วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 10, 2560

อัยการฟ้อง “ไผ่ ดาวดิน” คดีแชร์พระราชประวัติ ร.10แล้ว - ทนายแถลงข่าวความคืบหน้าคดีไผ่ + เสียงของใบไผ่ที่ส่งมาจากกรงขัง



ภาพจาก ประชาไท

.....



https://www.facebook.com/100007994325715/videos/1874924769450649/

.....

ที่มา FB

ดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน

"จากพี่ถึงน้อง"

แม้วันนี้..น้องพี่จะยังไม่หลุดจากห้วงเวลา....อันไร้เสรีภาพ
แม้วันนี้..น้องพี่ยังคงถูกพันธนาการ...ด้วยกรงขัง
แม้วันนี้..เรายังคงอับจนในอำนาจและกระบวนการยุติ-ธรรม
แต่วันนี้…พี่ขอให้น้องพี่......
จงเข้มแข็งและจงยิ้มรับ....กับเสรีภาพภายในใจ
แล้วรอวัน...ที่เราออกมายิ้มรับเสรีภาพด้วยกัน

เราจะช่วยกัน...ทวงคืนหลักกฎหมายที่หายไป

"หยุดทำลายกระบวนการยุติธรรม
หยุดทำลายประเทศไทย"

ปล่อยน้องไผ่
#Freepai




https://www.youtube.com/watch?v=McgyxoT_jqw&feature=youtu.be

.....

ก้อนดินจะบินไปสู่ดาว

----------------------------------

กุหลาบสีขาวในมือเธอ
ท่ามกลางโลกหม่นเหม่อเธอและฉัน
ผ่านกี่ร้อนกี่หนาวร้าวคืนวัน
เรายังยืนยันด้วยหัวใจ

หัวใจสีขาวในอกเธอ
แม้ใครมองว่าฝันเพ้อ. .เธออย่าหวั่นไหว
ชีวิต เรายังเดินทางไกล
อย่าให้ ความเชื่อมั่น ถูกกั้นกลาง

ปีกสีขาวในกายเธอ
จะโบกสะบัดเพื่อพบเจอซึ่งฟ้ากว้าง
แม้น้ำตาซ่านกระเซ็นบนเส้นทาง
โลกไม่ได้อ้างว้างอย่างเธอคิด

ตราบที่เธอและฉันยังฝันใฝ่
ตราบที่หัวใจไร้ผู้ลิขิต
ตราบยังมีบทกวีแห่งชีวิต
โลกไม่มีสิทธิ์กักขังเธอ

เธอไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
โลกยังเปี่ยมหวังอยู่เสมอ
ถึงแม้ดวงตาเราพร่าเบลอ
เราคงเจอเส้นชัยในสักวัน

ไม่ต้องห่วงเราจะสู้ต่อ
ท้องฟ้ากว้างพอถักทอฝัน
ความงดงามแห่งความเศร้าเล่าคืนวัน
โทษทัณฑ์ใดใดไม่ใช่ของเธอ

เธอไม่ต้องกลัวเธอไม่ผิด
ชีวิต ของคนช่างหม่นเหม่อ
ความอธรรมขังได้แค่กายเธอ
แต่หัวใจของเธอจะโบยบิน

โปรดฝากความฝันไว้ที่ฉัน
เราจะทอคืนวันอันแหว่งวิ่น
สักวันผีเสื้อจะโบยบิน
ก้อนดินจะบินถึงดวงดาว

ดูสิผีเสื้อยังโบยบิน
ก้อนดินจะบินไปสู่ดาว

10 ก.พ.60
หน้าศาลจังหวัดขอนแก่น




.....

นักศึกษา4ภาคให้กำลังใจไผ่




https://www.facebook.com/daodincommoner/videos/1203680603018470/

.....

"เสียงของใบไผ่ที่ส่งมาจากกรงขัง"

---------------------------------------------------------

5 นาที 3 คำถาม กับ 50 วันในเรือนจำของ 'ไผ่ ดาวดิน' (
จาก ILAW)

9 กุมภาพันธ์ 2560 ไอลอว์มีโอกาสไปเยี่ยมจตุภัทร์ หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ก่อนจะครบกำหนดฝากขังและต้องไปศาลอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมีคนมาเยี่ยมให้กำลังใจจำนวนมาก ไอลอว์เลยมีเวลาคุยกับไผ่ประมาณ 5 นาที โดยมีลูกกรงและแผ่นพลาสติกกั้นกลางระหว่างบทสนทนา

"อยู่ข้างในลำบากเรื่องอะไรมากที่สุด?"

