การวิเคราะห์ที่ไม่ต้องเอาสมองคิด เอาแค่หัวแม่เท้าพิจารณาก็พอ...

นี่แหละที่เค้าเรียกว่าแก่กะโหลกกะลาจริง ไม่รู้ว่าเป็นนักข่าวมาถึงทุกวันนี้ได้ไง คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ สุทธิชัย หยุ่น โพสต์รูปโอบาม่าไปลาว ลงจากเครื่อง ฝนตก เลยกางร่มเอง กับอีกรูป ผู้นำกะลาแลนด์ไปเยือน ฝนตกเหมือนกัน แต่มีเจ้าหน้าทีกางร่มให้ ไอ้หยุ่นก็เอาไปเขียนแบบมโนว่า ดูสิ ลาวไม่แคร์โอบาม่า ต้องกางร่มเอง แต่กับไทย มีน้ำใจให้ เลยเอาใจเป็นพิเศษ

...ตลกว่ะ เรื่องนี้วิเคราะห์ง่ายๆ 1) ฝรั่งมันดูแลตัวเองได้ เรื่องถือร่มเป็นเรื่องปกติ แต่ไอ้ธรรมเนียมกะลาแลนด์ที่ผู้นำติดโรคระบาดมาจากเจ้า ต้องคอยมีคนปรนนิบัติพัดวีขนาดร่มยังถือเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นถือเพื่อแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ก็เท่านั้น 2) ไม่ต้องเอาสมองคิด เอาแค่หัวแม่เท้าพิจารณาก็พอว่า ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ถ้าลาวต้องเกรงใจ น่าจะเกรงใจประเทศไหนมากกว่ากัน?

...สันดานเลียเผด็จการเพื่อประโยชน์ส่วนตัวนั้น เป็นสิ่งอธิบายว่า ทำไม ไอ้หยุ่นถึงเขียนข่าวแบบนั้น ไม่เกี่ยวกับวิชาชีพการเป็นนักข่าวห่าเหวไรหรอก
.....

จบจากนักข่าวแก่เนชั่น ไปนักข่าวสายทหารอีกคน โพสต์รูปอาหารสวัสดิการในกองทัพ แดกจนท้องแตก จ่ายแค่ 10 บาท แล้วก็กระดี้กระด้าว่าหาราคานี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว... เวทนา...

ไอ้อาหารราคาถูกนั้น สวัสดิการมันก็มาจากภาษีประชาชน แต่เอามาใช้เป็นการเฉพาะในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ส่วนอาหารตามท้องถนน กองทัพมันก็ไม่แคร์หรอกว่าจะจานละ 50 หรือ 200...

สวัสดิการของตัวเองนั้นเห็นชอบ ส่วนสวัสดิการประชาชน แม่งตัดหมด ตั้งแต่การสาธารณสุขไปถึงการศึกษา เพราะฉะนั้น ไอ้ข้าวแกงราคาถูกแค่ 10 บาท มึงก็กำลังเอาเปรียบประชาชนครับ


Pavin Chachavalpongpun


ooo



ร้อยเอกฉุน ขึ้นโรงพักแจ้งความ ข้าวผัดหมูจานละ 79 บาท

http://news.sanook.com/2015518/