วันอังคาร, สิงหาคม 23, 2559

“จักรทิพย์” ชี้คนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดเป็นคนภาคใต้และไม่ใช่ชาวพุทธ



“จักรทิพย์” ชี้คนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดเป็นคนภาคใต้และไม่ใช่ชาวพุทธ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุระเบิดในหลาย จังหวัดภาคใต้เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาเป็นคนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และไม่ใช่ชาวพุทธ ด้านสถานีตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานีตั้งรางวัลผู้ชี้เบาะแส 4 คนร้ายปฏิบัติการเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ส่วนศาลทหารให้ประกัน 15 นปป. สั่งห้ามออกนอกประเทศ-เคลื่อนไหวการเมือง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวในระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันนี้ (22 ส.ค.) ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้มีจำนวนมากกว่า 20 คน และเป็นคนในจังหวัดทางชายแดนภาคใต้ รวมทั้งไม่ใช่ชาวพุทธ โดยผู้ก่อเหตุเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่เคยมีประวัติกับทางการ ทำให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาทีมสืบสวนได้เข้าตรวจค้นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งซึ่งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุบางคนเคยเรียนหรือจบการศึกษาจากโรงเรียนดังกล่าว

เอเอฟพีรายงานด้วยว่านับว่าเป็นการให้ความเห็นที่ชัดเจนเป็นครั้งแรกจากฝ่ายตำรวจที่เชื่อว่ากลุ่มชาวมุสลิมในภาคใต้มีส่วนสำคัญในการก่อเหตุระเบิดซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

ก่อนหน้านี้ แอนโทนี เดวิส นักวิเคราะห์ประจำประเทศไทยของกลุ่มไอเอชเอส - เจนส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลข่าวความมั่นคงและการทหาร ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย โดยชี้ว่าหากพิจารณาลักษณะของการปฏิบัติการและอาวุธที่ใช้จะเห็นได้ชัดว่า กลุ่มที่มีศักยภาพในการลงมือก่อเหตุหนนี้มีอยู่กลุ่มเดียวคือกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งก่อเหตุแสดงการต่อต้านรัฐบาลตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาในสามจังหวัดภาคใต้

ขณะที่ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงบอกกับบีบีซีไทยว่า จะมองเฉพาะในด้านเทคนิคเช่นวิธีการปฏิบัติการไม่ได้ แต่ต้องดูมูลเหตุจูงใจด้วยหากต้องการมองหาคนที่มีบทบาทสำคัญในการลงมือ ส่วนเรื่องที่มีผู้วิเคราะห์ว่าระเบิด 7 จังหวัดครั้งนี้เป็นการกระทำของกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น นายปณิธานกล่าวว่าบีอาร์เอ็นไม่น่าจะได้ประโยชน์แต่อย่างใดจากการลงมือดังกล่าว

ด้านเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี ได้เผยแพร่ภาพชายสวมเสื้อเชิร์ตแขนยาวสีขาวสองคน คนหนึ่งสวมกางเกงขาสั้น อีกคนหนึ่งสวมกางเกงยีนส์ และสวมเสื้อคอกลมสีฟ้าข้างใน โดยคนทั้งสองสวมหมวกสีเนื้อ และมีผ้าคาดปาก ซึ่งตำรวจระบุว่าเป็นผู้เข้ามาปฏิบัติการเมื่อวันที่ 10 ส.ค.2559 ช่วงเวลา 17.30-19.20 น. จากตลาดสดถึงโค้งปลาโลมา กับช่วงเวลา 20.30-22.00 น. ขณะเดินทางกลับลงใต้สู่จังหวัดสงขลาบริเวณทางหลวงสุราษฎร์ อำเภอท่าฉาง โดยได้ตั้งรางวัล 1 แสนบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแส หรือผู้ที่พบเห็นบุคคลในภาพ

บีบีซีไทยได้โทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับประกาศดังกล่าว แต่ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ระบุเพียงว่าไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ ได้ และขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งเบาะแสเข้ามา

อีกด้านหนึ่งสำนักข่าวไทยรายงานว่า เมื่อบ่ายวันนี้ นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสมาพันธ์นักกฏหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอประกันตัวสมาชิกพรรคแนวร่วมปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย (นปป.) จำนวน 15 คน ต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวนคนละ 1 แสนบาท พร้อมโฉนดที่ดินมูลค่า 1 ล้านบาท และสำรองเงินสดในส่วนที่เหลืออีก 5 แสนบาท ซึ่งศาลได้อนุมัติให้ประกันตัว โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และจะปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในช่วงค่ำวันนี้

นายธนเดช กล่าวว่า นปป. 15 คน ไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ใน 7 จังหวัดภาคใต้ เพราะส่วนใหญ่เป็นสูงอายุ ไม่มีทุนมากพอ ทำได้เพียงนั่งพูดคุยตามสภากาแฟเท่านั้น ‪#‎ThailandBlasts‬


บีบีซีไทย - BBC Thai