วันอาทิตย์, กรกฎาคม 10, 2559

ใช้วิธีข่มขู่ทุกรูปแบบ... ยิ่งใกล้วันลงประชามติ ยิ่งจับกุมผู้ที่เห็นต่างจากรัฐมากขึ้น - ตร.บ้านโป่งแจ้งข้อหา ม.61 ผิดพ.ร.บ.ประชามติ ขัง 3 NDM -1 นักข่าวประชาไท ส่งศาลวันจันทร์






ภาพโดย ศรีไพร นนทรีย์


“น่าเชื่อว่าจะแจก” ตร.บ้านโป่งแจ้งข้อหา ม.61 ขัง 3NDM -1 นักข่าวประชาไท ส่งศาลพรุ่งนี้


Sun, 2016-07-10 20:53
ที่มา ประชาไท

ตำรวจไม่ให้ประกันตัว 1 นักข่าวประชาไท 3 สมาชิกกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) นอนห้องขัง สภ.บ้านโป่ง 1 คืน หลังถูกแจ้งข้อหาผิด ม.61 วรรค 2 พ.ร.บ.ประชามติ จากการมีเอกสารรณรงค์ประชามติในรถของสมาชิกคนหนึ่ง ตำรวจเตรียมสอบสวนและส่งศาลราชบุรีเพื่อฝากขังพรุ่งนี้

10 ก.ค.2559 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา 4 คนในชั้นสอบสวน โดยตำรวจระบุว่าทั้ง 4 คนมีเอกสารรณรงค์ประชามติและมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมาทำการแจกเอกสาร ซึ่งเป็นข้อหาตามมาตรา 61 วรรค 2 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ที่ระบุถึงความผิดในการร่วมกันดำเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียงในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใด ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างหนึ่งอย่างใด หรือไม่ออกเสียง

ในบันทึกการจับกุม ตำรวจระบุพฤติการณ์การจับกุมว่า "เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากประชาชนอ้างว่าเป็นพลเมืองดีและศูนย์วิทยุ สภ.บ้านโป่ง ว่ามีบุคคลใช้รถยนต์กระบะเชฟโรเลท หมายเลขทะเบียน XXX บรรทุกอุปกรณ์สิ่งของท้ายรถมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมาทำการแจกเอกสาร แผ่นพับ ใบปลิวในเรื่องรณรงค์ต่อต้านการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญในเขต อ.บ้านโป่ง ต่อมาจากการสืบสวนพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ถนนทรงพล เทศบาลเมืองบ้านโป่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นรถดังกล่าว"







ในบันทึกการจับกุมระบุว่า พบของกลาง คือ แผ่นไวนิลข้อความ "นายกไทยใครๆ ก็โดนล้อ" 1 แผ่น ไมโครโฟน ลำโพง ที่่คั่นหนังสือ "โหวตโน" , จุลสาร การออกเสียง จำนวน 66 ฉบับ, แผ่นเอกสาร ปล่อย 7 นักโทษประชามติโดยไม่มีเงื่อนไข 21 แผ่น, แผ่นเอกสาร ความเห็นแย้ง 2 ฉบับ, เอกสารแถลงการณ์คณะนิติราษฎร์ ฉบับลงประชามติ 9 ฉบับ, เอกสารจะใช้สิทธิลงประชามตินอกเขตจังหวัดทำอย่างไร 70 ฉบับ และสติ๊กเกอร์โหวตโน








ภาพ เมื่อเวลา 16.45 น หลังจากที่ทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมาถึง จนท.ตร.ได้เข้าค้นรถรอบที่ 3 พร้อมให้แจ้งที่มาของเงิน และได้ยึดกล่องบริจาคไว้ (ภาพโดย ศรีไพร นนทรีย์)


อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทั้งหมดไม่ยินยอมเซ็นบันทึกการจับกุมและไม่ให้ปากคำใดๆ จนกระทั่งทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางถึง สภ.บ้านโป่ง จึงมีการสอบสวน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัวและนำทั้ง 4 คนไปควบคุมตัวไว้ในห้องขัง สภ.บ้านโป่งเพื่อทำการสอบสวนทีละคนภายในคืนนี้ คาดว่าจะนำตัวทั้ง 4 คนขึ้นศาลจังหวัดราชบุรีเพื่อขออำนาจฝากขังในวันพรุ่งนี้เช้า

ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย ปกรณ์ อารีกุล อนุชา รุ่งมรกต อนันต์ โลเกตุ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นอกจากนี้ยังมีผู้สื่อข่าวประชาไทที่ติดตามเข้าไปทำข่าวด้วย คือ ทวีศักดิ์ เกิดโภคา

ทวีศักดิ์ยืนยันว่าเขาติดตามสมาชิกกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ไปเพื่อทำข่าวกรณีที่ทั้งหมดจะไปให้กำลังใจชาวบ้านบ้านโป่งซึ่งถูกเรียกรายงานตัวหลังจากเปิดศูนย์ปราบโกงฯ จากนั้นเมื่อมีการควบคุมตัวสมาชิก NDM ทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมเขาด้วยเนื่องจากเขาเป็นนักข่าวเพียงคนเดียวและเจ้าหน้าที่อ้างว่ามาด้วยกัน อย่างไรก็ตาม เขาได้แสดงตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าว และได้โทรศัพท์ขอสัมภาษณ์นายสมชัย สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง และให้ตำรวจได้พูดคุยเพื่อหาความชัดเจนว่ากรณีนี้เป็นความผิดหรือไม่ โดยสมชัยระบุว่า การมีเอกสารในครอบครองโดยตัวมันเองนั้นไม่เป็นความผิด แต่หากมีการแจกจ่ายเกิดขึ้น ต้องดูลักษณะของการแจกจ่ายว่ามีการใช้คำหยาบคาย ยุยงปลุกปั่นหรือไม่ อย่างไรก็ดีภายหลังสมชัยได้ให้ความห็นมาเพิ่มว่า ตัวเอกสารของกลุ่ม NDM นั้นทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เองก็เห็นว่าเป็นเอกสารที่ยังมีปัญหาอยู่ ขณะนี้กำลังรอการตรวจสอบจึงยังไม่สามารถฟันธงว่าการมีตัวเอกสารนี้อยู่ในครอบครองผิดหรือไม่ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งแก่ผู้สื่อข่าวว่าทางผู้บัญชาการระดับภาคที่ดูแลเรื่องนี้ระบุว่าเรื่องนี้เข้าข่ายความผิดฐานเตรียมการจะแจกจ่าย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ควบคุมตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากตัวแทน NDM 3 คนร่วมให้กำลังใจชาวบ้านที่บ้านโป่งที่ถูกเรียกรายงานตัวหลังจากเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหา ขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 (อ่านข่าวก่อนหน้านี้) โดยขณะที่ทั้งสามเสร็จสิ้นการให้กำลังใจแล้วเดินทางกลับไปขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นท้ายรถกะบะ แล้วพบว่ามีเอกสารเกี่ยวกับการรณรงค์ประชามติอยู่ จึงควบคุมตัวก่อนนำตัวเข้ามาสอบสวน พร้อมทั้งนำตัวผู้สื่อข่าวประชาไทที่ติดตามรายงานข่าวนี้ไปดำเนินคดีร่วมกับทั้ง 3 คนด้วย

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจจับ 'แมน ปกรณ์' NDM หลังให้กำลังใจคนบ้านโป่งสู้คดีตั้งศูนย์จับตาประชามติ


ooo


ตำรวจจับ 'แมน ปกรณ์' NDM หลังให้กำลังใจคนบ้านโป่งสู้คดีตั้งศูนย์จับตาประชามติ

Sun, 2016-07-10 15:24
ที่มา ประชาไท

18 ชาวบ้านโป่ง รายงานตัว สภ.บ้านโป่ง คดีตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยปฏิเสธทุกข้อหา ยืนยันเป็นสิทธิประชาชนทำได้ ด้าน แมน ปกรณ์ กลุ่มประชาธิปไตยใหม่มาให้กำลังใจด้วย โดยระหว่างกลับจึงถูกตำรวจค้นรถเพื่อยึดเอกสารรณรงค์ประชามติและความเห็นแย้ง และยังควบคุมตัวผู้สื่อข่าวประชาไทไปสอบด้วย





เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ สภ.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กลุ่มชาวบ้านที่จัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ซึ่งถูกหมายเรียกรายงานตัวตามความผิดฐานขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่องการมั่วสุมชุมนุมทางการเมือง ได้เดินทางมาตามหมายเรียกรายงานตัว ทั้ง 18 คน โดยผู้ที่โดนเรียกรายงานตัวมีทั้งหมด 23 คน แต่อีก 5 ขอแยกตัวไปสู้คดีเอง