ไผ่ : จิตใจ .... เพราะเราไม่รู้อะไรเลย เราไม่รู้อนาคตว่าต้องรออีกนานเท่าไร ส่วนเรื่องร่างกายไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้ปรับตัวได้แล้ว อยู่ข้างในก็มีเวลาเยอะ เลยออกกำลังกาย เล่นหมากรุก เล่นกล้าม ตอนนี้มีกล้ามแล้วด้วย ข้างในมีหนังสือให้อ่าน หนังสือแนวคิดฝ่ายซ้ายก็พอมี เช่น ของเสนีย์ เสาวพงศ์ ตั้งใจจะพยายามเขียนหนังสือ ตอนแรกเขียนไดอารี่ แต่ก็นั่งเขียนทุกวันจนไดอารี่เต็มไปแล้ว ก็เลยพยายามเขียนหนังสือเป็นเรื่องยาวอยู่ โดยเอาข้อมูลจากสิ่งที่เห็นข้างในมาเขียน มันต้องหาอะไรทำไปเรื่อยเพื่อไม่ให้สติหลุด

ติดคุกคราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ อยู่ที่นี่มีโอกาสได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เป็นอีกบทเรียนหนึ่งในการต่อสู้ เราได้เรียนรู้จากเพื่อนนักโทษคนอื่นที่โดนคดีแบบไม่เป็นธรรม รู้จักคนจน คนที่ติดคุกคดียา คนทั่วๆ ไป บางคนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ไม่มีเงิน ไม่มีทนายความ ก็ทำให้เราได้เห็นโลกกว้างขึ้น

"อยู่ข้างในเป็นห่วงอะไรบ้าง?"

ไผ่: ทุกคนที่อยู่ข้างนอกมากกว่า ห่วงพ่อแม่ที่ต้องลำบากมาเยี่ยมตลอด เรื่องเรียนของตัวเองก็ห่วง เพราะจริงๆ ใกล้จบแล้ว แต่ว่ามันทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องทำใจ ตอนนี้เราไม่มีสิทธิกำหนดอนาคตตัวเองแล้ว เขาเป็นคนกำหนดทั้งหมด แต่ที่ห่วงจริงๆ คือ ห่วงกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายมากกว่า การที่ต้องติดคุกครั้งนี้รู้สึกว่า "โคตรช็อก" ไม่คิดเลยว่าจะต้องติดคุก จริงๆ ไม่คิดว่าจะถูกถอนการประกันตัวด้วยซ้ำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอมาแล้วหลายข้อหา แต่มาครั้งนี้รู้สึกช็อกจริงๆ เพราะเราพูดด้วยหลักเหตุผล ด้วยหลักกฎหมาย มาโดยตลอดตลอด แต่เขาไม่ได้ใช้เหมือนกัน สิ่งที่เราเรียนมาใช้อะไรไม่ได้เลย

ก่อนหน้านี้เราก็เพลย์เซฟอยู่แล้ว ก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่มันจะผิด ไม่ได้ไปด่าใครโดยใช้อารมณ์ ผมไม่ได้คิดว่าจะห้ามเขาฟ้องผมนะ เมื่อเขาฟ้องมาผมก็พร้อมจะสู้ ผมเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ถึงมารายงานตัว ตอนเขาเรียกมาว่าจะถอนการประกันตัวผมก็มา เพราะเชื่อมั่น แต่ตอนนี้รู้สึกอีกอย่างแล้ว

"มีความหวังอะไรกับคนที่ยังอยู่ข้างนอก?"


