วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 20, 2560

ไขปมความคิดประเวศ วะสี 1 : ประเวศ เชื่อว่าเหตุที่มีรัฐประหารเพราะ [เสื้อแดง] ไปละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะการไปละเมิดทำให้เกิดการต่อต้านและเกิดความรุนแรงขึ้น - Thanapol Eawsakul




ที่มา FB

Thanapol Eawsakul


ไขปมความคิดประเวศ วะสี 1 : ประเวศ เชื่อว่าเหตุที่มีรัฐประหารเพราะ [เสื้อแดง] ไปละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะการไปละเมิดทำให้เกิดการต่อต้านและเกิดความรุนแรงขึ้น

...................

จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของประเวศ วะสี ในไทบโพสต์ แทบลอยด์ (19 กุมภา 2560)

ปฏิรูปประเทศ-ลดเหลื่อมล้ำ มาถูกทาง?
http://www.thaipost.net/…

มีหลายเรื่องน่าสนใจ จะยกมาเป็นข้อ ๆ
ข้อแรกคือ ประเวศ ให้ บัญญัติ 10 ประการปฏิรูปประเทศ-ป้องกันรัฐประหาร

ซึ่งในข้อ 8.ไม่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะการไปละเมิดทำให้เกิดการต่อต้านและเกิดความรุนแรงขึ้น
โดยประเวศ ขยายความว่า

"ที่แล้วมามีการไปละเมิดสถาบันฯ ก็ทำให้ฝ่ายหนึ่งไม่ยอม หากไปดูการชุมนุมใหญ่ทั้งสองครั้ง และไม่รู้กี่ครั้ง ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องนี้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคนที่อยากได้ประชาธิปไตย ไม่อยากเห็นรัฐประหาร ก็อย่าไปละเมิดสถาบัน การไปละเมิดต่อไปทำให้เกิดรัฐประหาร ต้องเข้าใจตรงนี้ พวกประชาธิปไตยก็ไปสัมพันธ์อยู่กับพวกละเมิดสถาบันอยู่ด้วย แล้วก็เลยเกิดความรุนแรง เกิดรัฐประหารขึ้น" นพ.ประเวศระบุ

แม้ไม่พูดตรง ๆ คือประเวศคิดว่า มีขบวนการล้มเจ้าในเสื้อแดง

ถ้าพูดกันแฟร์ ๆ ผมก็เชื่อว่ามี ขบวนการใหญ่มีคนเป็นล้าน ถ้าจะไม่มีก็ไม่เชื่อ
แต่ปัญหาของการเกิดขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า ขบวนการล้มเจ้า นั้นคือปฏิกิริยาต่อฝ่ายชนชั้นนำเองทั้งสิ้น และขบวนการที่ว่านี้ก็ไม่เคยเป็นสิ่งที่ใหญ่โตมากมายอะไรเลย

ผมคิดว่าประเวศ หรือฝ่ายอำมาตย์ควรจะอ่านบทความ

" สถาบันกษัตริย์กับฝ่ายต่อต้านเครือข่ายกษัตริย์: ช้างสองตัวในห้องการเมืองไทยกับสภาวะปฏิเสธความเป็นจริง"
ที่ตีพิมพ์ในหนังสือ ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ของ ธงชัย วินิจจะกูล ดูอย่างน้อยก็จะดีมีมิติทางประวัติศาสตร์ในการมองบ้าง

http://www.sameskybooks.net/books/democratization/

แต่ถ้ามันจะใหญ่ มันก็เกิดจากสิ่งที่ชนชั้นนำทำเองทั้งสิ้น ดังที่เรียกว่าปรากฎหารณ์ "ตาสว่าง" ระลอกแล้ว ระลอกเล่า 2549 2551 2557 ฯลฯ

แทนที่ประเวศ และฝ่ายอำมาตย์ จะชี้นิ้วว่ามีขบวนการล้มเจ้า ทำให้เกิดรัฐประหาร ก็ควรจะมามองตัวเองว่า ทำอย่างไรให้สิ่งเหล่านี้เติบโตขึ้นมาได้ และจะอยู่กันอย่างไร

แทนที่เอะอะก็จะรัฐประหารท่าเดียว

ผมนึกถึงหนังสือ 2 เล่ม แม้เนื้อหาจะไม่น่าสนใจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นปฏิกริยากัน

1. หนังสือ ขบวนการล้มเจ้า ของเครือผู้จัดการ และขบวนการัพนธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย ที่ประเวศ เป็นแม่ยกคนสำคัญคนหนึ่ง

2. หนังสือ ขบวนการลิ้มเจ้า โดยกองบรรณาธิการ โลกวันนี้

.......................
อ่าน
บัญญัติ 10 ประการปฏิรูปประเทศ-ป้องกันรัฐประหาร

ราษฎรอาวุโส ขยายความบัญญัติ 10 ประการดังกล่าวไว้ว่า ประกอบด้วยแนวคิดหลักๆ ดังนี้

1.มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสร้างประชาธิปไตยแบบบูรณาการ ซึ่งต้องใช้การสื่อสารอย่างมาก การสื่อสารเรามีเยอะ แต่ต้องสร้างให้มีความมุ่งมั่นร่วมกัน

