วันอังคาร, ตุลาคม 11, 2559

Blame the Victim?.. 'Sita Karnkriangkrai' โต้ 'ชัยวัฒน์ สุรวิชัย' อ้าง'ยุค ศรีอาริยะ' ว่า เคยเตือนให้ผู้นำนักศึกษาซ้ายจัดให้สลายการชุมนุมในวันที่ 6 ตุลาคม แล้ว เขาไม่ฟัง จนเกิดเหตุ 6 ตุลาขึ้น ซึ่งต้องรับผิดพอๆกับเผด็จการที่เข่นฆ่าสังหาร






ชัยวัฒน์อ้างยุค ศรีอาริยะ ว่า ยุค ศรีอาริยะเคยเตือนให้ผู้นำนักศึกษาซ้ายจัดให้สลายการชุมนุมในวันที่ 6 ตุลาคม แล้ว เขาไม่ฟัง ยังคงดึงดันจัดชุมนุม จนเกิดเหตุ 6 ตุลาขึ้น ซึ่งต้องรับผิดพอๆกับเผด็จการที่เข่นฆ่าสังหาร 

เขาพูดกับใคร เมื่อไหร่ กี่โมงของคืนวันที่ 5 ต่อเช้าวันที่6 ตุลา เพราะผมอยู่ในธรรมศาสตร์ในคืนนั้น อยู่ที่ตึกอมธ. ในห้องประชุมตึกนั้น จนถึงตี3 จึงได้แยกตัวออกมาปฏิบัติภาระกิจนอกมธ. ก่อนที่สุธรรมและสุรชาติจะเดินทางไปพบนายกฯ ที่ซึ่งหากจะสลายในช่วงเวลานั้น ที่ไม่มีรถเมล์วิ่งแล้วและกลุ่มกวนเมืองปิดล้อมประตูหน้าที่สนามหลวงแล้วใช่ไหม

1. ชัยวัฒน์ ตอน 6 ตุลา อยู่ในป่าแล้ว คงมาชี้นำให้สลายตัว ให้ดูดี เป็นพระเอกว่าบอกแล้วไม่ฟัง ไม่ได้

2. ยุค ศรีอาริยะ เป็นคนที่เคยมีคนมาพูดอ้างกับผมในวันที่ 17 กันยายน 2 วันก่อนรัฐประหาร19 กันยายน 2549 ในคราวคุยกันที่ฉันท์มิตรสหายเพื่อหาทางออกของวิกฤติการณ์ขณะนั้น ว่า ..ตา เธอไม่รู้อะไร เทียนชัยเห็นหลักฐานมากับตา..(ในกรณีมานุษยาดอตคอม)

เมื่อมีคนไปถามเทียนชัย ถึงหลักฐานที่ว่า เทียนชัยเห็นมากับตา กลับไม่ยอมสู้ตา คนถาม ที่ถูกใส่ร้ายป้ายขี้ จนเดือดร้อนทั้งครอบครัว กลับทำตัวห่อลีบ หลบตาต่ำ อ้อมๆแอ้มๆ ว่ามีข่าวลือถึงเขา เกี่ยวกับเขามากมาย แต่เมื่อรุกคาดคั้นมากขึ้น คำตอบที่ออกจากปากเทียนชัยในวันนั้น กลับเป็นว่า... คุณต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นภาวะสงคราม....