ไผ่: ผมคิดว่า คดีของผมมันพอใช้อธิบายกับสังคมได้ ผมอยากให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ตอนแรกเราก็ยอมทุกอย่าง จะให้เราลบโพสต์เราก็ยอมแล้ว แต่เมื่อมาขนาดนี้เราก็คิดว่าจะสู้แล้ว ไม่ยอมเหมือนกัน เรื่องตัวเองจะต้องติดคุกนานแค่ไหนก็พอทำใจได้แล้ว เลยไม่อยากให้ต้องมากังวลเรื่องของตัวผมอีก อยากให้คนข้างนอกช่วยกันทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ เพื่อให้ทุกอย่างมันดีกว่านี้ ทั้งกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย ใครเขียนกวีได้ก็เขียน ใครเขียนงานวิชาการได้ก็เขียน ใครมีความรู้กฎหมายก็ใช้ เข้าใจนะว่าคนข้างนอกก็ลำบาก คนติดคุกบางทีสบายกว่า บ่ายสามก็ได้เข้านอนแล้ว แต่เมื่อกรณีแบบนี้ที่มันเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ควรเกิดขึ้นกับใครอีก มันไม่ใช่แค่เรื่องของผม แต่เป็นเรื่องของทุกคน

"ไผ่ ดาวดิน" เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกจับเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2559 และถูกตั้งข้อหามาตรา 112 จากการแชร์บทความของสำนักข่าวบีบีซีไทยบนเฟซบุ๊กของตัวเอง หลังถูกจับไผ่ได้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 400,000 บาท ก่อนถูกศาลจังหวัดขอนแก่นสั่งเพิกถอนประกันตัว เพราะไผ่โพสต์เฟซบุ๊กเย้ยหยันอำนาจรัฐ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ไผ่จึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แม้จะยื่นขอประกันตัวอีกหลายครั้งแต่ศาลก็ไม่อนุญาต และทุกครั้งที่ไผ่ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง ศาลจะสั่งไต่สวนเรื่องการฝากขังเป็นการลับ โดยมีหนึ่งครั้งที่ศาลสั่งอนุญาตให้ฝากขังโดยไม่ได้ถามไผ่ก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่

การฝากขังของไผ่ในครั้งที่หก จะครบกำหนดวันพรุ่งนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2560) และไผ่จะถูกนำตัวไปขึ้นศาลอีกครั้ง โดยจะต้องรอลุ้นว่า พนักงานสอบสวนจะขอฝากขังต่อหรือจะส่งฟ้องเลย และศาลจะสั่งให้ขังต่อหรือไม่?

ดูข้อมูลย้อนหลังคดีของไผ่ ดาวดิน ได้ที่ https://freedom.ilaw.or.th/case/756

ooo





กลุ่มนักศึกษาในนาม เครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค ทำกิจกรรมอ่านบทกวี แสดงท่าหน้ากากแอ็คชั่น ปิดตาอ่านแถลงการณ์ มอบดอกไม้ให้ศาลจำลอง รวมถึงร่วมกันร้องตะโกนให้กำลังใจไผ่ ดาวดิน "ไม่ผิด ไม่เป็นไร" พร้อมร่วมไว้อาลัยให้กับกระบวนการยุติธรรมของไทย

แถลงการณ์มีรายละเอียดดังนี้

เราในนามเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค วันนี้ ณ ที่นี้สะท้อนความจริงว่า กระบวนการยุติธรรมภายใต้อำนาจของเผด็จการ ได้ลุกลามและแพร่กระจายไปทุกหนแห่ง ในวันนี้มีอีกหนึ่งคน และอีกหลายๆ คนในหลายๆ แห่งนี้

ความเป็นจริงเช่นนี้ไม่อาจทำให้พวกเราอดรนทนรอหรือเพิกเฉย ความเป็นจริงเช่นนี้ได้ก่อเส้นทางให้เรามาอยู่รวมกัน เพื่อที่จะพูดว่า

ข้างหลังของเรา กระบวนการยุติธรรมนั้นมิได้เป็นอิสระ หรือเป็นไปตามแบบแผนที่ถูกต้อง และกระบวนการยุติธรรมนั้นได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

วันนี้เราขอประกาศว่า เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เราจะไม่ยอมรับ เราจะไม่อดทน ต่อความอยุติธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้หรือไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อความอยุติธรรมเกิดขึ้นเราจะมารวมตัวกัน แม้อำนาจเผด็จการจะอยู่เหนืออำนาจของประชาชน

ที่มา ประชาไท

http://www.prachatai.com/journal/2017/02/70008