วันอาทิตย์, กันยายน 11, 2559

เยอะจริงๆ เลื่อนยศทหาร 571 นายพล



เห็นกรณีเช่นนี้แล้วคิดถึงคำพูดนึงของ อ.เบ็นผู้ล่วงลับเคยกล่าวไว้ว่า "กองทัพไทยมีขนาดเล็กเกินไปที่จะปกป้องประเทศจากศัตรูภายนอก ในขณะเดียวกันก้มีขนาดใหญ่เกินไปในการควบคุม ปชช.พลเมืองให้อยู่ในอาณัติ" เลยอยากถามอย่างจิงจังว่า

-ทั่นมีความคิดเห็นอย่างไรต่อคำกล่าวข้างต้น 

-ทั่นนายพลเหล่านี้ เคยไปรบเพื่อป้องกันประเทศและรบชนะจริงๆ สักคนมั๊ยคะ? 

-แล้วผลงานที่ทำให้ได้เลื่อนยศเลื่อนขั้น เค้าประเมินกันจากอะไร 

-การเลื่อนยศทหารมีผลอย่างไรต่อความเปนอยู่ที่ดีของ ปชช. และมีผลดีต่อความมั่นคงของประเทศชาติดังที่เค้าอ้างๆ กันอย่างไรคะ 

-และสุดท้ายถามแบบชาตินิยมสุดๆคือ การมีนายพลจำนวนมากมายมหาศาลจะยังผลให้ "ต่างชาติ" เกรงใจ "เรา" อย่างไร 

จงอภิปรายอย่างกว้างขวาง แล้วยกตัวอย่างประกอบให้ชัดเจน ข้อละ 10 คะแนน

เซฟ พรรคกระยาจก's post.

ooo

บทความเก่า เล่าใหม่... เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

13 ก.ย. 2557
เยอะจริงๆ ...... แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์ 


นับถอยหลังอีก 17 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.

แถมหนีบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สูงสุด, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. เกษียณยกแผงไปพร้อมกัน

อ้อ...ยังมีปลัดกระทรวงกลาโหมอีก 1 คน ที่อายุครบแซยิดพอดี

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า การที่ 5 ผู้นำสูงสุดของมหาอำนาจกองทัพไทยต้องปลดระวางพร้อมกัน

ทำให้การโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารปีนี้ถูกจับตามากกว่าทุกปี

เพราะยุคนี้เป็นยุคทหารควบการเมือง การจัดแถววางคิวผู้ที่จะสืบทอดอำนาจกองทัพจากรุ่นสู่รุ่นในระยะยาวก็ทำได้อย่างสะดวกโยธิน

โดยไม่มีฝ่ายการเมืองแหยมเข้าไปแทรกเป็นยาดำ

“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตไม่วิจารณ์โผการแต่งตั้งโยกย้ายทหารขบวนล่าสุดว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

เพราะคนที่จะพ้นตำแหน่งไป ก็ต้องเลือกคนที่ไว้วางใจที่สุด ชัวร์ที่สุดขึ้นมาเสียบแทน

เพื่อรับประกันความมั่นใจว่าแผงผู้นำเหล่าทัพรุ่นใหม่จะเป็นกำแพงเหล็กค้ำยัน “รัฐบาลบิ๊กตู่” ให้แข็งโป๊กยิ่งกว่าโบกปูนซีเมนต์

อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” มีข้อสังเกตว่า โผโยกย้ายแต่งตั้งนายทหารปีนี้มากมโหฬารถึง 1,092 นาย

มีการปูนยศ “พันเอก” ขึ้นเป็น “พลตรีใหม่” รวดเดียวเกือบ 500 คน

โอ้แม่เจ้า...กองทัพไทย “นายพล” เยอะจริงๆ

“แม่ลูกจันทร์” พยายามตรวจสอบข้อมูลอัตรา“นายพล” ที่รับราชการอยู่ใน 5 สาขาใหญ่ของกองทัพไทย 1, กลาโหม 2,บก.สูงสุด 3,กองทัพบก 4,กองทัพอากาศ 5,กองทัพเรือ

ค้นจนเมื่อยก็ยังไม่พบข้อมูลที่ชัดเจน (สงสัยเป็นความลับของทางราชการ)

อนึ่ง การที่กองทัพไทย มี “นายพล” มากเป็นประวัติการณ์

ถ้ามองแง่ดี เป็นการปูนบำเหน็จให้เป็นขวัญกำลังใจ และเพื่อเป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูล

ถ้ามองแง่ดียิ่งขึ้นอีก การที่มีอัตรา นายพลมากๆ จะส่งเสริมให้บุคลากรในกองทัพเกิดความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียว

เพราะไม่ต้องแย่งตำแหน่งนายพลกันเอง

หรือถ้ามองแง่ดีสุดยอด การที่มีนายพลมากๆ เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกองทัพไทย ซึ่งมีแสนยานุภาพแข็งแกร่ง ติดอันดับ 24 จาก 106 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน

ข้อมูลการจัดอันดับความเข้มแข็งของกองทัพล่าสุด ระบุกองทัพไทย มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย กองทัพมีรถถัง 1,380 คัน กองทัพอากาศมีเครื่องบินรบ 260 ลำ และกองทัพเรือมีกองเรือ 74 ลำ

และมีกำลังสำรองพร้อมลุยอีก 2 แสนคน

ถามว่า...กองทัพที่มีทหารประจำการ 3.14 แสนนาย ควรจะมีนายพลกี่คน?

ถ้าคิดสัดส่วน ทหารประจำการ 5,000 คน ต่อนายพล 1 นาย กองทัพไทย ควรมี นายพล ไม่เกิน 628 คน

ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า กองทัพไทย มีนายพลในราชการประมาณ 1,500 นาย เพื่อบังคับบัญชาทหาร 3.14 แสนนาย

แสดงว่ากองทัพไทยมีนายพล 1 นาย ต่อทหาร 200 นาย

นายพลของเราเยอะเกินไปหรือไม่...ฝากให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณา

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าถึงแม้แสนยานุภาพกองทัพไทยจะติดอันดับ 24 ก็จริง แต่เรายังตามหลังกองทัอินโดนีเซีย ที่ติดอันดับ 19 และยังตามหลังกองทัพเวียดนาม ที่ติดอันดับ 23 เฉือนชนะไทยแค่ขนจมูกเท่านั้นเอง

สรุปถ้าวัดกันที่เขี้ยวเล็บ ไทยด้อยกว่าอินโดนีเซีย สูสีกับเวียดนาม แต่เหนือกว่าฟิลิปปินส์ (อันดับ 37) และมาเลเซีย (อันดับ 38) ครึ่งช่วงตัว

แต่ถ้าวัดกันที่จำนวน “นายพล” กองทัพไทยชนะเลิศทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน

เพราะไม่มีประเทศไหนมี นายพลเยอะเท่าประเทศไทย.

"แม่ลูกจันทร์"

http://www.thairath.co.th/content/449669