วันเสาร์, กรกฎาคม 30, 2559

"อย่าโง่ให้สลิ่มกับทหารหลอก" และ "ระวังถูกเผด็จการโกง"




ที่มา FB

Katana Muangsook


"อย่าโง่ให้สลิ่มกับทหารหลอก"

ผมได้รับการแชร์ข้อมูลเรื่อง "รธน. นี้ประชาชนเดือดร้อนตรงใหน" ซึ่งให้เหตุผลรวม 6 ข้อถึงความเดือดร้อนของนักการเมืองหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ

ผมขอเรียนว่าทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ได้อยู่ในร่างรัฐธรรมนูญเลย ดังนั้น ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับนักการเมือง เป็นการตีกินแบบหน้าด้านๆ แต่ก็ยังมีสลิ่มโง่ๆ ไปเชื่อเอามาแชร์ต่อ ทั้งหมดที่อ้างนั้นถูกเขียนไว้ในกฎหมาย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 ดังนี้ 

(1) มาตรา 74/1 คดีทางการเมืองไม่มีวันหมดอายุความ 

(2) มาตรา 123/2 นักการเมืองมีการโกงกิน ผลาญงบประมาณมีโทษหนักถึงประหารชีวิต 

(3) มาตรา 123/6 หากนักการเมืองร่ำรวยผิดปกติ มีการฟอกเงิน ยักยอกทรัพย์สินของทางราชการ ต้องโทษจำคุก 15-30 ปีและยึดทรัพย์ที่ได้มาโดยมิชอบเป็นของแผ่นดิน
(4) มาตรา 123/3 หากบริหารผิดพลาดทำประเทศเสียหายหรือเป็นหนี้มหาศาลต้องโทษจำคุก 15-30 ปี 

(5) มาตรา 108 ป. วิ.อาญา เมื่อมีคดีอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เรื่องนี้เป็นอำนาจศาลที่จะกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกต่างประเทศได้ และ 

(6) ห้ามไม่ให้นักการเมืองใช้ช่องทาง VIP และห้ามโดยสารเครื่องบินชั้น first class ฟรี นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ และพวกผมไม่เคยมีประวัติไปนั่งเครื่องบินชั้น first class ฟรี 

เคยมีเหมือนกันที่ผมได้ข่าวว่าเมื่อไม่นานมานี้เรื่องนักการเมืองคนหนึ่งไปยกระดับตั๋วของภริยาจากชั้นธรรมดาเป็นชั้นหนึ่ง ช่วงประมาณ พ.ศ. 2552-2553 อยากทราบเป็นใครลองถามกูเกิ้ลก็พอทราบแต่ไม่ใช่พวกผมแน่นอน ดังนั้น ขอย้ำชัดๆ อีกทีว่าไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติหรือไม่ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ กับนักการเมืองแม้แต่น้อย 

แต่ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติจะทำให้ คสช. หลุดรอดคดีทั้งหมดตามมาตรา 279 ของร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าใครเห็นว่า คสช. ทำความเสียหายให้บ้านเมือง ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ควรถูกตรวจสอบและถ้าทำผิดก็ควรติดคุกก็คงทราบนะครับว่าต้องออกไปลงมติแบบใหน เจอกันวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ครับ

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
28 กรกฎาคม 2559


ooo






"ระวังถูกเผด็จการโกง"

มาตรา 62 วรรคสองแห่ง พรบ. ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ที่อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิออกเสียง คือช่องทางที่อาจนำไปสู่การโกงการออกเสียงประชามติได้ 

ถึงแม้เรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้ป้องกันโดยกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นเท่านั้น ที่สามารถจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิออกเสียงที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความยากลำบากในการเดินทาง หรือคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิออกเสียงด้วยตัวเอง จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตเป็นกรณีไปก็ตาม แต่อาจมีการถือโอกาสใช้ช่องทางของหน่วยงานของรัฐดังกล่าวเป็นข้ออ้างขนคนมาลงคะแนน 

เพราะหน่วยงานของรัฐทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นต่างกลัวหัวหน้า คสช. จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดหรือสั่งพักงานตัวเองทั้งสิ้น 

นายก อบจ. เชียงใหม่ก็เพิ่งถูกเชือดให้เห็นเป็นตัวอย่าง จึงอาจมีหน่วยงานทั้งส่วนภูมิภาคหรือส่วนท้องถิ่นถูกผู้มีอำนาจสั่งให้ขนคนไปออกเสียงประชามติ 

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส กกต. จึงควรเปิดเผยรายชื่อหน่วยงานที่ขออนุญาตจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนดังกล่าวให้ประชาชนทราบเพื่อตรวจสอบ มาถึงเวลานี้ผมกลัวแค่ถูกโกงเพราะเผด็จการเริ่มออกอาการแล้วครับ

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
30 กรกฎาคม 2559