วันพุธ, พฤศจิกายน 09, 2559

อีกดราม่า ครานี้ในที่สูงเสียดฟ้า เพราะว่าอยู่บนเครื่องนกแอร์ช่วงกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่





อีกดราม่า ครานี้ในที่สูงเสียดฟ้า เพราะว่าอยู่บนเครื่องนกแอร์ช่วงกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่

ซ้ำคนแสดงก็จัดเป็น ‘ชนชั้นสูง’ ของประเทศไทย เพราะเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากคนหนึ่ง ชนิดที่นิตยสารHigh-class เอ่ยถึงในฐานะ ‘อัจฉริยะหลากมิติ’ โดยมีผลงานที่ปรากฏต่อมาชิ้นหนึ่งจากการเรียบเรียงเสียงประสานดนตรีคล้าสสิกสำหรับบทละครพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖ เรื่อง ‘มัทนะพาธา’

ล่าสุดเป็นวาทยากรเอกในการถ่ายทำภาพยนตร์ชุดพิเศษของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ในการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกลางท้องสนามหลวงของพสกนิกรนับแสน ในการถวายอาลัยพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสู่สวรรคาลัย

นอกจากเชิดชูสถาบันกษัตริย์อย่างโดดเด่นแล้ว ก่อนหน้านี้ สมเถา สุจริตกุล ยังมีบทบาทสุดลิ่มในทางต่อต้านขบวนการเสื้อแดง และสนับสนุน พธม. อย่างแข็งขัน

เขาเป็น Thaksin Hater ตัวยง ถึงขั้นออกตัวตอบโต้กับนายรอเบิร์ต อัมสเตอดัม ทนายความระหว่างประเทศที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เคยว่าจ้างเป็นที่ปรึกษากฎหมาย จนทำให้ ‘อี๊ปอง’ อัญชะลี ไพรีรัก เขียนเชิดชูไว้ในผู้จัดการออนไลน์ว่าประดุจดังกระบี่ “ดื่มเลือดศัตรูของแผ่นดินไทย”





เหตุเป็นข่าวเกิดเมื่อเขาเดินทางไปร่วมงานร้องเพลงสรรเสริญฯ ที่ยะลา วันที่ ๘ พฤศจิกายน ขณะเครื่องบินกำลัง airborne ช่วงกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ เขาอ้างว่า “มันเป็นอารมณ์ร่วมต่อเนื่องจากผู้โดยสารคนหนึ่งปรารภว่าเสียดายไม่ได้ไปร่วมร้องเพลงสรรเสริญฯ ที่สนามหลวงเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม”





สมเถาได้ลุกขึ้นแสดงท่าวาทยากรให้ผู้โดยสารจำนวนหนึ่งร้องเพลงสรรเสริญร่วมกันเสียงลั่นบนเครื่อง ยังความรื่นเริงต่อผู้ร่วมวงหลายคน แต่ก็สร้างความอึดอัดให้กับผู้โดยสารอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้พนักงานหญิงของนกแอร์คนหนึ่งพยายามโดยไม่ประสพความสำเร็จเข้าไปขอให้หยุดและกลับสู่ที่นั่ง

เป็นผลให้นางถ่ายเถา สุจริตกุล (นักเขียนนิยายชื่อดัง) ซึ่งเป็นมารดาของสมเถา โพสต์ข้อความสาดเสียต่อพนักงานหญิงคนนั้นทางเฟชบุ๊คว่าเป็น “แร้งสาวแสนสวย มาเชิญแกมไล่ให้กลับไปที่นั่ง”

นี่แหละดราม่าจึงเกิดขนานใหญ่ มีการเขียนต่อล้อต่อเถียงกันทางสื่อโซเชียลมากมาย ส่วนใหญ่ไม่เป็นที่เจริญใจนักทั้งสำหรับ ‘สม’ และ ‘ถ่าย’ เถา





“แอร์เค้ามาบอกให้กลับไปนั่งที่ เพราะกัปตันเปิดสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัด เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดีค่ะ” คอมเม้นต์หนึ่งชี้

“ที่สร้างมาจบกันครับลุง อายุขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ว่าที่ไหนเหมาะสมทำอะไร ทุกๆ คนรู้ตัวทุกคนว่ารักพ่ออยู่แล้ว แต่มีสติคิดสักนิดเถอะครับลุง” อีกคอมเม้นต์เตือนใจ

