วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 24, 2559

“เวงกำ” ไม่ฮาก็ไม่รู้จะว่างัยแล้วเฮีย





นี่แค่เอาฮา นะลุงตูบ

พุธแรกของนโยบายให้ข้าราชการออกกำลังกายตอนบ่ายสามโมง ลุงโชว์พาวร์เอง นำข้าราชการทำเนียบเต้นแอโรบิค ออกลวดลายหลายท่ายาก เสร็จแล้วต้องลงนั่งปาดเหงื่อ

สู้น้าแม้วเมื่อปี ’๔๕ ไม่ได้ ตอนนั้น “ชื่อของประเทศไทยได้ถูกบันทึกลงใน ‘กินเนสส์ บุ๊ก’ ในเรื่องของการรวมพลังประชาชนออกกำลังกายได้สูงสุดถึง ๔๖,๘๒๔ คน” ข่าวมติชนว่างั้น

(https://www.matichonweekly.com/featured/article_15602)

ขนาดบีบีซีนิวส์ยังรายงานละเอียด ส่วนเอเอฟพีตีภาพน้าแม้วชูแขนแอ่นเอวเก๋เชียวละ





นี่เป็นเนื้อความบรรยายภาพของเอเอฟพี “Thailand's Prime Minister Thaksin Shinawatra (C) swings as he joins a massive crowd in an aerobics session near the Royal Palace 23 November 2002 as part of a global movement for health aimed at being the world's largest health festival.

The massive outdoor aerobics exercise session led by Thaksin and involving more than 50,000 people aims to break the world record. The event joins yearlong national efforts around the world to take further this year's World Health Day theme, ‘Move for Health’. AFP PHOTO/Stephen SHAVER / AFP PHOTO / STEPHEN SHAVER”





ส่วนกรณีสู้ไม่ไหวต้องอาศัยอารมณ์ขัน คันๆ ของ อธึกกิต แสวงสุข แห่งว้อยซ์ทีวี

“เวงกำ” แกว่า “อุตส่าห์ปิ๊งไอเดีย ไหงกลายเป็นตามก้นแม้วซะทุกเรื่อง แถมวันเดียวกันอีกต่างหาก...

ใครช่วยไปค้นหน่อยสิ ไอ้แม้วมันเกณฑ์ข้าราชการไปเต้นแอโรบิกในเวลาราชการรึเปล่า? จะได้เอามาด่า”

ไม่ฮาก็ไม่รู้จะว่างัยแล้วเฮีย

ติ่งนิด (ป.ล.) ก่อนแวบไปเล่นเทศกาลกินไก่งวง

แค่ตะหงิดว่าคนนี้ชักจะมาแรงใน (ประ) ยุทธจักร เขาพูดเป็นลาง (ดีน่ะ) ว่าปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (แต่) ไม่รู้เมื่อใด เขาพูดสไตล์ผู้นำในยุค ‘ยึดอำนาจเพื่อประชาธิปไตย’ เด๊ะเลย

หนึ่งคือ “เปลี่ยนแผ่นดิน เปลี่ยนรัชกาล ส่วนเมื่อใดนั้น อยู่ในพระราชวินิจฉัย”

กับสอง “การประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ผมไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อใด เพราะเป็นพระราชอำนาจใน ๙๐ วัน หลังจากรัฐบาลทูลเกล้าฯ ไปแล้ว”

นายวิษณุ เครืองาม ปาฐกถาในงาน THAILAND 2017 ภูมิทัศน์ใหม่เศรษฐกิจไทย พูดถึงเรื่องหลักทศพิธราชธรรมของพระราชาที่พสกนิกรต้องนำมาปรับใช้

“ให้เกิดผลเพื่อความสุข...ถือเป็นหลักธรรมที่ทุกคนต้องปฏิบัติ และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง”

(http://www.posttoday.com/politic/466972)

สำหรับเรื่องเลือกตั้ง ยันว่ามาทันแน่ปีหน้า แต่ว่าเลือกเสร็จแล้วอาจได้รัฐบาลในปีต่อไป เพราะ “อาจมีตัวแปรซึ่งวันนี้ยังมองไม่เห็น”

ทั่นรองฯ ฝ่ายศรีธนญชัยสาธยายต่อว่า “แต่อย่าไปไกลขนาดว่าจะมีรัฐบาลใหม่ในปี ๖๐ เพราะหลังเลือกตั้ง ต้องใช้เวลา ๒ เดือนก่อนประกาศผล

ซึ่งการเลือกตั้งแบบใหม่ เราไม่เคยเจอที่ใช้บัตรใบเดียว อาจเกิดกรณีเดียวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ แพ้ชนะด้วยตัวแปรที่เปลี่ยนไปด้วยระบบสัดส่วนที่ใช้ วิธีนับคะแนนก็ผิดจากเดิม ไม่ใช่ได้คะแนนมากที่สุดจะได้เป็น ที่ได้ไม่มากที่สุดก็อาจได้เป็น”

(https://prachatai.com/journal/2016/11/68975)

โอว์ ทั่นรองฯ ทันสมัยมาก เหมือนอย่างเมกาเป๊ะเลย แต่ถ้าจะตามต้องตามให้สุดนะ ตอนนี้เมกาเขาจะร้องเรียนให้นับคะแนนใหม่สำหรับ ๓ รัฐ คือ มิชิแกน วิสคอนวิน และเพ็นซิลเวเนีย รัฐที่เป็นฐานเสียงเดโมแครทเดิม





ดร.จิล สไตน์ ผู้สมัครพรรคกรีนเป็นต้นคิด หลังจากปรากฏว่าคะแนนป้อปปูล่าโหวตของฮิลลารี่ คลินตันมากกว่าดอแนลด์ ทรั้มพ์ ถึงสองล้านกว่าเสียง เธอคิดว่าอาจจะมีการ ‘แฮ็ค’ คะแนนโหวตทางอินเตอร์เน็ตได้

(http://www.politico.com/…/jill-stein-recount-three-states-e…)