3. เพราะนี่เป็นภาวะสงคราม เทียนชัยถึงกล้าสร้างเรื่องส่งต่อการประดิษฐ์คำลวง กล่าวร้ายมิตรสหายที่เคยร่วมงานร่วมรบกันมาในครั้งกระโน้น ซ้ำยังอยู่ร่วมทับในคราวหลีกลี้หนีภัยไปใช้ชีวิตในราวป่าได้ลงคอ

4. หากเทียนชัยไม่ได้พูด ชัยวัฒน์รับไปเต็มๆนะครับ ข้อหาโกหกลวงโลก เพื่อให้ตัวเองดูเป็นพระเอก ขี่ม้าขาวตลอดกาล นับจาก กรณี 14 ตุลาคม 2516 เพราะกรณีนั้น 14 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เป็นพระเอกของเรื่อง ราว ที่แม้จะมีผู้คนเสียสละ แต่เป็นการเสียสละ ที่ได้เป็นวีรชนสยามประเทศ

5. หากว่ายุค ศรีอาริยะพูดจริง นี่จะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่เคุค ศรีอาริยะพูดกล่าวร้ายมิตรสหายเหมือนกรณีส่งต่อข่าวคราวมนุษยาดอตคอม เพราะในวันนั้น เวลานั้น ช่วงเวลาก่อน 6 ตุลาคม 2519 เพื่อนเราหลายคน ที่เป็นระดับนำในการเคลื่อนไหว คงจะตอบได้เป็นเสียงเดียวกันว่า ยุค ศรีอาริยะ เป็นหนึ่งในคนที่เอาการเอางานที่สุด ที่มีส่วนผลักดันพลังนักศึกษาในวันนั้น 

ยุค ศรีอาริยะ เป็นหนึ่งในซ้ายไร้เดียงสา ที่ให้ยืนหยัดประท้วงขับไล่ทรราชตามที่ถูกกล่าวหานั้นด้วย อันนี้ มีหลายคนกล้ายืนยันร่วมกับผม และพวกเราที่รู้จักยุค ศรีอาริยะดี จะรู้ว่า เยุค ศรีอาริยะในวันนั้น เป็นอย่างไร เอาการเอางานขนาดไหน เสนอให้ทำอะไรบ้าง และ ซ้ายจัดแค่ไหนหรือไม่

6. กรณีนี้ เป็นอีกหนึ่งกรณี ที่ยุค ศรีอาริยะอาจจะบอกจะพูดว่า เพราะนี่เป็นภาวะสงคราม การว่ากล่าวใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายเห็นต่าง ให้หมดความน่าเชื่อถือ เพื่อตัวเองจะได้ดูดีขึ้น เป็นคนดีกับเขาในสังคม เป็นผู้ชี้นำ ทางสังคม ที่จะได้ดูดี โดยการถีบส่งหัวเพื่อนฝุง ที่เคยร่วมทุกข์สุขกันมา ใส่ร้ายป้ายขี้ให้ผู้คน คนอื่นรับไป เป็นคนดีที่ต้องหาเรื่องยกตนให้เป็นคน(ดู)ดี คนอื่นที่เห็นต่างล้วนเลว คนไม่ดี

7. คนนำข้อความที่เทียนชัยมาพูดต่อ คงหงุดหงิดกับบทบาทนำ ที่ตัวเองเคยได้รับ ในฐานะ หนึ่งใน14 ผู้นำนักศึกษา 14 ตุลาคม 16 ที่มาร่วมงานในวันนั้น ที่มาร่วมงาน 40ื ปี 6 ตุลาฯ แล้วบอกว่า ไม่ค่อยมีคนอยากคุยด้วยมากนัก ทั้งๆที่เขาพยายามมาแต่เช้า ทำตัวดีพูดคุยกับทุกๆคนที่พบเจอแล้ว

8. เป็นอีกหนึ่งความเท็จ ที่ยุค ศรีอาริยะพูด(หากพูดจริง)ต่อจากมนุษยาดอตคอมที่พูดให้สมชายฟัง แล้วสมชายตอบคำถามผม เมื่อมีคนถามเขา ถึงกรณีมนุษยาดอดคอมต่อหน้าเขา โดยบอกกล่าวว่ามีข่าวลือเกี่ยวกับตัวเขามากมาย ก่อนจะบอก ว่า สถานการณ์วันนั้นเป็นภาวะสงครามที่ต้องห้ำหั่นกัน เอาให้ถึงตายกันไปข้าง แม้ด้วยความเท็จ ก่อนจะโบ้ยไปที่อีกคนว่า ให้ข่าวเขามาอย่างนั้น

