วันพุธ, เมษายน 12, 2560

ครานี้ประชาธิปไตยได้คอขาดแน่

ช่วงหยุดสงกรานต์ผลงาน สปท. เพียบ หมัดฮุคก่อนแล้วตามด้วยอัปเปอร์คัท

ไหนจะลดวาระกำนันผู้ใหญ่บ้านเหลือแค่ ๕ ปี (ผ่านฉลุย ๙๑ ต่อ ๒๗ เมื่อวานซืน ๑๐ เมษา)
ยังมีหมัดสองกำลังตามมา จะจับสื่อมวลชนตีตรา เหมือนทาสในเรือนเบี้ย

นี่แค่ ของว่าง’ appetizers เรียกน้ำย่อย ส่วน ของจริง’ main course จานหลักหนักแน่ วันที่ ๒๐ เมษานี้ ประดุจดังเพชฌฆาตดาบหนึ่งลงมือฟัน หลังจากดาบสองร่ายรำหลอกล่อ


ถ้าดาบหนึ่งฟันไม่ขาดดาบสองเชือดต่อ หมายมั่น บั่นคอ ประชาธิปไตย

ฉะนี้บิ๊กตูบถึงได้บอกให้ ใจเย็น ไว้ก่อน ดูเพชฌฆาตร่ายรำชิลชิล ทั้งกับข้อเสนอ สปท. และ ม.๔๔ ยา พารา ครอบจักรวาลทั่น “ใช้เท่าที่จำเป็น”

กรณีที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ลดวาระการดำรงตำแหน่งจนครบเกษียณอายุ ๖๐ ปี เป็นเหลือคราวละ ปี ทั่นผู้นัมพ์บอกว่า

ผมยังไม่ได้มีดำริอะไรกับเรื่องนี้...ในเมื่อยังไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ช่วยดูแลบุคลากรของท่าน

เขาเขียนไว้อยู่แล้วว่าอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินอยู่ที่ผม รัฐบาล และคสช. ดังนั้นการดำเนินการอะไร ถ้าหลายฝ่ายเห็นด้วยก็ทำ แต่ถ้าหลายๆ ฝ่ายไม่เห็นด้วยก็ศึกษา ก็แค่นั้น

เพราะฉะนั้นอย่าออกมาอีกเลย ในฐานะที่รู้จักและเคยเจอกันมาแล้ว ก็ขอละกัน


แหม่ ขอกันดื้อๆ อย่างนี้ กำนัน-ผญบ. ไม่ให้ได้ไง แต่ที่ยังไม่ได้ขอ เพราะคงไม่มีใคร จะ ออกมาเหมือนกับกำนัน-ผญบ. คือพวกนักข่าวที่ได้เซลฟี่กับทั่นนายกฯ กันแล้วหลายหน

ก็เรื่อง “จ่อบังคับใช้ใบอนุญาตสื่อมวลชน ฝ่าฝืนโทษคุก ๒ ปี” นั่น พลตำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนปฏิรูป “ยืนยันว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้สื่อข่าวต้องมีใบอนุญาต หากใครไม่มีแล้วมาทำหน้าที่สื่อมวลชน อาจมีโทษได้ คือ จำคุก ๒ ปี ปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท”


ขนาดนั้นเชียว ภายใต้โลกอันสดใสของ คสช. เมื่อสื่อสายหลักล้วน อยู่เป็น สองปีต่อไปนี้จะได้มี สภาวิชาชีพเกิดขึ้นตามความคิดบรรเจิดของ สปท. ไว้คัดกรองนักข่าวให้ได้เสป็ค คสช. จะเอาอย่างเจ๊ยุ (ที่ล่วงลับ) อีกไม่ได้

ส่วนมาตรา ๔๔ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดเมื่อวาน (๑๑ เมษา) ว่าคนทั่วไปเขาไม่เดือดร้อน...เห็นมีแต่นักการเมือง...หาเสียงอะไรต่างๆ น่ะ


ที่จริงไม่ใช่หรอก เพราะพรรคการเมืองหาเสียงก็เริ่มทำแล้ว อย่างน้อยพรรคเก๋าพรรคหนึ่งที่หัวหน้าออกมาบอกว่า ขอเป็นตัวแทนทางการเมือง ยึดมั่นความ ซื่อสัตว์ สุดจริตนั่นละ

ช่วงก่อนจะถึงเลือกตั้งอีกอย่างน้อยหนึ่งปีนี่ ม.๔๔ คือดาบสอง ร่ายรำล่อหลอกให้อกสั่นขวัญแขวน ก่อนจะถึงดาบหนึ่ง ยุทธศาสตร์ชาติ “ซึ่งจะต้องไม่น้อยกว่ายี่สิบปี” จะเริ่มเงื้อง่ากันวันที่ ๒๐ เมษายนนี้โดย สนช. แขนขวาของ คสช.

มีคิวพิจารณารับหลักการร่างพ.ร.บ.สองฉบับสำคัญ คือ ร่างพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และ ร่างพ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ ซึ่งทั้งสองฉบับถูกเสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)” ของประยุทธ์

กำหนดให้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ...โดยคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะต้องจัดทำนโยบายและงบประมาณแผ่นดินให้ต้องสอดคล้อง”

แล้วยังจะให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ อันมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ “และมีบรรดาผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพร่วมเป็นกรรมการ นอกจากนี้ครม.ยังสามารถแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้อีกจำนวนไม่เกิน ๑๔ คน”

พอถึงตอนลงดาบ เมื่อ “การดำเนินงานของ ครม.ไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแจ้งคณะกรรมการและวุฒิสภาทราบ

หากวุฒิสภาเห็นว่าการดำเนินการของ ครม.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้วุฒิสภามีมติเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติส่งเรื่องให้คณะกรรมาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการ”


ทุกขั้นตอนของการลงดาบกับรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งอยู่ที่ คสช. ทั้งนั้น ในเมื่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์และวุฒิสภาที่คอย รับทราบ นั่นก็ คสช. เป็นคนตั้ง

แถมยังวุฒิสภาจะเป็นผู้เสนอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย

เป็นที่รู้เช่นเห็นชาติกันแล้วว่าองค์กร ตลก. ตามรัฐธรรมนูญชุดนี้ ตัวดี ขนาดไหน ผลงานจากการเปิดพจนานุกรมแทนตัวบทกฎหมาย และความเห็นแบบว่ารถไฟฟ้ายังไม่ควรมี ต้องให้ถนนลูกรังหมดก่อน น่ะเป็นเครื่องหมายการค้าล้าหลังอย่างดี

สุดท้าย ปปช. ตัว ดำเนินการก็องค์กรอิสระ ตัวเด็ดที่คดีของพรรคหนึ่งชี้ผิดว่องไว ของอีกพรรคปิดสำนวนไม่ได้เสียที อ้างง่ายๆ เอกสารถูกน้ำท่วมสูญหาย ซะงั้น

นั่นละ ครานี้ประชาธิปไตยได้คอขาดแน่