วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 21, 2560

ชวนอ่าน... "ศาสนทัศน์ของชุมชนเมืองสมัยใหม่ศึกษากรณีวัดพระธรรมกาย ของอภิญญา เฟื่องฟูสกุล"





ที่มา FB

ชัยพงษ์ สำเนียง

อ่าน "ศาสนทัศน์ของชุมชนเมืองสมัยใหม่ศึกษากรณีวัดพระธรรมกาย ของอภิญญา เฟื่องฟูสกุล" พบ 2-3 ประเด็น คือ

(หนึ่ง) ที่เล่าๆกันของเหล่า "สลิ่ม" ที่โจมตีธรรมกาย ว่าเหล่าสาวกธรรมกาย คือ ควายแดง/คนไร้ความรู้ ซึ่งจากงานชิ้นนี้ และเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง ข้อกล่าวหานี้ออกจะไม่จริง เพราะเท่าที่เห็นคนที่นับถือธรรมกาย ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางถึงสูง มี "ความรู้และฐานะดี" ไม่ได้อย่างที่ว่า ๆ กัน การทำลายธรรมกายของรัฐบาลทหาร อาจทำลายฐานมวลชนเสื้อเหลืองมากกว่าเสื้อแดง

(สอง) ธรรมกายที่เติบใหญ่ ขยายกิ่งก้านสาขาอย่างกว้างขว้าง เกิดภายใต้ความเน่าเฟะของ "พุทธศาสนา/พุทธธรรมแบบไทยๆ" ที่ไม่สามารถให้ทางออกแก่ชีวิตผู้คนได้ ซึ่งธรรมกายได้เข้ามาทำหน้าที่นี้แทน และดึงดูดกลุ่มสาวกได้อย่างกว้างขวาง ไม่นับว่าเกิดพุทธทางเลือกอื่นอีก เช่น สวนโมกข์ สันติอโศก วัดป่าต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งล้วนเกิดขึ้นท่ามกลางการเสื่อมทรุดของพุทธกระเเสหลัก

(สาม) ศาสนา/คำสอนของธรรมกายเป็นคำสอนเพื่อโลกนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธรรมและทางโลกในชีวิตนี้มากกว่าโลกหน้า จึงเป็นที่ต้องใจของ "คนสมัยใหม่" ภายใต้โลกของทุนนิยม รวมถึงโครงสร้างการจัดการที่ดึงดูดใจ เครือข่ายที่กว้างขวาง

ธรรมกายจึงแข็งแกร่งเกินกว่าที่รัฐบาลทหารกะเฬวรากจะทำอะไรได้ ต่อให้ปราบ/ยุบวัด/จับธัมมชโยในวันนี้ ธรรมกายก่อไม่ตาย และอาจมีธรรมกายสอง สาม สี่ ตามมา ตราบใดที่ความเชื่อแบบธรรมกายยังสนองตอบต่อเหล่าสาวกผู้ศรัทธา

(อ่านเล่มนี้ได้ที่ http://www.cubs.chula.ac.th/images/journal_Thai/V5_1_2.pdf)

ooo

ฝากพวก"ผู้ดี"กำลังสะใจที่รัฐบาลทำการกระชับพื้นที่และกระชับสิทธิเสรีภาพของธรรมกาย บางคนเสนอถึงขั้นจับพระธรรมกายสึกให้หมดโดยยกเหตุการณ์ที่พระเจ้าอโศกจับพระนอกรีตสึกนับหมื่นรูปเป็นอุทาหรณ์ เรื่องพระเจ้าอโศกที่เป็นไอดอลของ"ธรรมราชา"ในอุษาคเนย์โดยเฉพาะไทยนั้น เป็นข้อมูลที่เรารับมาจาก"คัมภีร์มหาวงศ์"ซึ่งเขียนที่ลังกาโดยพระวัดมหาวิหาร หลายเรื่องเมื่อตรวจสอบหลักฐานทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีกับทางอินเดียแล้วปรากฏว่าไม่ตรงกัน พูดง่ายๆหลายเรื่องที่มหาวงศ์พูดนั้นไม่มีในอินเดีย แล้วเรื่องจับพระ(นอกรีต?)สึกล่ะ มีจริงไหม? ขอเวลาอีกสักนิดจะชำแหละมหาวงศ์แล้วจะมาตอบ แต่แปลกที่เหตุการณ์ในไทยตอนนี้ก็เคยเกิดในลังกาเมื่อพันกว่าปีก่อน เมื่อฝ่ายมหาวิหารซึ่งอ้างว่าตนเป็น"เถรวาท"หรือพุทธแท้ ไม่พอใจที่มีอีกสำนักหนึ่งเกิดขึ้นคือ"อภัยคีรี" ประนามสำนักใหม่นี้ว่าเป็นพวกนอกรีตเป็นนานาสังวาส แต่อภัยคีรีไม่ถูก ม.44เพราะโชคดีที่กษัตริย์เกื้อหนุน(เพราะเคยช่วยกษัตริย์จนได้บัลลังก์ไง) เอาเข้าจริงพุทธไทยเชื่อ"ลังกาวาท"ว่าเป็น"เถรวาท"โดยลืม"พุทธวาท"จึงเป็นเช่นนี้แลนายเฮย

