วันอังคาร, กันยายน 27, 2559

หมดความสง่างาม





เหมาะเจาะสินะ ‘ปัญหาน้ำ’ ท่วมทุกปี ล้างบาปกันด้วยเลือดที่รีดจากปู

ทั่นรองฯ วิษณุ (เครืองาม) บอกเสียหายทั้งสิ้น ๑.๗ แสนล้าน แต่เรียกเก็บกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ๓.๕ หมื่นล้าน ที่เหลือไล่เบี้ยคนอื่นๆ ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ฉะนี้ คำ ‘ล้างบาง’ ที่จตุพร (พรหมพันธุ์) ประธาน นปช.พูดไว้ ไม่เกินจริงเท่าไหร่หรอก

ซ้ำน้ำหลากท่วมมากเกิน ‘ธรรมชาติ’ ปีนี้ เห็นผลแล้วละ

ไม่ใช่แค่ชาวบ้านสูงวัยที่คำแคน ขอนแก่น ออกมากระโจมอกเล่นน้ำกลางถนนประชดทางการ ปล่อย ‘เส้นทางเศรษฐกิจ’ เป็นหลุมลึกน้ำขัง ก่อความเดือดร้อนแก่ผู้สัญจรในท้องที่

แถมมีงบประมาณสะสมของ อบต. ไว้ใช้ซ่อมก็ทำไม่ได้ ผู้รับเหมาบอกฝนตกชุกเกินไป ต้องรอให้หมดฤดูเสียก่อน

(http://www.thairath.co.th/clip/74745)

นี่หละผลเลว-ร้ายของฝนมากเกินไป อย่างที่ลุงตูบว่า “ยังไงต้องท่วม”

แต่คงจะมีที่หนักหนากว่านั้น เมื่อวานลุงตูบหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่สะเบยเลย ตอนเดินผ่านโขยงผู้สื่อข่าวหน้าทำเนียบฯ

“มองมายังกลุ่มสื่อมวลชนที่อยู่ด้านหน้าด้วยสายตา ‘มองค้อน’ และมีสีหน้าเคร่งเครียด โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามเรียกเพื่อซักถาม แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการพูดจาใดๆ ก่อนเดินขึ้นประชุม ครม. ทันที”

อันนี้ตามที่โพสต์ทูเดย์รายงาน (http://www.posttoday.com/politic/456810)





เพราะปีนี้ฝนมากอีกเหมือนกัน ‘มัน’ ที่ชั่งขายใช้การไม่ได้เหมือน ‘ไข่’ ยุคอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) เสียแล้ว

“ราคาหัวมันสำปะหลัง ปีการผลิต ๒๕๕๘/๒๕๕๙ ช่วงโค้งสุดท้ายที่ลดลงเหลือ กก.ละ ๑.๒๐-๑.๓๐ บาท ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ ๒๐ ปีนับจากปี ๒๕๓๙ ที่ราคาเคยอยู่ที่ กก.ละ ๐.๘๐ บาท”

และ “ยังเจอแจ็กพอตซ้ำเนื่องจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ต้องเร่งขุดเพื่อหนีฝนอีก ส่งผลให้คุณภาพเปอร์เซ็นต์แป้งลดลงจากเกณฑ์ ๒๕% เหลือ ๒๑-๒๒% ทำให้ราคาร่วงลงอีก”

ซ้ำดั้มพลอยด้วย “ปัญหาการตัดราคากันเอง ทำให้ราคาส่งออกเอฟโอบีแป้งมันลดลงจากตันละ ๓๓๕-๓๕๐เหลือตันละ ๒๙๐ เหรียญสหรัฐ ต่ำสุดในรอบหลายปีเช่นเดียวกัน”

เป็นการ “ลดลงของราคาอย่างผิดปกติ” ทำให้ชาวไร่มันรวมหัวกันเรียกร้องต่อทางการ ‘ดูแล’ โดยด่วน

เนื่องจาก “เกษตรกรไม่สามารถชุนนุมประท้วงได้เหมือนในอดีต กลไกการแก้ไขปัญหาจึงมีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่

เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการลานมันช่วยเข้ารับซื้อหัวมัน (เปอร์เซ็นต์แป้ง ๒๕%) จากเกษตรกรในราคา กก.ละ ๒.๑๐ บาท ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแป้งในพื้นที่ยืนยันว่า ไม่สามารถรับซื้อในราคาดังกล่าวได้”

(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1474944836)





นี่มัน (ที่ไม่ต้องชั่ง) จะอะไรกันนักหนา ลำพังเรื่องน้องสะใภ้กับหลานชายทำตำบอนบังหลวงกัน ก็ย่ำแย่หมดสง่างาม แล้วยังได้เจอปัญหา ‘ชั่งมัน’ ซะอีก

แล้วอย่างนี้ที่พวกขนหน้าแข้ง คสช. จะตั้งพรรคการเมืองมาเชิดบารมีน่ะไหวไหม หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูปร่วมกับ ไพบูลย์ นิติตะวัน มั่นใจไหวแน่ เพราะแกใช้ไสยศาสตร์เข้าขย่ม

“ในการช่วยสร้างพรรคประชาชนปฎิรูป ผมเล่าให้ ‘สหายเก่า’ ของผมฟังอย่างไม่ปิดบังถึงประสบการณ์ปาฏิหารย์ที่ผมได้ประสบมา”





ดร.สุวินัย ภรณวลัย รองศาสตราจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ผู้ถนัดเรื่องทางในแจงไว้บนหน้าเฟชบุ๊ค “ตอนที่ผมกำลังรับมอบกระบี่มังกรทอง (เล่มที่สองทรงกริชเก้าขนด) จากอาจารย์ในดง อยู่ดีๆ ก็มีพญาผีเสื้อบินมาเกาะที่ตัวกระบี่ก่อนที่จะบินจากไป...

นี่เป็นสื่อจากเบื้องบนที่บ่งชี้ว่า พรรคประชาชนปฏิรูปที่ผมเข้ามาร่วมสร้างกับอาจารย์ไพบูลย์ นิติตะวันนี้
เป็นพรรคของฝ่ายเบื้องบนจริง”

(https://www.facebook.com/suvinaip/posts/1107086675995139?pnref=story)

ก็หวังว่าเมื่อตั้งพรรคเสร็จสรรพรองรับลุงตูบเป็นนายกฯ เลือกตั้ง ไม่ต้องแย่งจากน้องปูว์แล้วละก็ ช่วยกระซิบเบื้องบนอย่าปล่อยน้ำมากเกินธรรมชาติเสียจนเป็นมหาอุทกภัย จนทำให้ต้องถูกล้วงกระเป๋าระนาวอย่างที่ทีมยิ่งลักษณ์โดนก็แล้วกัน