วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 20, 2560

เราอาจไม่ชอบพระอย่างธัมมะชโยยังไงก็ได้ แต่เราจะเห็นด้วยกับการใช้วิธีการแบบไหนก็ได้ในการจัดการกับวัดพระธรรมกาย อย่างนี้ไม่ได้นะครับ





เราอาจไม่ชอบพระอย่างธัมมะชโยยังไงก็ได้ ต้องการให้พระธัมมะชโยเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในเร็ววันนี้อย่างไรก็ได้ แต่เราจะเห็นด้วยกับการใช้วิธีการแบบไหนก็ได้ในการจัดการกับวัดพระธรรมกาย อย่างนี้ไม่ได้นะครับ

เราจะไปวางใจว่า อำนาจเผด็จการจะให้ความธรรม และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในวัดพระธรรมกายตอนนี้ ทั้งพระเณรและฆราวาส ทั้งคนแก่ทั้งเด็กเล็ก ไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ

เราต้องไม่ลืมนะครับว่า ทหารตำรวจนี่เขาถนัดในการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรง เพราะเขาถูกฝึกมาแบบนี้ แล้วในประวัติศาสตร์บาดแผลที่ผ่านมา ก็ทหารตำรวจนี่แหละ ที่มีส่วนในการสังหารเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะกลุ่มนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ หรือชาวบ้านที่ราชประสงค์ คนตายไปเท่าไหร่ เราลืมกันหมดแล้ว ทหารไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไรเลยครับ อ้างความมั่นคงในการเข่นฆ่าบีฑาคนในชาติเดียวกันโดยไม่ผิดกฎหมาย แล้วแบบนี้เรายังจะคาดหวังความปรองดองความสมานฉันท์ได้อยู่หรือ

อาตมาอยากจะเตือนอย่างกัลยาณมิตรนะครับว่า มาตรา 44 นี่ให้โทษมากกว่าให้คุณ มันทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบ้าอำนาจ ลุแก่โทสาคติ โดยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม อะไรที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งกฎหมายให้การคุ้มครอง ถูกละเมิดหมดเลย

นี่ทราบว่า น้ำไฟในวัดก็จะตัด พระเณรก็จะถูกไล่ออกจากวัด หรือไม่ก็ถูกขังอยู่ในนั้น ไม่ต่างจากนักโทษที่ไร้อิสระภาพ นี่เป็นเรื่องที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างที่สุดเลย จับคนทำผิดไม่ได้ ก็จะยึดวัดเขา มันชอบธรรมที่ไหนกัน

การทำแบบนี้ เป็นการทำลายน้ำใจทำลายศรัทธาของคนพุทธจำนวนไม่น้อย ทั้งที่ศรัทธาวัดพระธรรมกาย และทั้งที่เฉยเฉยนะครับ

ถ้าคนมีอำนาจจะพอสำเนียกรู้อยู่บ้าง หรือมีหิริโอตัปปะ อย่างที่ชอบพร่ำจริง ควรจะมีโยนิโสมนิการ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้อำนาจอะไรก็ตาม ควรรู้จักการวางท่าที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงและความสูญเสียกับผู้บริสุทธิ์

บ้านเมืองเราแตกแยกเป็นเสี่ยงเสี่ยง มานานแล้วนะครับ ขอให้ยอมรับข้อเท็จจริงอันนี้ ถ้าขืนยังคิดว่า จะต้องกำจัดกันให้สิ้นซากไปข้างหนึ่งแทนที่จะประนีประนอม โดยเห็นแก่ความสันติสุขอันจะพึงเกิดมีกับสังคม หรือเห็นแก่คนบริสุทธิ์ ทั้งพระเณรและฆราวาส ซึ่งศรัทธาในแนวทางของวัดพระธรรมกาย เกรงว่า บ้านเมืองของเราจะหาความสงบอีกไม่ได้เลย หรือเราไม่อยากเห็นคนในชาติมีความเป็นอยู่อย่างปกติสุขกันกระนั้นหรือครับ

อาตมาจะฝากแง่คิดไว้นะครับว่า ถึงต่อให้คุณจัดการกับพระธัมมะชโยได้ จัดการกับพระเณรทั้งหมดในวัดพระธรรมกายได้ ยึดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของธรรมกายได้ แต่หากสิ่งที่ทำไปนั้น เป็นไปโดยวิถีทางของความรุนแรงและใช้กำลังในการบีฑาข่มเหง คุณคิดหรือครับว่า คุณจะเปลี่ยนคนเป็นล้านที่นับถือพระธัมมะชโยได้ จะเปลี่ยนคนเป็นล้าน ที่เข้าวัดพระธรรมกายได้ จะเปลี่ยนความคับแค้นใจและความเห็นใจของคนเหล่านั้นที่มีต่อธรรมกายได้ ไม่มีทางเลยครับ อำนาจที่ปราศจากความเป็นธรรม ไม่เคยนำชัยชนะมาให้กับผู้ที่ถืออำนาจอันนั้นนะครับ นี่อยากจะฝากไว้ด้วยความหวังดี


พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ


ooo




ตอนยึดอำนาจใหม่ๆ คสช.มีการออกคำสั่งเรียกตัวบุคคลพร้อมจัดบทลงโทษจำคุกหนึ่งปีเยอะไปหมด วันนี้พฤติกรรมแบบนี้กลับมาอีกแล้ว แต่คราวนี้ดีเอสไออ้างอำนาจตามคำสั่ง คสช.เรียกตัวพระ 14 รูป และถ้าไม่ไปตามคำสั่งก็จะเข้าข่ายติดคุกทันที

คำสั่งแบบนี้น่าเกลียด เพราะทำให้รัฐเอาประชาชนเข้าคุกได้ ต่อให้ไม่ผิดอะไร แค่ไม่ไปตามผู้มีอำนาจเรียกก็ถือว่ามีความผิด แต่ยุคนี้ถึงขั้น ออกหมายเรียกพระพร้อมคาดโทษเหมือนอาชญากร ไม่เคยเห็นประเทศไทยยุคไหนเป็นแบบนี้เลย

ถ้าคำสั่งแบบนี้ดี และคนออกคำสั่งแบบนี้เก่งจริง ลองออกคำสั่งเรียกพ่อค้ายา นายหน้าค้ามนุษย์ ทหารแก๊งอุ้มฆ่า นายพลกินสินบนโรลรอยซ์ ฯลฯ ให้เห็นหน่อยครับ อยากเห็นว่ากล้าใช้คำสั่งแบบนี้กับอาชญากรตัวจริงมั้ย หรือใช้แต่กับพระ กับนักวิชาการ กันคนที่คิดต่างจากผู้มีอำนาจอย่างเดียว

ขอบคุณภาพจากสำนักข่าวไทย



Sirote Klampaiboon (ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์)