วันพฤหัสบดี, มกราคม 26, 2560

วังเวงเต็มรูปแบบ... เผาจริงที่หาดชะอำ




ภาพจาก เว็บบอร์ด - Postjung


เผาจริงที่หาดชะอำ


โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
25 มกราคม 2560
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีโอกาสแวบไปที่หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ชายหาดแห่งนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากหลายปีก่อนที่เคยสัมผัส แต่สิ่งแตกต่างไปคือ ความวิเวกวังเวงที่ครอบคลุมตลอดชายหาดยาวหลายกิโลเมตร

แม้จะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้จะเป็นเวลาเย็นค่ำ แต่ถนนเรียบชายหาดกลับเงียบสงัดเหมือนป่าช้า แทบไม่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศเดินสูดกลิ่นอายทะเล

ร้านอาหารเอสแอนด์พี ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางหาดชะอำ เคยมีลูกค้าพลุกพล่าน เหลือแต่โต๊ะเก้าอี้ว่างเปล่า ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นใจกลางหาดที่เพิ่งปรับปรุงขยายพื้นที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เคยเข้ามาจับจ่ายกันคึกคักตลอดทั้งคืนทั้งวัน มีแต่คนท้องถิ่นแวะเวียนเข้ามาใช้บริการอย่างบางตา

ร้านอาหารทะเลสดริมหาด เปิดไฟเชิญชวนลูกค้าสว่างไสวตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนปิดบริการประมาณเที่ยงคืน มีลูกค้าเข้าไปเพียง 2 คนนั่งกินอาหารโต๊ะเดียว

คนที่มีอาชีพใช้เครื่องมือตรวจจับโลหะ เพื่อหาโลหะมีค่าตามชายหาด ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจทำตกหล่น ปกติจะเริ่มงานตอนค่ำ หลังนักท่องเที่ยวขึ้นจากหาดหมดแล้ว ถือไฟฉายส่องตามชายหาด แต่ต้องหยุดอาชีพไว้ชั่วคราว

เพราะเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำ ของมีค่าที่ตกหล่นจะมาจากไหน

คนเก็บขยะ เก็บขวดน้ำพลาสติก ขวดเบียร์ กระป๋องเครื่องดื่ม ต้องชะโงกลงไปในถังขยะ ต้องก้มตัวเอื้อมมือลงไปที่ก้นถัง เพื่อหยิบหาสิ่งของที่ขายได้

ก่อนหน้าขยะเคยล้นถัง ไม่ต้องลำบากคนเก็บสิ่งของจากขยะ แต่เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีคนทิ้ง ขยะจึงกองอยู่ที่ก้นถัง และแทบไม่อาจหยิบฉวยอะไรมาขายได้ จนคนที่ยึดอาชีพเก็บของจากขยะ ยังแทบเอาตัวไม่รอด

แลกเปลี่ยนกับคนท้องถิ่นที่ฝากชะตากรรมไว้กับนักท่องเที่ยว ถามไถ่ว่า เพราะเหตุใดจึงไม่มีนักท่องเที่ยว ได้รับคำตอบว่า อาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ อาจเป็นเพราะคนต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย อาจเป็นเพราะคนไม่มีเงินใช้ จึงงดเดินทางท่องเที่ยว

ภาวะเงียบสงัดของชายหาดชะอำ เกิดขึ้นมาแล้วหลายเดือน และไม่มีสัญญาณว่า เมื่อไหร่จะฟื้น ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวออกอาการย่ำแย่ไปตามกัน

คนในพื้นที่เล่าติดตลกให้ฟังว่า แม้แต่มิจฉาชีพที่หากินกับการลักเล็กขโมยน้อย ชิงทรัพย์ ล้วงกระเป๋า ยังต้องย้ายสำมะโนครัวไปหากินพื้นที่อื่น เพราะถ้ายังปักหลักหากินที่หาดชะอำ อาจอดตาย

ไม่ต้องพูดถึงโต๊ะเตียงให้เช่าตามชายหาด ไม่ต้องพูดถึง “บานาน่าโบ๊ท” ที่ให้บริการ ธุรกิจสถานที่พัก ร้านอาหาร รอวันเฉาตายกันเป็นแถว

