วันอาทิตย์, มกราคม 29, 2560

ลองอ่านเคสนี้ดู หนุ่มอังกฤษที่ทำคราฟเบียร์ชื่อ BrewDog ฟ้องจนชนะหน่วยงานรัฐ ข้อหากีดกันรายย่อยไม่ให้ทำเบียร์ (นั่นซิ ทำไมต้องให้แต่รายใหญ่ ๆ ทำ ?)




#BrewDog ลองอ่านเคสนี้ดูครับ น่าสนใจดี.. หนุ่มอังกฤษที่ทำคราฟเบียร์ชื่อ BrewDog ฟ้องจนชนะหน่วยงานรัฐ ข้อหากีดกันรายย่อยไม่ให้ทำเบียร์

(นั่นซิ ทำไมต้องให้แต่รายใหญ่ ๆ ทำ ?)

ตอนนี้ธุรกิจเบียร์ของ BrewDog ขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว และจะเข้าไปบุกตลาดอเมริกาแล้วครับ


น่าคิดว่าทั้ง 3 เรื่องนี้ หากมาเกิดที่เมืองไทยจะเป็นอย่างไรบ้าง

---

แต่อยากให้คิดไว้ว่า ทุกเรื่องมันมีหลายด้าน

ในต่างประเทศ ทุกกิจการ จะเล็กจะใหญ่ ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐทั่งหมด เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้ตามเอาเรื่องได้ถูกตัว

ของประเทศไทย หลายกิจการทำได้โดยไม่ต้องมีใครกำกับดูแล แต่พอเกิดปัญหามาก็หาว่าหน่วยงานรัฐไม่ทำอะไร

หรือขนาดมีหน่วยงานกำกับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เช่น เคส #TrueVisions #รถฟอร์ด

ได้แต่หวังให้หน่วยงานกำกับดูแลของประเทศไทย จะปรับตัวมาทำหน้าที่ด้านการส่งเสริมธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม

ส่วนด้านกำกับดูแล ก็ควรจัดการรายใหญ่ที่ไม่มีคุณธรรมจริยธรรมในการทำธุรกิจ

และที่สำคัญ เลิกรับนัดไปงานเลี้ยง งานแต่ง หรือรับของขวัญจากผู้ประกอบการรายใหญ่เสียที เพราะจริง ๆ แล้วมันคือต้นตอของการทุจริตทั้งนั้นครับ


