วันจันทร์, พฤศจิกายน 07, 2559

แอ็คชั่นดราม่า ‘road rages’ ใหม่ไตแลนเดีย #กราบรถกู ดูท่าจะยาว state อาจจะยังไม่ failed เต็มที่นัก แต่สังคมน่ะไปแล้ว






แอ็คชั่นดราม่าใหม่ไตแลนเดีย #กราบรถกู ดูท่าจะยาว เจ้าทุกข์ดั้งจมูกหักเข้าแจ้งความ ตำรวจยันผิดอาญาแน่นอน

ผิดกับตอนบอดี้การ์ดสมีอิสระปิดแจ้งวัฒนะไล่อิปูว์ คราวนั้นไม่เห็นเอาผิดใครได้ ‘Panus D. ‏@PanusD’ เขาตั้งข้อสังเกตุไว้

“ครั้งหนึ่งสังคมไทย แค่ลงรถไปขยับกรวยยังโดนฝูงเห้กระทืบซะน่วม ตอนนี้ยังมีคนใหญ่คนโตกราบไหว้หัวหน้าฝูงอยู่เลย”

แต่ถ้ามองในทางวิชาการ อย่างที่ ‘prajak kong ‏@bkksnow’ ทวี้ตไว้ “ดราม่าต่างๆทางสังคมคือยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่ใต้ฐานของมันคือ ระบบคิดและระบบคุณค่าที่ล้มเหลวของสังคมไทย”

ถ้างี้ state อาจจะยังไม่ failed เต็มที่นัก แต่สังคมน่ะไปแล้วมั้ง เพราะอะไร ‘ประจักษ์ ก้อง’ เฉลย

“งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่าในสังคมที่เหลื่อมล้ำสูง คนยิ่งมีปัญหาสุขภาพจิตสูงตาม เพราะหมกมุ่นกังวลกับสถานะของตนที่ถูกวัด+ให้คุณค่าจากสิ่งเปลือกนอก”

เปลือกนอกสีเหลือง ยานยนตร์ราคาเหยียบล้าน มีนิคูเปอร์ของพิธีกรหนุ่มรายการโทรทัศน์ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวหน้าตาดีมาก ถูกแมงกะไซเฉี่ยวท้ายจนเป็นรอย

ผู้ชนเป็นหนุ่มพนักงานสรรพากร ขับเลยไปแล้วย้อนกลับมาดูอาการ เลยโดนเจ้าของมีนิลากคอไปด่าทอแล้วอัดกำปั้นตะบันหน้า มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปลงเฟชบุ๊คแชร์กันว่อน (ส่วนมากด้วยความไม่พอใจ)





กลายเป็นว่าหนุ่มหน้ามนขับรถมีนินั่นเคยเป็น คนไทยตัวอย่างประจำปี ๒๕๕๙ ของชมรมสมาพันธ์สื่อสารมวลชนแห่งอินสตาแกรม ก่อนจะมากลายเป็นชายชั่วช้าครั้งนี้ เคยทำความดีเป็นจิตอาสา ล้างห้องน้ำสาธารณะ

สำหรับสังคมไซเบอร์ ไอ้เหตุกระทบกระทั่งบนท้องถนนจนเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวถึงขั้นเตะต่อยกัน หรือที่ในอีกซีกโลกฝั่งตรงข้ามเรียกว่า ‘road rages’ นั่นยังพอทำเนา

แต่ที่นี่ไตแลนเดีย ดินแดนที่ฝรั่งผู้เคยหลงเสน่ห์ ‘ยิ้มสยาม’ มาปักหลักอยู่อาศัยระยะยาว (เรียกกันว่า ‘expats’) พากันผละหนีถึงครึ่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานสำรวจของเว็บ ‘ThaiVisa’ ๘๔ เปอร์เซ็นต์ของคนเหล่านี้บอกว่า “ไม่มีความสุข” อีกต่อไป

(http://www.thaivisa.com/…/952127-thaivisa-survey-half-of-e…/)





เจ้าของมีนิโน้มคอชกหน้าคนขับมอเตอร์ไซค์ยังไม่พอ ลากตัวเขาให้ไปไหว้ขอโทษรถมีนิสีเหลืองของตนเสียด้วย ความหมั่นไส้ของมหาชนไซเบอร์เลยทำให้กลายเป็นแฮสแท็กดราม่า #กราบรถกู “went viral”





สำหรับคนโดนต่อย นาย ‘บอย’ กิตติศักดิ์ สิงโต อายุ ๒๕ ปี แม่และพี่สาวพาไปหาหมอเพราะเห็นหน้าตาฟกช้ำ หมอ รพ.เลิศสิน บอกว่าไม่ช้ำเฉยๆ ภายในดั้งจมูกหักไปแล้วด้วย เมื่อพยายามติดต่อหาคนชกไม่ได้ก็เลยไปแจ้งความไว้

ตำรวจ สน.ยานนาวา พินิจคำฟ้องพร้อมตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ ทีแรก รองผู้กำกับแผนกสอบสวนให้ความเห็นว่าสามารถตั้งข้อหา “ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๙ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๖ พันบาท ได้

