วันจันทร์, พฤษภาคม 29, 2560

คสช.ไม่เข้าใจ “เดินหน้าประเทศไทย” เรทติ้งตก ถกปรับโฉมแก้ปัญหารายการ - ผลพวงรัฐประหาร





คสช.ถกแก้ปัญหารายการ 'เดินหน้าประเทศไทย' เรทติ้งตก

28 มีนาคม 2559
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

คสช. ถกแก้ปัญหารายการ "เดินหน้าประเทศไทย" เรทติ้งตก เตรียมปรับโฉมเน้นรายงานพิเศษ ไม่ใช่แค่สัมภาษณ์แค่ รมต. หลังพบปชช. ปิดทีวีหนี

แหล่งข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ที่25มีนาคมที่ผ่านมา คสช.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการโทรทัศน์ของ คสช. อาทิ ตัวแทนกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกระทรวง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ อาทิ ช่อง3 5 7 9 11 เข้าร่วมหารือถึงการปรับปรุง “รายการเดินหน้าประเทศไทย” ที่ออกอากาศทุกวันหลังเคารพธงชาติในเวลา 18.00น. หลังจากคสช.พบว่า จำนวนผู้ชมของรายการเดินหน้าประเทศไทยมีน้อยมาก ซึ่งกระทบต่อการรับรู้และเข้าใจการทำงานของรัฐบาลและคสช.

โดยในที่ประชุมใช้คำว่า ช่วงเวลาดังกล่าวที่รายการออกอากาศ เป็นช่วงประหยัดไฟ30นาทีของประชาชน เพราะส่วนใหญ่พากันปิดทีวีเพื่อหนีรายการฯ และรอเปิดทีวีหลังจากรายการของคสช.จบ โดยมีการวิเคราะห์ถึงรูปแบบรายการที่ยึดแบบเดิมมานาน คือ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการสัมภาษณ์แต่ระดับรัฐมนตรี ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นตรงกันว่าจะปรับรูปแบบรายการให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

โดยจะทำเป็นรายงานพิเศษหรือสเปเชียลรีพอร์ท ที่ไม่ใช่แค่การนั่งสัมภาษณ์รัฐมนตรีเท่านั้น แต่จะต้องลงพื้นที่คุยกับเจ้าหน้าที่ ระดับปฏิบัติ เช่น อธิบดี ผู้อำนวยการกอง นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ฯลฯ รวมถึงต้องลดความถี่ของระดับนโยบายลงเพราะที่ผ่านมาเสนอแต่เรื่องนโยบายอย่างเดียวเท่านั้น แล้วมุ่งนำเสนอใน 3 ประเด็น 1. นโยบาย 2. การปฏิบัติตามนโยบาย 3. ผลของการปฏิบัติ ที่จะต้องเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ โดยจะมีการตั้งคณะทำงานชุดเล็กเพื่อวิเคราะห์และกำหนดประเด็นในอีก7วันข้างหน้า เพื่อมอบหมายให้สถานีโทรทัศน์ที่เข้าร่วมผลิตได้ทำประเด็นตามที่คณะทำงานชุดเล็กกำหนด

แหล่งข่าว เปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือถึงการปรับปรุงรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่ออกอากาศเวลา20.15น. ทุกวันศุกร์แต่อย่างใด

ooo


...

ในภาพรวม ศก.ไทยโตช้าลงมาก เหลือปีละ 3% จากที่ก่อนรปห.เคยโตปีละ 4-5% ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ เขาโตกัน 5-7%

การส่งออกก็ติดลบทุกปีขณะที่ปท.เพื่อนบ้านส่งออกโตปีละเลขสองหลัก ปท.ไทยเปลี่ยนจากรับเงินทุนไหลเข้า กลายเป็นเงินทุนไหลออกสุทธิ สามปีนี้ ไหลออกรวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สรอ. มีทั้งทุนต่างชาติและทุนไทย ส่วนใหญ่ไหลไปปท.ข้างเคียงที่อนาคตสดใสกว่า

การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (เข้ามาตั้งโรงงาน ที่เรียกว่า FDI) ลดฮวบจากหมื่นกว่าล้านดอลลาร์ในปี 56 เหลือแค่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 59

ต่างชาตินอกอาเซียนเคยนิยมมาลงทุนในไทยเป็นอันดับสอง รองจากสิงคโปร์ แต่ถึงปี 58 ไทยหล่นไปอันดับห้า ตามหลังสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา พม่า

ภาวะโตช้า เงินทุนไหลออก FDI หดหายไม่ได้เกิดจากรปห.57 เพียงอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาโครงสร้างที่เรียกว่า "กับดักปท.รายได้ปานกลาง" ที่เริ่มแสดงอาการในยุค 2540-48 ซึ่งถ้ามีรบ.เลือกตั้งที่มีเสถียรภาพ ดำเนินนโบายปรับโครงสร้างต่อเนื่องกัน เราก็อาจหลุดพ้น "กับดัก" นี้ได้

แต่ความขัดแย้งตั้งแต่ปี 49 ทำให้เสียเวลาไปสิบปี รปห.57 ทำให้ปัญหายิ่งแย่ลงไปอีก ดูท่าว่า ปท.ไทยจะจมอยู่ในสภาพนี้ และเสียเวลาต่อไปเรือย ๆ ๆ ๆ



พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์