วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 21, 2560

กลิ่นไม่ดี





นึกว่าจบไปแล้ว ‘ม้อบมีเส้น’ (อย่างที่อธึกกิตว่า) แต่ไหงประสิทธิ์ชัยบอก “กลิ่นไม่ดี” โดนลุงตูบหลอกอีกคน

เรื่องรัฐมนตรีพลังงานจะเอารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ‘อีไอเอ’ กับ ‘อีเอชไอเอ’ เข้าที่ประชุม ครม. ฟอกขาวกันใหม่

ทั้งที่ “วันเจรจาผมก็อยู่คุณก็อยู่ ไก่อู ถ้าสติยังดีคงจำได้ใช่ไหมว่า มีการย้ำกันหลายรอบมันต้องยกเลิกเท่านั้น ไม่ใช่ทบทวนหรือปรับเปลี่ยน”

นั่นเป็นเรื่องที่พวก ‘ไม่เอาถ่าน’ คุยกับแม่ทัพภาค ๑ กำลังดัง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ คนที่นั่งฮอสังเกตุการณ์ปิดวัดธรรมกาย (ว่าตามรูปหลุด คนนี้เห็นหน้าชัดกว่า ‘สมีอิสระ’)

ถึงอย่างไรคำของ รมว. พลังงานย่อมฟังชัด “พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ในวันที่ ๒๑ ก.พ. ๒๕๖๐ คณะรัฐมนตรี (ครม.)จะพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่”

ซ้ำยังดังกว่าเมื่อรองนายกฯ มาช่วยขยายเสียง “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันถึงกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในส่วนของท่าเทียบเรือ และรายงานผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) ในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่กฟผ.ได้ดำเนินการจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ว่าจะมีการทบทวนแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้ ไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด”

(http://energynewscenter.com/index.php/news/detail/610)





หนำซ้ำ พี่ป้อมมาย้ำอีกคน “ยังไงก็ต้องสร้าง” ตามที่ Wassana Nanuam รายงาน “ยังมีประชาชนไม่เข้าใจ ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้ง EIA และ EHIA เรามีผู้ทรงคุณวุฒิได้ไปศึกษาแล้ว และมีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน...

ส่วนกรณีนายกฯสั่งยกเลิกรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) หลังถูกประชาชนในพื้นที่คัดค้านนั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ชะลอก็เพื่อดำเนินการ แล้วจะเสนอมาอีก”

(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1365180883540366&set=a.440635312661599.102230.100001454030105&type=3&theater)

จึงไม่แปลกที่วันนี้ (๒๑ ก.พ.) “สน.ดุสิต ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจ ๒ กองร้อย ประจำจุดพื้นที่โดยรอบทำเนียบเฝ้าระวังสถานการณ์ความสงบเรียบร้อย หลังจากที่ทางการข่าวระบุว่าอาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เดินทางมาติดตามรอฟังมติ ครม.”

(http://www.nationtv.tv/main/content/crime/378535574/)

จะเป็นเช่นว่า ขนาดม็อบมีเส้นยังโดน คสช.หลอกด้วยเหมือนกันหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ว่าก็มีขาเก่านั่งห้างบางรายกระโดดออกมาสำทับไว้แล้ว





น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา สาขา (ต่อต้าน) พลังงาน เตือนรัฐบาลว่า “อย่าเปลี่ยนประชาชนที่คัดค้านการใช้ถ่านหินให้หันมาคัดค้านรัฐบาล คสช.” เสียล่ะ

“สาเหตุที่คนกระบี่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน คนกระบี่ไม่ได้คัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้า เพียงแต่ไม่ต้องการถ่านหิน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ก่อมลพิษต่อระบบนิเวศและสุขภาพ”

(http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx…)

ซึ่งก็ตรงกับท่าทีของหนึ่งในฟากไม่เอารัฐประหาร แต่คงไม่ได้ปักใจจงเกลียดจงชัง “รัฐบาลเผด็จการอำนาจนิยมในอดีต...ที่มาจากการเลือกตั้ง” จนเกินแก้เกี้ยว ที่ว่า

“ผมไม่ได้ต่อต้านโรงไฟฟ้า แต่ผมต่อต้านการใช้ถ่านหิน (ขอยํ้าเรื่องนี้) และผมต่อต้านกลุ่มทุนสามานย์ที่ไปได้สัมปทานเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย และต้องการจะเอาถ่านหินมาใช้ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่จังหวัดกระบี่ครั้งนี้”

สุชาติ สวัสดิศรี เขียนไว้บนเฟชบุ๊คเมื่อวันก่อน “เรื่องไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ ‘ไผ่ ดาวดิน’ และจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ เขาก็แสดงเจตจำนง ‘ไม่เอา’ มาก่อนท่านทั้งหลายที่ออกมาในตอนนี้ด้วยซํ้า”

(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1904653476477821&id=100007995606560)

เช่นเดียวกับ ‘หม่อมกร’ ที่คุยทางเฟชบุ๊คเป็นประจำเรื่องพลังงาน แชร์โพสต์ของ Wassana Nanuam ด้วยเหมือนกันโดยเสริมว่า

“รัฐบาลคงถอยได้ยากเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะมีการวางแผนและใช้งบแผ่นดินไปซื้อเหมืองถ่านหินรอไว้แล้ว”

(https://www.facebook.com/A3-605419889485777/)





ดังรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เครือสปริงนิวส์ เมื่อปลายตุลาคม ๒๕๕๙ ระบุว่า “ครม.ไฟเขียว กฟผ.อินเตอร์ฯ ซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินอินโดนีเซีย ๑๑-๑๒% มูลค่า ๑.๑๗ หมื่นล้านบาท...

กฟผ.มีนโยบายแสวงหาเหมืองถ่านหินเพื่อเป็นแหล่งสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในอนาคต รวมทั้งหมด ๖ โรง”

(http://www.thansettakij.com/2016/10/28/108804)

จึงมาถึงข้อสรุป เรื่องวิธีการหรือสันดานของ คสช. ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามแต่ ทำไปตามใจตนก่อนทั้งนั้น ด้วยผลประโยชน์เฉพาะหน้า ถ้าเกิดการทักท้วง ติติง หรือต่อต้าน หากเป็นพวกนั่งห้างก็ผ่อนผัน ยืดเวลาหาหลักการมาเสริม แต่ถ้าเป็นฝ่ายเห็นต่างละก็ ต้องจัดการเด็ดขาดทันที