“มีคลิปแบบนี้มาบ้างก็ดีนะครับ จะได้เอาไปสอนเด็กเรื่องกาลเทศะ” ประโยคนี้ดูจะสรุปได้จะแจ้ง

เหตุการณ์ครั้งนี้มีรายงานที่ ‘ข่าวสดอิงลิช’ โดยประวิทย์ โรจนพฤกษ์ เล่าถึงผู้ใช้นาม ‘Techa Tabthong’ แสดงปฏิกิริยาต่อโพสต์ของถ่ายเถาว่า เขาเองเป็นผู้มีความจงรักภักดีชนิดยอมถวายชีวิตได้ ก็ยังเห็นว่าการกระทำของสมเถาไม่เหมาะสม

(http://www.khaosodenglish.com/…/royal-anthem-fever-flies-s…/)

ซึ่งสมเถาให้สัมภาษณ์ข่าวสดในบางประเด็น ว่าความเสียใจของเขาอยู่ที่กระทำไปโดยเปี่ยมด้วยน้ำใจ แล้วมาเกิดโอละพ่อเช่นนี้ เขาจึงได้ถอดคลิปที่มารดาโพสต์ออกไปแล้ว แต่เขาก็ยังโทษพนักงานหญิงของนกแอร์คนนั้นว่า “ทำเกินเหตุ” เขาไม่เชื่อว่ามีการตกหลุมอากาศเกิดขึ้นจริง

เขาอ้างในบันทึกข้อความตอบที่ส่งถึงประวิทย์ด้วยว่า หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องขอโทษขอโพยต่อเขาขนานใหญ่ในภายหลัง และแจ้งว่าพนักงานหญิงที่ไปขอให้เขากลับไปยังที่นั่งเพราะมีสัญญานเตือนนั้นเป็นพนักงานใหม่ “ยังไม่มีประสพการณ์ดีเท่าคนอื่นๆ”

ผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดยิบของเหตุ ‘high profile drama in the sky’ ครั้งนี้ สามารถไปหาความสำราญกันได้ที่โพสต์ของ ‘Red Skull V.SE’ ตรงนี้ > https://www.facebook.com/redskullvse/posts/573554849521505

ทว่า ประเด็นสำคัญผุดจากสมเถาดราม่าครั้งนี้อยู่ที่คอมเม้นต์หนึ่งที่ว่า “ไม่เกี่ยวกับรัก/ไม่รักสถาบัน แต่มันคือมารยาทพื้นฐานทางสังคม แอร์เขาทำตามหน้าที Sign on ทุกคนต้องนั่งรัดเข็มขัด ความปลอดภัยคือสิ่งที่ต่อรองไม่ได้”

ทำนองเดียวกับต้นเรื่องที่มาของดราม่า ซึ่งก็คือภาพยนตร์การร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ท้องสนามหลวงของพสกนิกรนับแสน ซึ่ง ‘ท่านมุ้ย’ จัดสร้างอลังการ





และขณะนี้ชัดแจ้งแล้วว่าจะเอาไปฉายที่ไหน ถ้าไม่ใช่ ‘โรงภาพยนตร์’

("A new music video of the Royal Anthem that will be played in cinemas nationwide was approved Tuesday by junta chairman Prayuth Chan-ocha." http://www.khaosodenglish.com/…/10-minute-royal-anthem-com…/)

หากแต่การฉายในโรงภาพยนตร์นี้มิใช่จำเพาะในวโรกาสแห่งการถวายอาลัย ๑๐๐ วัน หรือ ๑ ปี ทว่าจะฉายอย่างถาวรชั่วนาตาปี หากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ว่าที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมีพระบรมราชานุญาต

โดยจะมาทดแทนเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ฉาย (และเปิด) กันอยู่เป็นประจำก่อนหน้าการฉายภาพยนตร์และการแสดงมหรสพทุกครั้ง

เพียงแต่ว่าเพลงสรรเสริญชุดใหม่ใช้เวลามากกว่าของเก่า โดยมีความยาวถึง ๑๐ นาฑี ที่ซึ่งผู้เข้าชมทุกคนจะต้องลุกขึ้นยืนตลอดเวลาที่เพลงบรรเลง