9. ในภาวะเช่นนี้ เหล่าคนดี จึงต้องหาเรื่องหาราวมากล่าวโทษ ใส่ร้าย ป้ายสีผุ้คนคนเห็นต่าง เพื่อที่ตนจะได้กุมสัจจธรรมความดี มากดข่มดูแคลนผู้คนคนเห็นต่าง ก้าวไปเป็นคนดี ที่บริสุทธิ์ ผุดผ่องในสังคม

10. เรื่องราวแบบนี้ ไม่เป็นความลับ คนร่วมเหตุการณ์ยังมีชีวิตอยู่ มีสติสัมปชัญญะดีเกือบทุกคน พูดโกหกกล่าวคำลวงกันไม่ได้ ใครเป็นอย่างไร พูดอะไร ทำอะไร ผู้คนคงยังจดจำกันได้

11. สถานการณ์ในวันนั้น วันที่ 6 ตุลาคม 2519 พัฒนาเร็วมากเริ่มจากเย็นวันที่ 5 ตุลาคม เมื่อนสพ.ฉบันหนึ่งลงรูปอภินันท์ แล้วสื่อวิทยุยานเกราะโหมกระพือข่าวว่า มีการปราบปรามนักศึกษาแล้ว และมีการพิมพ์ภาพละคอนแขวนคอนั้น แจกจ่ายไปทั่ว ซึ่งกรรมการศูนย์ฯเท่าที่อยู่ในขณะนั้นที่ตึก อมธ.ประเมินขั้นต้นในขณะนั้นว่า พวกเขาคงจะเอาเราแน่ และเอาเราจริงๆ เราเลยส่งกรรมการศูนย์เข้าพบนายกฯเสนีย์ที่บ้านพัก ซึ่งการไปครั้งนั้น จนบัดนี้ยังไม่ได้พบมรว.เสนีย์ นายกฯเลย จนวันนี้ ขณะเดียวกันเราประเมินว่าจะสลายการชุมนุมในตอนเช้า เมื่อฟ้าสางแล้ว 

การสลายการชุมนุมในช่วงขณะเวลานั้น หลังเที่ยงคืน ผู้ชุมนุมยังอยู่ไม่ต่ำกว่า 5,000 คน เป็นเรื่องที่เราไม่กล้าเสี่ยงกระทำ และเป็นไปไม่ได้เลย

จะว่ากล่าว ว่าเราไร้เดียงสา ซ้ายจัดอย่างไร ว่าไป ไม่ว่ากัน หากการว่ากล่าวนั้น เป็นการว่ากล่าวฉันท์มิตรสหาย ที่พร้อมด้วยข้อมูล หลักฐาน ว่า เพราะอะไรถึงประนามเรา เรียกว่าซ้ายจัด ไร้เดียวสา จึงทำให้เสียหายมากในวันนั้น และทำให้เสียทั้งขบวน เพราะพฤติกรรมนั้น

เรายอมรับว่า เราอ่อนด้อยด้วยประสบการณ์ เคยผ่านเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานมาครั้ง 20 มีนาคม ที่สยามสแควร์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกขว้างระเบิด จนเพื่อนผมเสียชีวิต ไป 2 คน บาดเจ็บเกือบร้อยคน และครั้งที่จอมพลประภาสเข้าประเทศ แต่เราไหวตัวสลายการชุมนุมก่อน จึงไม่เสียหายอะไร แต่นั่นเทียบกันไม่ได้เลย กับการระดมสรรพาวุธประจำกายที่ขนออกมาล้อมปราบเราในวันนั้น และกระทำการยิ่งกว่าสัตว์ป่า กระทำต่อกัน ในการต่อสู้ ซึ่งเรายอมรับว่า ประเมินจุดนี้ ต่ำมากเกินไป