บริบูรณ์ เกียงวรางกูล ตัวแทนชาวบ้านที่ถูกออกหมายเรียก ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นการเดินทางมารายงานตัวตามหมายเรียก และพร้อมจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นสิทธิ เสรีภาพ ที่ประชาชนพึงกระทำได้

"การจับตาประชามติเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยทุกคน ต้องมีส่วนเข้าไปตรวจสอบ พวกเราต้องการความโปร่งใส เพราะการลงประชามติครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินอนาคตของพวกเราเอง" บริบูรณ์กล่าว

ด้านปกรณ์ อารีกุล และอนันต์ โลเกตุ สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจกลุ่มชาวบ้านที่ถูกออกหมายเรียกด้วย

โดยอนันต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 นักรณรงค์ประชามติที่ถูกจับกุมที่บางพลี ระบุว่า การเดินทางมาในวันนี้มาเพื่อให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง เพียงเพราะตั้งการตั้งศูนย์จับตาประชามติ ไม่ว่าชาวบ้านจะมีความเห็นอย่างไรต่อร่างรัฐธรรมนูญ จะรับ หรือไม่รับ ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนสามารถตัดสินใจเองได้ แต่สิ่งที่เกิดคือ การอ้างคำสั่งหัวหน้าคสช. เพื่อดำเนินคดีกับประชาชนที่ออกมาแสดงออก ออกมายืนยันสิทธิของตนเอง ถือเป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ที่ร้ายแรง

ขณะที่ชาวบ้านโป่งที่ถูกดำเนินคดีจากการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติทั้ง 18 คน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือ ทั้งหมดปฏิเสธในชั้นสอบสวน และได้รับการปล่อยตัว ขณะที่ในวันนี้มีชาวบ้านมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง







ต่อมาในเวลา 11.30 น. ที่ สภ.บ้านโป่ง ขณะที่ ปกรณ์ อารีกุล หนึ่งในสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ได้เดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้านที่บ้านโป่ง ซึ่งถูกเรียกรายงานตัวหลังจากเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ โดยถูกตั้งข้อกล่าวหาตามฐานความผิด ขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 โดยขณะเดินทางกลับไปขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจค้นท้ายรถกะบะ แล้วพบว่ามีเอกสารเกี่ยวกับการรณรงค์ประชามติอยู่ จึงขอเชิญตัวเข้ามาสอบสวน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวประชาไท ถูกนำตัวเข้าไปสอบสวนด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรคุยกับ สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง โดย สมชัย ระบุว่าการมีเอกสารในครอบครองโดยตัวมันเองนั้นไม่ผิด แต่หากมีการแจกจ่ายเกิดขึ้น ต้องดูลักษณะของการแจกจ่ายว่ามีการใช้คำหยาบคาย ยุยงปลุกปั่นหรือไม่ แต่ภายหลัง สมชัย ให้ความห็นมาเพิ่มว่า ตัวเอกสาร ทางกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เองก็เห็นว่าเป็นเอกสารที่ยังมีปัญหาอยู่ รอตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถฟันธงว่าการมีตัวเอกสารนี้อยู่ในครอบครองผิดหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าทางผู้บัญชาการภาคที่ดูแลเรื่องนี้ ระบุว่าเข้าข่ายความผิดฐานเตรียมการจะแจกจ่าย

สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ นอกจาก ปกรณ์ อารีกุล แล้ว ยังมี อนุชา รุ่งมรกต อนันต์ โลเกตุ รวมทั้งตัวผู้สื่อข่าวประชาไทที่เข้าไปทำข่าว คือ ทวีศักดิ์ เกิดโภคา ด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวประชาไทได้ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าทน้าที่ตำรวจแล้ว และกำลังรอการสอบสวน

ก่อนหน้านี้ แมน ปกรณ์ เคยให้สัมภาษณ์ชี้แจงทีมาเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญว่า เคยแจกให้กับ มีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. เองกับมือเมื่อ 2 เดือนก่อน ส่วนระบุทุนพิมพ์เอกสารมาจากเงินบริจาคและพร้อมถูกตรวจสอบ (อ่านข่าวก่อนหน้านี้)