วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 04, 2559

ดราม่าที่ยิ่งกว่าน้ำตาเปื้อนแก้ม





ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง น้ำตาเปื้อนแก้ม ประกอบข้อเขียน ‪#‎จากท่านยิ่งลักษณ์‬ ที่แชร์กันทางสื่อสารสังคมเมื่อสองสามวันมานี้

(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1665331273793611&set=a.1414089235584484.1073741828.100009502639643&type=3&theater)

ย่อมจะก่อปฏิกิริยาไปในทางที่ว่า ‘ดราม่า-สำออย’ จากพวกที่เคยเป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ เรียกร้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และรองรับการประกาศ “ถ้างั้นผมยึดอำนาจ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อสองปีกว่า...อย่างช่วยไม่ได้

ข้อเขียนดังกล่าวเจาะจงถึงการที่เธอต้องไปขึ้นศาล (ฎีกาแผนกคดีอาญา) เพื่อให้การต่อหน้าบัลลังก์เป็นครั้งแรกในคดีที่ถูกฟ้องร้องว่าโครงการรับจำนำข้าวจากชาวนาในสมัยรัฐบาลของเธอ ทำให้ประเทศเสียหายทางการเงิน ถือเป็นความผิดทางการปกครอง

ข้อเขียนบ่งถึงการต่อสู้คดีของเธอว่า เป็นการยืนหยัดในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง มีความปลาบปลื้มที่ทุกครั้งเมื่อไปศาล มีประชาชนไปให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก และรออยู่จนกระทั่งเธอออกมาจากห้องพิจารณาเพื่อเดินทางกลับ

“ภาพเหล่านี้มันทำให้ดิฉันรู้สึกจุกขึ้นมาที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก...ทั้งจุกและทั้งปวดใจ” แต่ก็ “จะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังค่ะ”

อีกสามวันต่อมา ในซีรี่ส์ ‪#‎เก็บมาเล่า‬ ทางหน้าเฟชบุ๊คของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เขียนถึงอีกว่า “กำลังใจสำคัญเสมอ” เป็นการยืนยันข้อกังขาเกี่ยวกับบทความก่อนหน้านั้นว่า “เป็นของดิฉัน”

เธอยอมรับว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับชีวิตดิฉัน ทุกอย่างก็วิ่งเข้ามา เวลาก็ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที...

เห็นการแสดงออกของพี่น้องประชาชนทุกครั้งที่เจอกัน...บอกตัวเองว่าเราต้องเข้มแข็งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง”

และ “ครั้งนี้อยากจะบอกว่าต้องการกำลังใจจากพี่น้องประชาชนและแฟนเพจด้วยนะคะ”

ใครจะเห็นว่าเป็นดราม่าแค่ไหน จำต้องมองในข้อเท็จจริงต่างๆ ควบไปด้วย ข้อเท็จจริงชุดแรกดูจากฝ่ายที่กำลัง ‘จัดการกับ’ หรือ ‘เล่นงานต่อ’ น.ส.ยิ่งลักษณ์

“ปนัดดาเผยเคาะแล้ว ปูจำนำข้าวเสียหาย ๒๘๖,๖๓๙ ล้าน” พาดหัว นสพ.ผู้จัดการเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคมชี้ถึงตัวเลขที่นายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ (นบข.) รายงานต่อ ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล รมต.สำนักนายกฯ





โดยอ้างถึง “ตัวเลขการระบายข้าวในสต๊อกของฝ่ายบริหารในอดีต มีการรับมอบข้าวเข้ามาจำนวน ๑๓.๓ ล้านตัน แต่ส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ถึง ๑ ล้านตัน คงค้างในคลัง ๑๓ ล้านตัน”

(http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx…)

ส่วนจะมีการฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายในวงเงินดังกล่าว รวมทั้งที่แจ้งว่านายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว. พาณิชย์ รับผิดชอบอีกราว ๒ หมื่นล้าน ดังที่ นสพ.มติชน พาดหัว “รัฐบาลจ่อฟ้องแพ่งค่าเสียหายจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์” แน่หรือไม่

ม.ล.ปนัดดา ตอบเลี่ยงๆ ว่า “นี้เป็นตัวเลขที่ผ่านขั้นตอนที่พิจารณาด้วยความรอบคอบถี่ถ้วนจากทุกภาคส่วนที่ร่วมประชุม...

ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน ต้องพิจารณาอีกรอบหนึ่ง”

ซึ่งก็คงจะภายในไม่กี่วันนี้เพราะได้มีการรายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์แล้วเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจจะได้สัญญานแผน ‘ฟัน’ ของ คสช. รอให้ผ่านวันประชามติไปก่อนค่อยสั่งฟ้องก็ได้ จึงได้เห็นบทอ้อนประชาชนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในตอนนี้

อย่างไรก็ดี ยังมีชุดข้อเท็จจริงอีกส่วนจากภาคเอกชน เว็บ ‘Ispace Thailand’ เก็บเอาไว้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เรื่อง “มหัศจรรย์ข้าวหายเน่า รัฐขายข้าว ๒ ปี ๙.๗ ล้านตัน”

(http://www.ispacethailand.org/political/8764.html)

รายงาน ‘ไอสเปช’ พบว่า “การระบายข้าวของรัฐบาล คสช. สามารถระบายออกไปได้แล้วกว่า ๖.๔ ล้านตัน มูลค่า ๖๖,๖๐๐ ล้านบาท และก็มีการระบายข้าวในฤดูใหม่ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ ๓.๓ ล้านตัน

รวมแล้วสามารถระบายข้าวไปแล้ว ๙.๗ ล้านตัน มูลค่าประมาณ ๑๑๕,๔๐๐ ล้านบาท และหากสามารถระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลในครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ ได้ ก็คาดว่าจะสามารถระบายข้าวออกไปได้เกิน ๑๐ ล้านตัน”

อันเป็นตัวเลขที่ต่างกับคณะกรรมการตรวจสอบฯ อ้าง ยังกับ ‘หลังมือ’

มิหนำซ้ำ ในรายงานของไอสเปชอ้าง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว. พาณิชย์ของ คสช. เปิดเผยเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ว่า

“คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวได้รายงานผลให้ทราบว่า ขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบข้าวทั่วประเทศไปแล้ว ๑,๒๙๐ แห่ง จากที่มีทั้งหมด ๑,๗๘๗ แห่ง ซึ่งคิดเป็น ๗๒%





และพบว่า ๘๐% เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีและถูกต้อง มีเพียง ๑๐% ที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้และเสื่อมคุณภาพ”

อ้า ถ้าอย่างนี้ นอกจากตัวเลขของคุณมูลทองโร่ย ที่ส่งไม้ให้ทั่นดิสกุล ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะ คู่กรณีกล่าวหาว่า ‘ปั้น’ ขึ้นมาเองได้นะ

ร้ายลงไปกว่านั้น จากความจริงที่มีการระบายข้าวออกไปได้ตั้งเกือบสิบล้านตันแล้ว จากตัวเลขสต็อกเดิมสมัยยิ่งลักษณ์ ๑๘ ล้านตัน เท่ากับเหลือข้าวตกค้างมาให้ “ปนัดดาจ่อฟ้อง” ไม่ถึง ๙ ล้านตันเท่านั้น

กับที่นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแจ้งไว้เมื่อกลางเดือนมิถุนายนว่า “การประมูลครั้งต่อไปคาดว่าน่าจะเปิดประมูลในช่วงเดือนกรกฎาคม นี้ปริมาณข้าวที่จะเปิด (ประมูล) ประมาณไม่ต่ำกว่า ๑ ล้านตัน”

ทั้งนี้ “มีเอกชนจำนวน ๖๔ รายเข้ามายื่นซองประมูลข้าวเป็นการทั่วไปครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ ปริมาณ ๒.๒๓ ล้านตัน”

ภาพของข้าวจำนำตกค้างในสต็อกและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่สามารถขายระบายออกได้ ก็ไม่หนักหนาสากรรจ์อย่างที่คุณมูลทองโร่ยกับทั่นดิสกุล painted ไว้เท่าไรนักหรอก

จะฟ้องแพ่งเอาทรัพย์เข้าคลังไว้ให้ คสช. สั่งซื้อยานอวกาศตอนช่วงเปลี่ยนผ่าน ๕ ปี ตั้ง ๓ แสนล้านนั่น มันดราม่ายิ่งกว่ายิ่งลักษณ์หลายร้อยเท่านะ

เสียดายที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมาโอดแบบเบี้ยรองบ่อนมากไปหน่อย สู้เพื่อประชาธิปไตยอะไรเนี่ย ก็รู้ๆ อยู่ว่าเขาจะล้วงกระเป๋าเธอไม่ให้ขยับอะไรต่อไปได้ เท่านั้นเอง

ทางสู้ที่น่าจะเจ๋งกว่าคราบน้ำตา ก็คือเอาข้อมูลจริงออกมายันกับข้ออ้างที่สงสัยจะไม่จริงหรือถูกแต่งหน้า จะสู้ได้ชงัดกว่า