วันเสาร์, กันยายน 10, 2559

หวานเจี๊ยบสนช... "จตุพร" เสียบ สนช. ผ่านงบปี 60 สะท้อนระบบคนดี ไร้การตรวจสอบ



- สนช.ผ่านงบฯปี 2560 จำนวนเงิน 2.7 ล้านล้าน!!! ใช้เวลา 150นาที เฉลี่ยนาทีละ 1.8 หมื่นล้าน!!! คุ้มค่าเงินเดือนจริงๆ

- เสียบบัตรแทนกันผิด แก้ไขร่าง รธน.ไม่ผิด
____________________________________

Facebook live กับ จตุพร พรหมพันธุ์
9 กันยายน 2559

ooo





ประธาน นปช. ชี้ สนช. ผ่านงบประมาณปี 2560 ง่ายดาย สะท้อนสภาลากตั้งตามใจผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ไม่ใส่ใจตรวจสอบภาษีประชาชนให้รอบคอบ ระบุทำเหมือนเป็นเงินส่วนตัวของเผด็จการ คิดทำอะไรก็ได้ เผย ป.ป.ช. เล่นงาน “สมศักดิ์-อุดมเดช” แค่สัญญาณปราม ส.ส. อย่าแก้ รธน. ของมีชัยเด็ดขาด

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อ 9 ก.ย.ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 2.73 ล้านล้านบาท ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง คิดเป็นนาทีละ 1.8 หมื่นล้านบาท จึงแสดงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของสภาแต่งตั้งที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ

“การพิจารณาเช่นนี้ สะท้อนถึงความเหลวแหลกของสภาที่มาจากการลากตั้ง ที่รอแต่การรับใบสั่ง ไม่กล้าตรวจสอบฝ่ายบริหาร เพราะหัวหน้าฝ่ายบริหารเป็นผู้แต่งตั้งอนาคตวุฒิสภา ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองเป็นเผด็จการการตรวจสอบอย่างรอบคอบจึงไม่เกิดขึ้น การพิจารณา 2.30 ชั่วโมงนั้น มีประเทศใดบ้างที่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณคิดเป็นเงินนาทีละ 1.8 หมื่นล้านบาท เมื่องบประมาณเป็นเงินภาษีอากรประชาชน ไม่ใช่งบประมาณส่วนตัวของใคร กลับพิจารณาให้ผ่านอย่างรวดเร็ว แล้วอ้างมีประสิทธิภาพ สง่างาม และซื่อสัตย์สุจริต แต่เป็นการแสดงการทำหน้าที่อย่างเหลวแหลก อีกทั้งไม่มีการถ่ายทอดให้สื่อทั่วไปเผยแพร่สู่ประชาชนได้รับรู้อย่างกว้างขวาง และสิ่งนี้คงเป็นระบบการเมืองที่บรรดาคนดีพึ่งประสงค์ แต่ตรวจสอบไม่ได้ เหมือนผู้มีอำนาจทำอะไรก็ได้ในประเทศไทย”

ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 จำนวน 59 มาตรา ผ่าน สนช. ในวาระสามเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยมติ 189 เสียง งดออกเสียง 2 คน ไม่มี สนช. คัดค้าน หากเป็นการพิจารณาจากสภาเลือกตั้งแล้ว กฎหมายสำคัญเช่นนี้จะผ่านการการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้ง 3 วาระของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา แต่ในยุคการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้ง สนช. จำนวน 220 คน และจะแต่งตั้งเพิ่มอีก 30 คน รวมเป็น 250 คน กลับใช้เวลาพิจารณาเพียง 2.30 ชั่วโมง ย่อมชี้ถึงการไม่มุ่งมั่นเพื่อรักษาประโยชน์ภาษีอากรของประชาชน

นายจตุพร กล่าวว่า ตามแนวทางปฏิบัติของสภาแล้ว ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน ต้องใช้เวลาพิจารณาทั้งวาระแรกและวาระสองเป็นสัปดาห์ เพราะสภานิติบัญญัติต้องซักค้าน อภิปรายตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ใช้รัฐบาลเสนออะไรมาต้องผ่านให้อย่างง่ายดายเหมือนสภาที่มาจากการแต่งตั้งจากการยึดอำนาจ ดังนั้น การปกครองเผด็จการ จะแสดงออกอย่างไรก็ไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่ดี

ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น กรณี ส.ส. เสียบบัตรลงมติแทนกันแล้ว หากเป็นข้อเท็จจริงที่หักล้างไม่ได้ ย่อมไม่อาจพ้นผิดไปได้ แต่กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ตามแนวทางปฏิบัติปกติของสภา แม้ยื่นการแก้ไขแล้ว แต่สามารถแก้ไขถ้อยคำได้ก่อนรอบรรจุในระเบียบวาระการประชุม หรือไปแก้ไขในการพิจารณาวาระที่หนึ่งได้ ซึ่งไม่ได้ผิดปกติ แต่ข้อเท็จจริงนี้ ไม่นำมาพูดคุยกัน

นายจตุพร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการพิจารณาของรัฐสภา และเป็นผลพวงจากเคยยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 291 เพื่อให้ประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ร่างแก้ไขฉบับนี้ไปได้เพียงวาระสอง เพราะรัฐสภาหวั่นเกรงการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่กล้าลงมติในวาระสาม จนต้องมาเสนอใหม่เป็นรายมาตรา โดยยื่นแก้ไขที่มาของวุฒิสภาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแทนการแต่งตั้งบางส่วน จึงเท่ากับเป็นการหนีเสือปะจระเข้ และแก้ไขไม่สำเร็จด้วย

การชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ระบุว่า นายอุดมเดช รัตนเสถียร ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้สลับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นความผิดต้องถูก สนช. ถอดถอนจากตำแหน่ง ส่วนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ถูกยื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาความผิด

นายจตุพร กล่าวว่า การพิจารณาของ ป.ป.ช.ไม่ได้ยึดแนวทางปฏิบัติของรัฐสภาที่สามารถแก้ไขถ้อยคำระหว่างก่อนการบรรจุวาระได้ จึงไม่ใช่การสลับร่างแก้ไข ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ผิดปกติ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การส่งสัญญาณเพื่อปรามไม่ให้ ส.ส. หรือพรรคการเมืองได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2559 ในอนาคตเพราะจะมีจุดจบดังการแก้ไขของนายสมศักดิ์และนายอุดมเดช ที่ถูกชี้มูลความผิดในขณะนี้


Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์