วันอังคาร, กันยายน 13, 2559

จตุพร พรหมพันธุ์ FB Live : 1. ใจไม่ถึงพอ...ยกเลิกพลเรือนขึ้นศาลทหาร "เฉพาะคดีที่ยังไม่เกิด" - 2. จับตา กกต. ถูกเซ็ตซีโร่ ก่อนพรรคการเมือง... - 3. พรบ.เลือกตั้ง / พรรคการเมือง ล้างบาง



ประธาน นปช. แนะ "ประยุทธ์" ถอนคดีพลเรือนหลังยึดอำนาจออกจากขึ้นศาลทหารทั้งหมด ชี้เปิดโอกาสให้ต่อสู้หาเสรีภาพในศาลปกติ จับตา กกต. ถูกเซทซีโร่ก่อนพรรคการเมือง เชื่ออดีต ส.ส. เพื่อไทยเสนอกฎหมายสุดซอยถูกเชือด เตือนเพื่อไทยเปิดเกมสู้ ถ้านิ่งเฉยสยบยอมขอเมตตา ต้องแพ้ราบคาบ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อ 13 ก.ย. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งตาม ม. 44 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ยกเลิกให้พลเรือนขึ้นศาลทหารนั้น เป็นเพียงการห้ามในคดีที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงทำให้คำสั่งนี้ไม่เกิดประโยชน์ ไม่มีความหมายทางเสรีภาพ

อีกทั้ง การใช้ ม.44 ยกเลิกพลเรือนขึ้นศาลทหารนั้น หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เป็นการให้เฉพาะคดีที่ยังไม่เกิดขึ้น และคดีที่เกี่ยวข้องกับประชามติและความมั่นคงยังอยู่ในศาลทหารตามเดิม แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จะใจกว้างและใจถึงเพื่อคืนความยุติธรรมให้ประชาชนแล้ว ไม่ควรแสดงออกแบบใจแคบ

"พล.อ.ประยุทธ์ ควรมีใจกว้างมากขึ้น ด้วยการยกเลิกคดีทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายหลังการยึดอำนาจที่ขึ้นศาลทหารอยู่แล้ว มาขึ้นศาลตามปกติเพื่อให้ประชาชนได้ต่อสู้หาเสรีภาพตามกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งคดีที่สะท้อนถึงการลุแก่อำนาจ และไม่มีสาระต้องยกคำร้อง ถอนออกจากศาลทหารทั้งหมดด้วย"

นายจตุพร กล่าวว่า กรณีสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณาการร้องเรียนให้ถอดถอนนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์เมื่อครั้งเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์และเสื่อมเสียจริยธรรมร้ายแรง โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาและมีมติเสนอให้ถอดถอนหรือไม่ในการประชุมวันนี้ (13 ก.ย.) ซึ่งเป็นคดีแรกกับการพิจารณาถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

ตนเห็นว่า กกต. เริ่มความวุ่นวายกันมากขึ้น มีทั้งทวงตำแหน่งประธาน กกต.ที่เคยตกลงให้เป็นคนละ 2 ปี เมื่อมีเรื่องราวการถอดถอน กกต.เข้ามาอีกจึงน่าสนใจ เพราะในสถานการณ์ กกต.เสนอแนวคิดเซทซีโร่พรรคการเมือง แต่กลับมีแนวโน้มอาจถูกเซทซีโร่เสียก่อน

ส่วนการพิจารณา พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.นั้น ขณะนี้ส่อว่า จะมีการล้างบางนักการเมืองที่เคยถูกเว้นวรรค 5 ปี หรือที่เรียกว่า พวกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ไม่ให้มีสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง รวมถึงอดีต ส.ส.กว่า 300 คน ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังถูกเล่นงานกรณีเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมอีกด้วย

นายจตุพร กล่าวว่า กกต.ได้เสนอร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยระบุในบทเฉพาะกาลว่า บุคคลใดที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และส.ว. ปี 2550 และกฎหมายพรรคการเมือง 2550 ให้ถือว่า ถูกถอนสิทธิเลือกตั้งตามร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ กกต. เสนอไปในครั้งนี้ด้วย

ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เริ่มพิจารณากรณีอดีต ส.ส.กว่า 40 คน ร่วมลงชื่่อเสนอกฎมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นอำนาจดำเนินการของ ส.ส. แต่ขาดความชอบธรรมจึงถูกต่อต้าน สิ่งที่ไม่ชอบธรรมกว่า คือ ขบวนการมากวาดล้างทางการเมืองกันในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม อดีต ส.ส.กว่า 40 คน ถูก ป.ป.ช. เล่นงานแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นว่า โอกาสอดีต ส.ส. ทั้งหมดที่ร่วมออกเสียงสนับสนุนต้องถูกกวาดล้างตามไปด้วย ดังนั้น การต่อสู้กับขบวนการกวาดล้างควรเริ่มตั้งแต่การจัดการหัวขบวนเสนอร่างกฎหมายจึงจะเกิดความชอบธรรมมากกว่า แต่พรรคเพื่อไทยกลับนิ่งเฉย

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่เริ่มต้นสู้ข้อกล่าวหาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว โอกาสรอดมียากมาก และยิ่งคิดสยบยอมเพื่อขอความเมตตานั้น เป็นความคิดที่แพ้เช่นหลายกรณีที่ผ่านมา แล้วยังลุกลามไปถึงอดีต ส.ส. อีกกว่า 300 คน จะถูกล้างบางไม่ให้มีสิทธิ์ลงเลือกตั้งในครั้งใหม่ด้วย

"การสร้างเงื่อนไขไม่ให้สมัครเลือกตั้งยังมีอีกหลายกรณี และการเป็น ส.ส. ของประเทศไทยยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่การได้มา ส.ว. จากการลากตั้ง กลับมีหนทางสะดวกง่ายดายกว่า ผมจึงอดห่วงชะตากรรมของประเทศในอนาคตไม่ได้ แต่ถึงที่สุด สิ่งที่ไม่ชอบธรรมย่อมไม่มีความยั่งยืนไปได้ตลอด เมื่อทุกฝ่ายมองเห็นสัจธรรม และยึดมั่นประชาธิปไตยที่แท้จริง วันนั้นชัยชนะจะเป็นของประชาชน"



Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์