บริเวณชายหาดจังหวัดเพชรบุรี ไล่ตั้งแต่หาดเจ้าสำราญ หาดปึกเตียน ยันหาดชะอำ ข้ามไปถึงหัวหิน ทุกแหล่งท่องเที่ยวเงียบเหมือนกัน

รายได้จากการท่องเที่ยวที่ลดฮวบ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจังหวัดเพชรบุรี โดยการค้าทุกประเภทเงียบเหงาแม้แต่ร้านค้าในตลาดสด ยอดขายยังทรุด

ร้านขายอาหารเช้าชื่อดัง ร้านข้าวต้มรอบดึกที่คนเพชรบุรีรู้จักดี เพราะแม้แต่คนท้องถิ่นยังต้องเข้าคิวรอกิน แต่ทุกวันนี้ลูกค้าบางตา เจ้าของร้านชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องใช้บริการเงินกู้รายวัน ยอมจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 20 เพื่อประทังสถานการณ์

ส่วนธุรกิจเงินกู้นอกระบบ ต้องปรับตัวเหมือนกัน เมื่อลูกค้าจนตรอก ไม่สามารถชำระหนี้ได้เต็มจำนวน จะยอมผ่อนปรนให้ โดยจากข้อตกลงต้องจ่ายรายวัน วันละ 80 บาท เมื่อจ่ายไม่ไหว จึงลดการผ่อนจ่ายเหลือเพียงวันละ 40 บาท โดยยืดเวลาการผ่อนชำระนานขึ้น

คนหากินระดับรากหญ้าตามชายหาดเพชรบุรีกำลังฝืดเคืองกันสุดๆ

แหล่งท่องเที่ยวอื่น คงมีสภาพไม่แตกต่างจากหาดชะอำเท่าไหร่นัก โดยถูกความเงียบเข้าครอบงำ และอยู่กันอย่างรอคอยความหวัง รอว่า ตรุษจีนจะดีขึ้น รอว่าช่วงสงกรานต์จะได้ลืมตาอ้าปากบ้าง หลังจากเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ต้องผิดหวังกันมาแล้ว เพราะจำนวนคนที่ไปเที่ยวชะอำน้อยมากอย่างน่าใจหาย

ไปเที่ยวหาดชะอำเที่ยวนี้ ได้สัมผัสกับความวังเวงเต็มรูปแบบ เห็นจะจะว่า ธุรกิจระดับรากหญ้าที่ฝากผีฝากไข้ไว้กับการท่องเที่ยว กำลังรอการล่มสลาย และไม่ใช่เรื่องที่ “มโน” เพราะสามารถลงไปสัมผัสความซบเซาได้ด้วยตัวเอง

ใครว่า เศรษฐกิจใกล้ฟื้น น่าจะลงไปสัมผัสกับชาวบ้าน สัมผัสกับธุรกิจระดับรากหญ้าสักหน่อยจะได้เลิกพร่ำเพ้อเสียที

เพราะข้อเท็จจริงเวลานี้ เศรษฐกิจไม่ได้ใกล้จะฟื้น แต่กำลัง “ฟุบ” หนักเต็มตัว

คนไม่กิน ไม่เที่ยว ไม่ใช้จ่าย ถ้ามีเงินสดกอดไว้อย่างเดียว 

...


ปลายปี57 คนขายของแถวบ้านบอกว่า ดีใจที่บ้านเมืองจะสงบ จะได้ทำมาค้าขาย

ต้นปี60 คนขายของคนเดิม บอกว่า ก็ไม่รู้ว่าคนใหม่จะดีไหม แต่คนเก่าไปสักทีเถอะ ไม่ไหวแล้ว เนี่ยต้องทนถึง แค่ปลายปี

แทบไม่อยากจะทำลายความหวังเลยว่า ... ปลายปีนี้ ก้ยังไม่ไปไหนนะ ดีไม่ดีอยู่ยาว 20 ปีเลย

มิตรสหายท่านหนึ่ง