วันศุกร์, ตุลาคม 14, 2559

'สมเด็จพระบรมฯ'ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ตามราชกิจจาฯ





'สมเด็จพระบรมฯ'ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ตามราชกิจจาฯ

รองประธาน สนช.คนที่ 2 เผยประธานองคมนตรี เป็นผู้สำเร็จราชการโดยอัตโนมัติ ขณะที่ "มจ.จุลเจิม ยุคล" โพสต์ "สมเด็จพระบรมฯ" ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ตามราชกิจจาฯ


ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์
14 ตุลาคม 2559





ตามที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 2 ได้กล่าวว่า จากการประชุมสนช.เมื่อคืนวันที่ 13 ต.ค.นั้น เป็นไปตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญปี 2557 เป็นการเตรียมความพร้อมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางครม.จะต้องส่งชื่อรัชทายาท มายังสนช.รับทราบ และประธาน สนช.ก็ต้องอันเชิญองค์รัชทายาท ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ โดยใช้มาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญปี 50 มาประกอบ แต่ในการนี้นายกฯได้แจ้งว่าได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท ท่านทรงขอเวลาทำพระทัยและแสดงความเสียใจร่วมกับประชาชน ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันก็เป็นไปตามนี้ ดังนั้นในช่วงนี้ก็ต้องมีผู้สำเร็จราชการ ตามมาตรา 24 ก็คือประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมสนช.นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ Chulcherm Yugala (มจ.จุลเจิม ยุคล) ได้โพสต์ข้อความว่า.. ผมขออนุญาต เผยแพร่ เพื่อเป็นความรู้กันครับ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงเป็นผู้ทรงสืบสันตติวงศ์ทันที ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงเสด็จสวรรคต และทรงเป็น พระเจ้าอยู่หัวในหมู่พระราชวงศ์ทันที ตามราชประเพณี และจะต้องทรงพ้นจากตำแหน่ง พระสยามมกุฎราชกุมารทันทีที่ทรงรับขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ คงจะมีประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา แต่ถ้าไม่ทรงรับขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ก็เป็นการสละราชสมบัติ หลังจากทรงรับขึ้นทรงราชย์แล้ว ยังต้องมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอีก จึงจะครบตามแบบแผนตามรัฐพิธี ในการนี้จะมีประกาศปฐมบรมราชโองการ

ในประวัติต้นรัชกาลที่ 6 เคยมีปัญหาว่า ก่อนพิธีราชาภิเษก เป็นพระเจ้าอยู่หัวหรือยัง รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชหัตถเลขา (หน้า 58) เล่าว่าในคืนวันที่ 23 ตุลาคม มีความเห็นแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้เรียกว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน อีกฝ่ายให้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทันที จนในที่สุดกรมเทววงศ์อ้างหนังสือกิจจานุกิจของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ว่าคราวรัชกาลที่ 1 สวรรคต ก็เรียกสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ ว่าพระเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวร ทันที ไม่ต้องรอราชาภิเษก จึงเป็นอันยุติ