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว อย่างที่ ‘█Ghost Writer█ ‏@RITT41’ ทวี้ตไว้ “โห... สตช. ถึงกับตั้งโต๊ะแถลงข่าวเลย... อันนี้ยาวจริง ๆ ละ #กราบรถกู”

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องแยกเป็นสองกรณี คือหนึ่งมีการขับรถเฉี่ยวชนกัน สองมีการชกต่อยทำร้ายร่างกาย ซึ่งเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตามมาตรา ๒๙๕ โทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี ปรับไม่เกิน ๔ พันบาท หากผู้บาดเจ็บอาการสาหัสก้เข้าข่ายมาตรา ๒๙๗ ด้วย โทษจำคุกเปลี่ยนเป็น ๖ เดือนถึง ๑๐ ปี

(http://hilight.kapook.com/view/144677)

ตานี้ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายฮึดสู้ (คดี) ด้วยการฟ้องกลับ ทีแรกโอดครวญขอโทษขอโพย ต้นสังกัด (แกรมมี่) เตรียมจัดแถลงข่าวแล้วเปลี่ยนใจเป็นจัดทนายฟ้องสวนแทน

นายอดุล ทินะพงศ์ ทนายความส่วนตัวของนายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือที่รู้จักกันในนาม ‘น๊อต เวคคลับ’ แจ้งว่า “ลูกความของตนนั้นเป็นผู้เสียหายเนื่องจากถูกคู่กรณีชนท้าย...

ได้แจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาททำให้เสียทรัพย์กับชนแล้วหนี แก่คู่กรณีด้วย ส่วนกรณีเรื่องชกต่อยทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิปวีดีโอนั้นในส่วนนี้ก็เป็นสิทธิที่คู่กรณีจะแจ้งความแก่ลูกความตน

แต่ยืนยันว่าในขณะเกิดเหตุที่ดาราหนุ่มทำร้ายร่างกายนั้นเนื่องจากต้องการป้องกันตัว ซึ่งระหว่างที่พูดคุยกันนั้นตัวคู่กรณีเองมีท่าทีคล้ายจะต่อสู้”

(https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_87611)

อันนี้ทนายน้อย ‘อานนท์ นำภา’ มีคอมเม้นต์ว่า “ดราม่ากันต่อไปครับ...เอ่อ คือ มันมีคลิปนะครับ ถ้าจะแถกันไปแบบนี้ คงยาว...”

ยาวแค่ไหนไม่รู้นะ แต่ทางฝ่ายมอ’ไซค์เขาแก้ต่างได้หมด ข้อหา “ขับรถโดยประมาททำให้เสียทรัพย์กับชนแล้วหนี” นั้นหนุ่มบอยให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนถูกรถแท็กซี่ขับเบียดจนไปชนท้ายรถมีนิ ที่ขับออกไปไม่ได้หลบหนี เพียงพยายามจะตามไปหยุดรถแท็กซี่ให้รับผืดชอบ แต่เมื่อตามไม่ทันจึงวกกลับมาหาเจ้าของรถมีนิ

“แต่เจ้าของรถไม่ฟัง เอาแต่ตะคอกแล้วทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในคลิป”

ล่าสุด “นายอำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท) เปิดเผยต่อ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า

“คณะกรรมการฯ มีมติแล้วว่าจะเรียกคืนรางวัลคนไทยตัวอย่างประจำปี ๒๕๕๙ คืน” จากนาย #น็อต กราบรถกู

ถึงกระนั้น ‘ดราม่าไตแลนเดีย’ จะยังไม่จบง่ายๆ ในเมื่อแดนสยามเมืองยิ้มกำลังเปลี่ยนไปเป็นสังคมที่นิยมความรุนแรงยิ่งขึ้น





จากคำถามของ ‘Somchai Tum Jaitong’ นักเล่นสื่อโซเชียลคนหนึ่ง “กับเหตุการณ์แค่เฉี่ยวชนนิดหน่อย...แถวย่าน ถ.เจริญกรุง ใกล้ๆโรบินสันบางรัก ทำไมใหญ่คับฟ้าอวดศักดามาก ถ้าเป็นคุณ...จะทำแบบนี้กันมั้ยครับ สังคมเมืองไทยเป็นแบบนี้แล้วหรือ”

อาจจะใช่ก็ได้ เพราะในวันเดียวกันบนทางด่วนศรีรัช ตรงด่านเก็บเงินประชาชื่น ก็เกิดเหตุรุนแรงผู้โดยสารมากับรถกระบะทำร้ายพนักงาน รปภ. ถึงขั้นฟุบลงไป

หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายงานว่า รถกระบะสีบรอนด์พยายามจะขับผ่านทางช่องอีซี่พ้าสแล้วผ่านไม่ได้สองครั้งสองครา เพราะไม่มีบัตร

รปภ. เดินไปบอกให้ถอยออกไปเข้าช่องจ่ายเงินสด ผู้โดยสารบนรถ ๑ ใน ๕ คนไม่พอใจว่า รปภ. พูดไม่ดี เลยลงไปชกต่อย รปภ. วัย ๕๒ ปี ที่หน้าและตา จนฟุบลงไป

ฤๅว่าประเทศนี้วัฒนธรรมในทางภาษาสูงส่งเสียจนต้องใช้กำปั้นแก้ไขกัน