วันจันทร์, พฤศจิกายน 21, 2559

เรื่องของ “จ่า”





หน้า 8 : เรื่องของ “จ่า”


มติชนสุดสัปดาห์
20 พฤศจิกายน พ.ศ.2559


ไม่ได้ขวาง “โลก” แต่ “โลก” กำลังล้อมประเทศไทย
ไม่ใช่แค่เรื่อง “การเมือง”
แต่เรื่อง “เศรษฐกิจ” น่ากลัวยิ่งกว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้าวย่างของ “จ่า” ที่รวยที่สุดในโลก
“จ่า-แม็ก”
…แจ็ก หม่า
เจ้าของ “อาลีบาบา-อาลีเพย์” ที่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน
“อาลีบาบา” เป็นเครือข่าย “อี-คอมเมิร์ซ” หรือการขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “อาลีบาบา” จัดกิจกรรม “วันคนโสด” ซึ่งเป็นการส่งเสริมการขายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี
ทั้งลดราคาสินค้าแบบโหมกระหน่ำให้ผู้คนแย่งชิงสินค้าราคาถูก
เชื่อไหมว่าเพียงแค่วันเดียว “อาลีบาบา” ทำยอดขายได้ 8,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรือ 285,000 ล้านบาท
ย้ำอีกครั้ง
…วันเดียว

ไม่เพียงเท่านั้น ระบบ “อาลีเพย์” หรือการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือก็ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน
ระดับที่ซื้อผลไม้ที่แผงข้างทางก็ใช้โทรศัพท์ตัดเงินได้

ความยิ่งใหญ่ของ “จ่าแม็ก” หรือ “แจ็ก หม่า” จึงทั้งเย้ายวนและน่ากลัว
เย้ายวนจนรัฐบาลประเทศต่างๆ พยายามดึง “แจ็ก หม่า” เป็นพันธมิตร
เพราะหวังอาศัยโครงข่ายของ “อาลีบาบา”
แต่ในมุมหนึ่งก็น่ากลัว
โดยเฉพาะกลุ่มฟินเทค หรืออี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย

มองมุมไหนก็ยากจะสู้กับ “จ่า-แม็ก”

ลําพังแค่ “จ่า-แม็ก” คนเดียวก็หนักหนาสาหัสพอแล้ว
แต่วันนี้ “แจ็ก หม่า” จับมือ “ธนินท์ เจียรวนนท์” เจ้าสัวซีพี
คนหนึ่ง มีเครือข่ายอี-คอมเมิร์ซ และระบบการเงินยุคใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อีกคนหนึ่ง มีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ “ทรูมูฟเอช”
มีบัตรเติมเงิน “ทรูมันนี่”
มี “เซเว่นอีเลฟเว่น” ที่มีเครือข่ายมากที่สุด
และอื่นๆ อีกมากมาย

ทันทีที่ยักษ์ใหญ่จับมือกับยักษ์ใหญ่
ไม่เพียงแค่เหล่าหญ้าแพรกจะสะดุ้งสะเทือน
แบงก์ใหญ่ทั้งหลายก็ร้อนๆ หนาวๆ เช่นกัน
เพราะนี่คือ คู่แข่งตัวจริงในทศวรรษนี้

มากทั้งเงิน มากทั้งเทคโนโลยี
และมากทั้งบารมีทางการเมือง

ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าหลังจาก “แจ็ก หม่า” มาเมืองไทย
กลับไปได้ไม่กี่วัน ทีมงานของ “พี่จ่า” ก็เดินสายไปทุกกระทรวง
รุกคืบชนิดตั้งรับไม่ทัน
จับตา “ความเปลี่ยนแปลง” ครั้งใหญ่ให้ดี

“พี่จ่า” มาแย้ว…