วันอังคาร, สิงหาคม 23, 2559

ไหนว่า "ขอเวลาอีกไม่นาน" ไงครับ





กระบวนการฯ โหวตรัฐธรรมนูญ จนถึงกรณี "ไผ่ ดาวดิน"
สะท้อนให้เห็นว่า....

"ก้าวแรก" บนแผนผังทางเดิน (Road Map) สู่การสืบทอดอำนาจฯ อย่างเต็มรูปแบบ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ..!!

กระบวนการโหวตรัฐธรรมนูญ ที่มีข้อจำกัดในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร มีการการสกัดกั้นการดีเบตและการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ จนทำให้ประชาชนมากกว่า 95% ของทั้งประเทศ ไม่ได้อ่าน หรือฟังข้อดี-ข้อเสียของรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างครบถ้วน รู้กันแต่เพียงงูๆ ปลาๆ ได้ยินแค่เพียง "เขาเล่าว่า" เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบนักการเมืองโกง ก็ออกจากบ้านไปโหวตรับกันแล้ว

รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะปราบโกงได้จริงหรือไม่ ยังไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆ คือ มีเทคนิคของการ "ขายเหล้า พ่วงเบียร์" แอบแฝงอยู่ด้วย ซึ่งก็คือเรื่องของการสืบทอดอำนาจผ่าน สว.แต่งตั้ง จำนวน 250 คน ซึ่งหลังจากนี้ ภาพทางด้านลบต่างๆ ของรัฐธรรมนูญนี้จะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น และมีแนวโน้มว่าอาจมีคนเริ่มไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มาถึงกรณี "ไผ่ ดาวดิน" นักศึกษาที่ออกมาต่อสู้ด้วยอุดมการณ์และความถูกต้อง ไม่ได้เป็นแนวร่วมหรือให้การสนับสนุนการเมืองขั้วใด ค้านในสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าผิด เคยค้านทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ฯ และครั้งนี้ก็ค้านรัฐบาล คสช. กลับถูกลงโทษหนักกว่า "กบฏปิดสนามบิน" ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศหลายแสนล้าน

"บอลจบ คนไม่จบ" เพราะถึงแม้รัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติไปแล้ว แต่หนทางการสืบทอดยังอีกยาวไกล "ไผ่ ดาวดิน" เหยื่อของ "การปิดกั้นผู้ที่คิดต่าง" จึงยังคงต้องรับบท "ไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงดู" เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ที่จะคิดต่างคนต่อๆ ไป

หากรัฐบาลจริงใจในการสร้างความปรองดอง รัฐบาลควรจะแก้ไขข้อขัดแย้งของทุกฝ่าย และควรให้อภัยโดยเฉพาะกับนักศึกษา หรือเยาวชนของชาติ ที่ออกมาทำกิจกรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่รัฐบาลลงมาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนเสียเอง แล้วอ้างว่ามันเป็นกฎ เพราะท่านเป็นคนเขียนกฎขึ้นมาเอง

การกดหัวนักการเมือง กดหัวผู้คิดต่าง กดหัวแม้กระทั่งเยาวชนของชาติที่มีอุดมการณ์ไม่ให้แสดงออก ทั้งๆ ที่มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรนำมาใช้ในโลกปัจจุบัน

ในภูมิภาคนี้คงเหลือประเทศไทยเพียงประเทศเดียวมั๊งครับ ที่ยังคงใช้ระบบแบบนี้อยู่

ไหนว่า "ขอเวลาอีกไม่นาน" ไงครับ




Oak Panthongtae Shinawatra