วันอาทิตย์, กรกฎาคม 17, 2559

วิสา คัญทัพ เรียกร้องให้ชู “ประชาธิปไตย” เป็นประเด็นเฉพาะหน้า หยุดแบ่งแยกกีดกันใครออกจากกระบวนการ





คุณคิดอย่างผมหรือไม่ว่า.....

แท้จริงแล้วระบบราชการทั้งขบวนก็คือ กองทัพราชการ
ไม่ได้ถูกควบคุมโดยกลไกและอำนาจของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ความข้อนี้ปรากฎชัดนานแล้ว สำหรับผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมืองมายาวนาน
โดยเฉพาะ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงวัฒนธรรม และทุกกระทรวงนั่นแหละ 

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสั่งราชการได้เพียงระดับตื้นๆ
ถ้าลงลึกถึงขั้นปรับเปลี่ยนโครงสร้าง หรือกระทบเข้าเนื้อผลประโยชน์
หรือบั่นทอนรากฐานทางวัฒนธรรมของกลุ่มอำนาจดั้งเดิม ก็เป็นอันต้องยุติ
ขืนดันต่อไป ทำได้ไม่นานทัพทหารก็จะออกมาถล่ม
ด้วยเกมก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายจนบริหารไม่ได้
ก่อนตามด้วยรัฐประหารเป็นดาบสุดท้าย เป็นวงจรอุบาทว์ที่ซ้ำซาก

ฉะนั้นแล้วกระบวนการทางการเมืองของพรรคการเมืองจะแข็งแกร่งได้
ต้องได้รับการสนับสนุนจากพลังที่เป็นเอกภาพของคนชั้นกลาง
และประชาชนเป็นหลัก (ทั้งนี้ถ้าจะให้สำเร็จง่ายควรต้องมีอีกองค์ประกอบหนึ่ง
คือ กระแสสนับสนุนของคนชั้นสูงบางส่วนและพลังอำนาจดั้งเดิม)

แต่เวลานี้ ไม่เป็นเช่นนั้นเลย
คนชั้นกลางที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาด้วยกัน
เกิดแตกแยกเกลียดชังกันเอง แม้ในส่วนที่ยืนยันฟากฝั่งประชาธิปไตย
ก็ยังขีดเส้นการร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างระแวดระวัง
ทำให้พลังไม่เข้มแข็งพอ ทำให้การต่อสู้ทำท่าจะยืดเยื้อออกไปอีกนาน
ปัจจัยที่จะทำให้เผด็จการทหารพัง ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมืองด้านเดียว
แต่เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ การทำประเทศเจ๊ง
การดำเนินนโบายสากลแบบสร้างศัตรู
เท่ากับเปลี่ยนสนามการค้าให้เป็นสนามรบ ล้วนนำหายนะสู่ประเทศ

สถานการณ์ขณะนี้ จึงเรียกร้องให้ชู “ประชาธิปไตย” เป็นประเด็นเฉพาะหน้า
หยุดแบ่งแยกกีดกันใครออกจากกระบวนการ
ความผิดถูกทางการเมืองในอดีตที่ไม่ใช่อาชญากรรม
ไว้ว่ากันในสังคมที่มีความเป็นธรรม
ว่ากันในสังคมที่เปิดเสรีภาพที่จะให้ความจริง
ไม่ใช่สังคมใส่ร้ายป้ายเท็จอันไร้มาตรฐาน
ทฤษฎีอารมณ์แบบ "โยนความผิดให้ตระกูลชินวัตรและพรรคเพื่อไทย”
ว่าไม่สู้จริงจึงไม่น่าจะถูก
เหมือนถูกเตะตัดขาจนเข่าอ่อน แล้วซ้ำเติมด้วยการตัดขาตนเองทิ้ง

มีแต่ต้องจับ “ประชาธิปไตย” เป็นหัวใจมั่นไว้
กระจายอำนาจสู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง มีรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม
และระบอบรัฐสภาที่มั่นคง
ระบบที่ต้องปฏิรูปขนานใหญ่ แท้จริงคือระบบราชการ
ที่มิได้รับใช้ขบวนประชาธิปไตยตลอดมา

ประชาธิปไตยต้องมีรัฐธรรมนูญนั้นจริงอยู่
แต่ต้องระวังจับตารัฐธรรมนูญใหม่ไว้ให้ดี ว่าจะร่างออกมาอย่างไร
ดูเหมือนมันจะวนเวียนกลับไปสู่ยุค(พล.อ.เปรม)อำนาจทหารคุมพรรคการเมือง
ชณะพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งอ่อนแออย่างถึงที่สุด