Somrit Luechai

.....


วิกฤติ ธรรมกาย VS ธรรมยุต + มหาเถรสมาคม + อื่นๆ ที่คิดว่าตัวเองเป็นพุทธ ที่มีปัญหากัน อยากรู้จุดจบก็ลองถอดบทเรียนจากความขัดแย้งและการเมืองเรื่องสงฆ์ในล้านนาระหว่างนิกายสวนดอก กับนิกายป่าแดง ดูสิครับ จุดจบไม่ใช่ใครถูกใครผิด แต่ขึ้นอยู่กับว่านิกายใดเป็นคนของใครหรือขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจใดมากกว่า
.
สนใจหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเรื่อง "สถาบันสงฆ์กับการเมืองและสังคมล้านนา พ.ศ.1954-2101"
Thesis ป.โท ของ ผีต๋ายอาจารย์ยุพิน เข็มมุกด์
============================================
เห็นด้วยกับ Nattapong Doungkaew ที่วิเคราะห์ผ่านประเด็นนี้


Thanaphong Muensan

.....

พระสายธรรมยุติเป็นพระสายที่มีภาพลักษณ์ดูดีสวยงาม หรือในภาษาคนเข้าวัดชอบพูดว่า "งามทั้งนอก งามทั้งใน" แต่คำถามคือแน่ใจได้อย่างไรครับว่าพระสายธรรมยุติสวยงามทั้งภายในและภายนอก ความสวยงามที่เราเข้าใจกันนี้เกิดขึ้นจากความสวยงามจากภายในจริง หรือเป็นเพียงภาพลักษณ์ที่ถูกผลิตสร้างขึ้นมาเพียงเท่านั้น

ด้วยความสวยงาม(ตามจินตนาการ)ของพระสายธรรมยุตินี้ จึงถูกนำมากดทับกดขี่พระสายมหานิกายทั่วไป เพราะพระมหานิกายมีภาพลักษณ์ หรือถูกทำให้ดูไม่สวยงามอยู่แล้ว ทั้งที่จริงๆ ความสวยงามหรือความเน่าเฟะ อาจจะไม่ได้ต่างจากสายธรรมยุติเลย ก็เป็นได้ แต่เพียงแค่เราถูกทำให้เข้าใจผ่านกระบวนการมากมายให้คิดไว้ก่อนว่า ธรรมยุติต้องสวยกว่ามหานิกายแค่นั้น

ดังนั้นด้วยความคิดที่ถูกทำให้มองว่าธรรมยุตินี้สวยงาม บวกกับอำนาจ(มหาศาล)ที่ธรรมยุติมี พระสงฆ์ คณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชนไทย จึงตกอยู่ภายใต้อำนาจและจินตนาการแบบธรรมยุติๆ และไม่ยอมรับความแตกต่างทั้งวัตรปฏิบัติและความคิดที่ต่างออกไปจากธรรมยุติเลย พูดง่ายๆคือ ตอนนี้ธรรมยุติกลายเป็นพุทธศาสนาที่เป็นต้นแบบที่ดีในมโนทัศน์ของคนไทย และ รัฐไทยไปเรียบร้อยแล้ว

Nattapong Doungkaew