Law Inspiration shared แดกเบียร์ให้เพลียแคม's post

ooo





1. james watt กับ martin dickie เบื่อตลาดเบียร์ในบ้านเกิด ที่ดื่มแต่ลาเกอร์ซ้ำๆซากๆ ทั้งๆที่ในสก็อตแลนด์บ้านเกิดมีผับอยู่เต็มเมือง แต่ก็มีแต่เบียร์ traditional เดิมๆ ทั้งสองคนเลยต้มเบียร์มันซะเองเลย กูอยากแดกเบียร์บ้าๆโว้ย และกูก็อยากให้คนอื่นได้แดกเบียร์บ้าๆเหมือนกัน พวกเขาตั้งชื่อโรงเบียร์ว่า brewdog ในปี 2007
.
brewdog ตั้งโรงเบียร์ได้ปีเดียว ถูกคณะกรรมการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ uk ฟ้อง (ประมาน สสส. เมืองไทยนั่นแหละ) ข้อหาละเมิดกติกาในการทำการตลาด ชักชวนให้คนมาดื่มเบียร์ brewdog ก็แย้งคืน อ้าวไอ้เหี้ย ที่พวกมึงทำมันขัดขวางธุรกิจรายย่อยโว้ย พวกกูมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำเบียร์แดกป่ะล่ะ คนจะแดกมันก็มีสมองคิดเองได้น่า กูมีสิทธิ์จะทำโว้ย!
.
brewdog ฟ้อง สสส. อังกฤษ ขึ้นศาลไป 8 เดือน พวกเขาชนะคดี และเป็นต้นกำเนิดการทำตลาดแบบบ้าๆบอๆ กวนส้นตีนของทั้ง 2 คนนี้
.
ปัจจุบัน brewdog กำลังบุกตลาดใหญ่อย่างอเมริกา เป็นแรงบันดาลใจให้บริวเวอรี่เล็กๆทั่วโลก เป็นตัวอย่างของการทำการตลาดแบบกวนส้นตีนไม่แคร์ใคร แต่ได้ใจbeergeek
.
อ่อ ลืมบอกไป ล่าสุดทั้งเจมส์ทั้งมาร์ติน ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธที่ 2
.
2. logan plant มีพ่อเป็นนักร้องที่ชื่อว่า robert plant มีแต่คนรู้จักพ่อเขาว่าเป็นนักร้องวง led zeppelin แต่ตัว logan ไม่ได้ชอบดนตรีเลย แต่เขาชอบเบียร์ ชอบแดกบาร์บีคิว ไม่ได้อยากเป็นนักร้องแบบพ่อ แต่อยากเป็นคนต้มเบียร์!
.
โลแกนซื้อหม้อขนาด 50 ลิตร มาลองต้มเบียร์เองในครัวที่บ้าน ทำมั่วไปเรื่อย เรียนรู้ไปเรื่อย เปิดร้านอาหารแนวบาร์บีคิวขึ้นเอง และก็ฝึกหัดทำเบียร์ไปเรื่อยๆ เหตุผลแค่อยากแดกเบียร์อร่อยๆที่ทำขึ้นเองไปพร้อมๆกับแดกอาหารในร้านตัวเอง
.
พอเปิดร้านอาหาร ก็ขยายมาเป็นหม้อขนาด 650 ลิตร เอาแม่งไว้ในครัวนี่ล่ะ ได้เป็น brewpub ขนาดเล็กไปด้วยเลย คนมาแดกก็พูดกันปากต่อปาก เฮ้ย เบียร์ร้านนี้แม่งอร่อยว่ะ
.
โลแกนเริ่มผลิตเบียร์โดยเน้นหลัก pairing กับอาหารในร้านตัวเอง ทำเบียร์ rye ipa ไว้แดกกะซี่โครงหมูแซ่บๆดิวะ ทำ smoked porter ไว้แดกกะหมูรมควันไป เบียร์ของโลแกนเลยมีความพิเศษตรงที่กินกับอาหารแล้วมันเข้ากัน
.
ไปๆมาๆหลังจากทนเสียงรบเร้าไม่ไหว โลแกนตัดสินใจก่อตั้ง beavertown ขึ้นมาที่เขตท็อตแน่มในกรุงลอนดอน ค่อยๆเพิ่มกำลังผลิต จนกลายเป็นโรงคราฟต์เบียร์เบอร์ต้นๆของโลก ทำเบียร์แทบจะทุกสไตล์ครอบจักรวาล
.
3. evin o'riordain เป็นพนักงานขายชีส รู้เรื่องทุกอย่างของชีส สามารถบอกลูกค้าได้หมดว่าชีสมีแบบไหนบ้าง ชีสอะไรควรกินคู่กับอาหารอะไร evin มีงานอดิเรกคือการจิบเบียร์ในช่วงพักผ่อน จนเมื่อเขาได้ไปเที่ยวอเมริกา evin พบว่าเบียร์แม่งทำไมมีเยอะจังวะ ขนาดในผับเล็กๆแม่งยังมีเบียร์เฉพาะของตัวเอง แล้วแม่งเสือกอร่อยอีก เฮ้ย กูอยากลองทำบ้างว่ะ
.
evin ไม่เคยรู้เรื่องการต้มเบียร์มาก่อน เขาเริ่มต้มเบียร์ครั้งแรกก็ปาไปอายุ 30 กว่าๆแล้ว แต่ในเมื่อคนอื่นแม่งต้มได้ ทำไมกูจะทำไม่ได้วะ
.
evin เริ่มเรียนรู้วิธีการทำเบียร์จากอินเตอร์เน็ตและการอ่านหนังสือ ใช้เวลาว่างหลังการขายชีสไปต้มเบียร์เงียบๆ ทำเสร็จก็เอาเบียร์ไปให้เพื่อนๆลองดื่ม พอนานเข้า ฝีมือเริ่มกล้าแกร่ง เพื่อนแม่งบอก เฮ้ย เบียร์มึงแม่งอร่อยว่ะ ต้มขายไปเลยเหอะ ของอร่อยแม่งต้องให้คนอื่นได้แดกสิวะ จะแดกกันเองไปทำหอกอะไร
.
พี่อีวินเลยตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เลือกเอาห้องว่างเล็กๆใต้ทางรถไฟ (เพราะเป็นที่ๆค่าเช่าถูกที่สุด และส่วนใหญ่เขาเช่าเอาไว้เป็นที่เก็บของกัน ไม่มีใครเขาเช่ามาทำกิจการอะไร) ทำ nano brewery ขนาดย่อม แทบทุกขั้นตอนใช้กำลังคน ฉลากแม่งก็พิมพ์ด้วยตราปั๊มธรรมดา แล้วเอามือแปะ บรรจุขวดก็ใช้เครื่องจีบฝาทำทีละขวด เอาวะ กูทำแม่งบ้านๆแบบนี้ล่ะ ส่งขายแม่งแค่ใกล้ๆก็พอ
.
อ่อ ลืมบอกไป โรงเบียร์พี่อีวินเขามีชื่อว่า the kernel ปัจจุบันได้รับการขนานนามว่าเป็นโรงคราฟต์เบียร์ตัวท็อปของอังกฤษ
------------------------------------------------------------------------
ทั้ง 3 ข้อข้างบน เป็นตัวอย่างของคนมีความฝัน ไม่ได้ตั้งต้นเพราะอยากรวยหรืออยากเมาอย่างเดียว แค่อยากทำเบียร์ดีๆให้คนอื่นได้แดก บางคนก็แค่อยากกินของอร่อยๆแล้วก็อดใจไม่ไหว ของอร่อยมันต้องให้คนอื่นได้แดกด้วยสิวะ บางคนก็อยากพิสูจน์ว่ากูจะทำได้มั้ย ในเมื่อคนอื่นทำได้ กูก็ต้องทำได้

ทั้ง 3 ข้อข้างบนนั้น ไม่มีใครมีต้นทุนสูงส่ง เป็นแค่คนปกติธรรมดาที่ใช้ความอุตสาหะส่วนตัว สร้างสรรค์ความมหัศจรรย์ขึ้นมาได้ ไม่ต้องมีเงินสิบล้านร้อยล้านก็ทำความฝันให้เป็นจริงได้

แต่ถ้าทั้ง 3 คนนี้เกิดเป็นคนไทยขึ้นมาเหรอครับ? ไม่ต้องคิดมากครับ เจอพวกเขาได้ที่โรงพักกะศาลได้เลย