล่นบ้าง จะสดสวยแค่ไหนอยู่ที่ใครเป็นคนมอง

นี่เพียงคะเนล่วงหน้าเป็นปีหรือกว่านั้น เผื่อจะคิดการณ์ฟันธงกันไว้แต่บัดนี้ พวกพี่ๆ ทั้งหลายจะเอาไงในตอนนั้นก็ต้องลงมือทำเสียแต่ตอนนี้

อย่ามัวแต่ดูอีจันเล่าเรื่องยืดยาดให้ใจระทึกเป็นนานสองนาน สุดท้ายยังไม่รู้อะไร ถ้านังเปรี้ยวเธอไม่ยอมเผยใจ