2.ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยที่ต้องการ คือประชาธิปไตยอย่างบูรณาการ ที่แล้วมาพูดกันคนละส่วน พวกหนึ่งต้องการการเลือกตั้ง อีกพวกหนึ่งก็ต้องการความสงบเรียบร้อย อีกพวกหนึ่งต้องการการพัฒนาที่ได้ผล ก็จะพูดว่า คุณเลือกตั้ง แต่คุณพัฒนาไม่ได้ผล คุณไปก่อความรุนแรง แต่คุณต้องการทั้งหมด ที่เรียกว่าบูรณาการ แต่ประชาธิปไตยก็ต้องการ มีอยู่ 3 ระดับ คือ ชุมชน ท้องถิ่น ระดับชาติ แล้วต้องการความสงบเรียบร้อยด้วย แล้วก็ต้องการการพัฒนาประเทศที่ได้ผลด้วย เป็นประชาธิปไตยบูรณาการ พร้อมกันทั้ง 3 อย่าง ซึ่งไม่มีก็ไม่ได้ บ้านเมืองก็ไม่ลงตัว

3.พรรคการเมือง ต้องพัฒนาไปสู่ความเป็นสถาบัน คือต้องเป็นเครื่องมือของประชาชน สร้างความรู้ สร้างความดี สามารถสังเคราะห์นโยบายได้ ผลักดันนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้ เป็นผู้นำประชาชนไปในทิศทางที่ดี แล้วฝ่ายวิชาการก็ดี สื่อมวลชนก็ดี ต้องสนับสนุนให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ก็ต้องพัฒนาพรรคการเมืองตรงนี้ พรรคการเมืองต้องไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง

4.พลังพลเมืองที่กัมมันตะ หรือแอคทีฟ เป็นปัจจัยที่จะทำให้สิ่งต่างๆ ลงตัว

5.กระจายอำนาจไปให้ชุมชนท้องถิ่นปกครองตนเองมากที่สุด

6.ระบบรัฐต้องปรับตัว เพราะระบบรัฐเป็นระบบรวมศูนย์อำนาจ ดังนั้นระบบรัฐต้องเป็นผู้สนับสนุนเชิงนโยบายและวิชาการ อันนี้คือปรับภาพลักษณ์ เรื่องการปฏิรูปจะอยู่ในส่วนนี้

7.การพัฒนาการอย่างบูรณาการและสมดุล ตามแนวทางปราชญ์ชาวบ้านและของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล

“เพราะการพัฒนาหากไม่สมดุลแล้วมันเกิดความเหลื่อมล้ำมาก อย่างประเทศไทยมันเหลื่อมล้ำมาก มันก็เกิดปัญหาสังคมต่างๆ เกิดความรุนแรงต่างๆ การพัฒนาจึงต้องพัฒนาอย่างสมดุล”

8.ไม่ละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะการไปละเมิดทำให้เกิดการต่อต้านและเกิดความรุนแรงขึ้น

"ที่แล้วมามีการไปละเมิดสถาบันฯ ก็ทำให้ฝ่ายหนึ่งไม่ยอม หากไปดูการชุมนุมใหญ่ทั้งสองครั้ง และไม่รู้กี่ครั้ง ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องนี้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคนที่อยากได้ประชาธิปไตย ไม่อยากเห็นรัฐประหาร ก็อย่าไปละเมิดสถาบัน การไปละเมิดต่อไปทำให้เกิดรัฐประหาร ต้องเข้าใจตรงนี้ พวกประชาธิปไตยก็ไปสัมพันธ์อยู่กับพวกละเมิดสถาบันอยู่ด้วย แล้วก็เลยเกิดความรุนแรง เกิดรัฐประหารขึ้น" นพ.ประเวศระบุ

9.หากมีการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ต้องเป็นไปอย่างสันติ อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงหรือรัฐประหาร ที่แล้วไปยั่วยุให้เกิดรัฐประหาร ไปยึด ทำเนียบรัฐบาลบ้าง ยึดที่โน่นที่นี่บ้าง คือต้องไม่ไปถึงขั้นนั้น ชุมนุมก็ได้ แต่ต้องเสนอ ต้องเรียกร้องผ่านระบบรัฐสภา

10.หากมีเหตุที่กองทัพต้องเข้ามาระงับความรุนแรง สมมุติว่ามันเกิดความรุนแรงขึ้น ให้เพียงแต่ระงับความรุนแรง อย่าเลยไปยึดอำนาจ แล้วก็เข้ามาปกครอง คืออย่าทำรัฐประหาร ไม่อย่างนั้นทหารก็เข้ามาเป็นรัฐบาล เสร็จแล้วก็บริหารลำบาก ยาก แล้วก็จะมีคนมาต่อต้าน มันก็วนเวียนกันอยู่แบบนี้ หากทำครบทั้งสิบข้อ ก็จะกันรัฐประหารได้

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/1394905650576270)