วันเสาร์, พฤศจิกายน 26, 2559

4 ความลับที่ธนาคารไม่เคยบอก เวลาไปฝากเงิน





4 ความลับที่ธนาคารไม่เคยบอก เวลาไปฝากเงิน


ที่มา เวปพันทิป


คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการนำเงินไปฝากธนาคารเพราะเชื่อว่าปลอดภัย เงินต้นไม่หาย แถมได้ดอกเบี้ยอีกต่างหาก และในปัจจุบันธนาคารต่างๆ ก็ออกผลิตภัณฑ์มากมายเพื่อดึงดูดให้เรานำเงินไปฝาก ยิ่งฝากมากยิ่งได้รับผลประโยชน์มาก โดยไม่เคยบอกเราเลยว่า เราจะเสียอะไรไปบ้างหากเรานำเงินออมทั้งหมดไปฝากไว้กับธนาคาร วันนี้เราจะมาเปิดเผยความลับทั้ง 4 กัน

1. ยิ่งฝากนานเงินยิ่งหาย

จากความเชื่อที่ว่าฝากแบงค์เงินต้นไม่หาย แถมได้ดอกเบี้ยสบายจะตาย เรื่องนี้มันถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะเงินต้นไม่หาย แต่มูลค่าเงินลดลงตลอดเวลาเนื่องจากเงินเฟ้อ

แล้วเงินเฟ้อคืออะไร??? เงินเฟ้อก็คือ ภาวะที่ราคาของสินค้าต่างๆ สูงขึ้น ทำให้มีเงินเท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าได้น้อยลง หรือสรุปง่ายๆ คือมีเงินเท่าเดิม แต่มูลค่าของเงินลดลง เงินเฟ้อเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ประมาณ 3% แต่ดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปในปัจจุบันมักจะต่ำกว่า 3% เมื่อหักลบกันแล้ว มูลค่าของเงินก็ยังคงน้อยลงอยู่ดี

2. เสียโอกาสในการให้เงินทำงานแทนเรา

ข้อดีของเงินฝากคือ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและยามฉุกเฉินได้ทันที (ไม่รวมเงินฝากที่มีเงื่อนไขพิเศษ) แต่การฝากเงินมากเกินความจำเป็นทำให้เราเสียโอกาสนำเงินส่วนเกินไปลงทุนสร้างผลตอบที่ดีให้กับเราในอนาคต

หลายคนกลัวคำว่าลงทุน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนและอาจขาดทุนได้ แต่จากสถิติพบว่าการลงทุนในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โอกาสขาดทุนก็จะน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นยิ่งเริ่มลงทุนเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาลงทุนนานขึ้น โอกาสขาดทุนน้อยลง และเงินสามารถทำงานสร้างรายได้แทนเราได้นานขึ้นด้วย

3. ความฝันต่างๆ อาจจะไม่เป็นความจริง

ทุกคนมีความฝันของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเกษียณก่อนกำหนด เที่ยวรอบโลก มีบ้านหลังใหญ่ ส่งลูกเรียนเมืองนอก ความฝันเหล่านี้จะเป็นจริงได้จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก หลายคนคิดว่าพยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะเอาเงินไปทำฝันให้เป็นจริงในวันข้างหน้า แต่การทำเช่นนี้อาจทำให้ความฝันเป็นจริงได้ยากมากหรือไม่มีวันเป็นจริงเลย จากเรื่องเงินเฟ้อในข้อแรก เราจะเห็นว่าฝากเงินในแบงค์ ยิ่งทำให้มูลค่าเงินลดลงทุกวัน เก็บเท่าไหร่ก็ไม่พอค่าใช้จ่ายอยู่ดี ดังนั้นควรแบ่งเงินไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับเรา และนำผลตอบแทนไปทำความฝันให้เป็นจริงในวันข้างหน้า

4. มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เงินคืนหากแบงค์ล้ม

เราเชื่อว่าฝากเงินไว้กับธนาคารไม่ต้องกลัวเงินต้นหาย แต่ในความเป็นจริงถ้าแบงค์เกิดเจ๊งขึ้นมาอย่างเช่นในปี 40 เราจะเอาเงินคืนจากใคร หลายคนบอกว่ามีพระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงินฝากยังไงก็ได้คืนทั้งหมด

มันใช่!!! ถ้าเป็นเมื่อก่อน

แต่ปัจจุบันพระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเงินฝาก ไม่ได้คุ้มครองเงินเต็มจำนวนอีกต่อไป โดยวงเงินคุ้มครองจะค่อยๆ ลดลง ตามรูป




ที่มา: สถาบันคุ้มครองเงินฝาก

จากข้อมูลข้างต้น มันแปลว่าเงินต้นเราไม่ได้ปลอดภัย 100% แบบที่เราคิดอีกต่อไป

จะเห็นว่าการฝากเงินมากเกินความจำเป็นอาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นเราควรจัดสรรเงินให้เหมาะสมทั้งการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เงินสำรองในยามฉุกเฉิน และการลงทุนเพื่อให้เงินทำงานสร้างความมั่งคั่งให้เราในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://www.wealthguruconsulting.com