วันอังคาร, ธันวาคม 06, 2559

"กลวง"





"กลวง"

คอลัมน์นิสต์ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเปิดใจเล่าถึงความผิดพลาด ที่เคยร่วมกับกลุ่มการเมืองข้างถนนปิดบ้านปิดเมืองจนเกิดการรัฐประหาร ทำให้ตัวเองตกงานเพราะหนังสือพิมพ์ที่ทำงานอยู่ต้องปิดตัวลง ผลพวงของรัฐประหารทำให้เศรษฐกิจได้รับความเสียหายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน การบริหารที่ขาดสติปัญญาทำให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจทุกตัวดับสนิท ท้ายสุดต้องใช้การแจกเงินอันเป็นมาตรการสิ้นคิดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ยังไร้ความสามารถแจกเงินไม่ได้ตามกำหนด ดังนั้น จะมีธุรกิจอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องปิดกิจการเพิ่มทำให้คนตกงานจำนวนมหาศาล แต่ที่น่ากลัวคือกลุ่มคนที่ยึดอำนาจและบริหารบ้านเมืองจนเสียหายยับเยินอยู่ในขณะนี้ คือผู้ที่วางยุทธศาสตร์ชาติให้คนไทยต้องเดินตามไปอีก 20 ปี โดยมีรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติด้วยวิธีปิดหูปิดตาประชาชนเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจผ่าน ส.ว. สรรหาและองค์กรอิสระทั้งหลาย

การบริหารบ้านเมืองนอกจากต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์แล้วยังต้องมีต้นทุนทางปัญญา บ้านเมืองไม่อาจบริหารโดยการทำลายฝ่ายตรงข้าม สร้างวาทกรรมขยายความขัดแย้งเพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจต่อไป หรือลอกนโยบายรัฐบาลเก่าโดยขาดความเข้าใจแต่เอามาเปลี่ยนชื่อใหม่ หรือสร้างเรื่องมากลบความล้มเหลวหลอกประชาชนไปวันๆ โลกปัจจุบันอยู่ในยุคของธุรกิจแห่งการทำลายล้าง หรือ Disruptive Economy ซึ่งการเกิดของธุรกิจใหม่จะทำลายธุรกิจเดิม เช่น ธุรกิจฟิล์มถ่ายรูปถูกแทนที่ด้วยกล้องดิจิตอล หรือ โทรศัพท์มือถือแบบเก่าที่ถูกแทนที่ด้วย smart phone เป็นต้น ประเทศจึงต้องการผู้นำที่มีความรู้มากกว่าซ้ายขวาหน้าหลัง หรือมีวิสัยทัศน์แค่เอาเวลาราชการมาแสดงจำอวดออกกำลังโชว์ประชาชน หรือจะผลิตยาสีฟันหรือรองเท้าแตะส่งออกเพื่อตีตลาดโลก แต่ก็นับเป็นความโชคดีของคนพวกนี้ที่มาเกิดในยุคปัจจุบัน เพราะหากเกิดในสมัยขงจื๊อจะถูกเอาไปตัดหัว หรือหากเกิดในสมัยของนายพล Kurt Hammerstien-Equord ของเยอรมันก็ต้องถูกเอาไปยิงทิ้ง คงไม่มีใครปล่อยให้ขยันสร้างความเสียหายได้มากมายขนาดนี้

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
5 ธันวาคม 2559


Watana Muangsook