วันเสาร์, กรกฎาคม 30, 2559

มุมมองอจ.ม.พะเยา หลังร่วมฟังแผนปท.ฉ.12 "การรักษาเวลา อำนาจชี้นำ คนแก่ และอนาคตชาติ"





ที่มา ข่าวสดออนไลน์
26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมนตรา พงษ์นิล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำคณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Montra Pongnil เล่าถึงเหตุการณ์ร่วมประชุม ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยระบุว่า ในฐานะเป็นติ่งลุงเขา ผมเลยได้รับหนังสือเชิญให้ไปร่วมงานด้วย คนเยอะมว๊ากกก

กำหนดการก็มีพิธีเปิดโดยลุงมาเป็นประธานเปิดการประชุม แล้วก็มีการบรรยายโดยผู้ทรงคุณวุฒิของ สศช. ในร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนที่ 12 แล้วก็แบ่งกลุ่มย่อยเพื่ออภิปรายแผนย่อยแต่ละแผน ทั้งวัน

ผมรู้อยู่แล้วว่า ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นสมาชิกที่ถูกล็อกให้เข้าร่วมไว้แล้วจากเครือข่าย

ทราบไหมว่า

1. ประธานในพิธีเปิด ให้เวลาพูดประมาณ 1 ชั่วโมง ลุงแกล่อไปสองชั่วโมงกว่า ๆ (ไม่เชื่อดูคลิปที่ลิ้งค์มา) คือ อยากให้นึกภาพการพูดของลุงเขาช่วงคืนความสุขทุกวันศุกร์น่ะ เรา ๆ ท่าน ๆ คงเข้าใจความรู้สึกดีนะ อันนี้ยิ่งกว่า คือ จะปิดทีวีไม่ได้ไง จะลุกออก ก็มีการ์ดยืนอยู่ตรงประตูไง จะหลับเสียงก็จะคอยวนเวียนอยู่ในหัว นรกของจริง (กรีดร้องในหัวใจหนักมาก)

2. และไม่ได้ใช้เวลาแบบคืนความสุขแค่ไม่เกินชั่วโมงหรือชั่วโมงกว่า แต่มันคือ สองชั่วโมงกว่า ย้ำว่า สองชั่วโมงกว่า

ถ้าถามผมว่าเพลินไหม รบกวนย้อนไปอ่านข้อ 1 ว่า สไตล์การพูดของลุงแกเป็นยังไง คือ แกมีโพยไว้เป็นหัวข้อ ๆ ซึ่งก็ดึงมาจากร่างแผนฯ 12 นั่นแหละ แต่ทีนี้แกใส่สไตล์ของแกเข้าไปด้วย หลัง ๆ เริ่มอ้างชื่อ ประชาธิปไตยใหม่ กลุ่มต่อต้านเอามาด่าออกไมค์อีก ผสม ๆ กันไปกับการพล่าม อุ้ย ไม่ใช่ พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เดี๋ยวบ่น เดี๋ยวด่า เดี๋ยวงอน เดี๋ยวถามผู้เข้าประชุมเหมือนเดิมว่ามีใครอยากให้ผมออก อยากให้ผมอยู่

3. สังเกตผู้เข้าร่วม แต่ละคนถ้าไม่ได้อยู่แถวหน้า (ผมก็นั่งหลัง ๆ) ถ้าไม่หลับ (ทั้งหลับจริงและแค่หลับตา) ก็กดมือถือเล่น แต่ไม่มีใครคุยกันให้เสียงดัง

เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ผมเชื่อมั่นได้ว่า ถ้าให้ส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นว่า ลุงเขาพูดอะไรอยู่ หากไม่เชียร์จนขนหน้าแข้งมันแพล่บ จะตอบอย่างแน่นอนว่า บ่นอะไรวะ น่าเบื่อชิบเป๋ง

4. ตอนประธานในพิธีเปิดเดินมานะ อย่างกับในหนังก็อทฟาเธอร์ ยังไงยังงั้นเลย บอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ผมเพิ่งเคยเห็นว่า ผู้นำของประเทศนี้แม่งใช้บอดี้การ์ดโคตรเปลือง

5. หลังลุงเป็นประธานเปิดเสร็จ ซึ่งก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง พักเบรกเรียบร้อย ก็การบรรยายประมาณ เที่ยงเกือบบ่าย (ทุกคนยังไม่ได้กินข้าว) หลังบรรยายเสร็จ มีคนสะท้อนในที่ประชุมว่า ผู้จัดไม่สามารถบริหารเวลาได้ ทำให้ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง สรุป บรรยายจบดื้อ ๆ เพื่อปล่อยให้ผู้เข้าร่วมกินข้าวเทียงตอนบ่ายโมงกว่า

6. สรุปว่า แผนฯ 12 เป็นส่วนหนึ่งของแผน 20 ปีที่จะร่างออกมา ผมก็สงสัยนะว่า ถามคนรุ่นใหม่และคนในอนาคตที่จะเกิดมาซักคำไหมว่า เขาอยากได้แผนฉากทัศน์ประเทศไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า ที่จะร่าง ๆ กันมาบ้างไหม บางที่เขาไม่อยากได้ก็ได้ แล้วทำไมเราซึ่งแต่ละคนก็อายุอานามเป็นผู้ใหญ่ไปจนถึงหัวหงอกจะถืออภิสิทธิ์ไปสร้างฉากทัศน์ 20 ปีให้คนรุ่นใหม่หรือรุ่นหลังที่จะเกิด ๆ มา ในขณะที่หลายคนในเวทีนี้อีก 20 ปีนั้น คงเป็นปุ๋ยไปแล้ว

7. หลังกินข้าวเที่ยง ก็แยกย้ายกันไปเข้าร่วมสัมมนากลุ่มย่อยในแต่ละแผน ผมอยู่แผน 1 คือ การพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์และการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม กลุ่มวิทยากรก็เสนอกันไปตามกรอบแผนนี้ที่ร่างไว้ในแผนฯ 12 แล้วก็ให้ผู้เข้าร่วมอภิปรายคนละ 3 นาที (โชว์เวลาขึ้นจอ) ส่วนใหญ่ที่เข้ามาร่วมสัมมนาก็เป็นผู้ใหญ่และคนชรา สมกับการก้าวเป็นสังคมผู้สูงอายุมาก
มาสะดุดใจกับประเด็นหนึ่งคือ การมองว่า เด็กวัยรุ่นแต่งตัวโป๊เป็นสิ่งไม่ดี รับค่านิยมตะวันตก ระเบียบวินัยลดลงศีลธรรมคุณธรรมลดลง และมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณคนสองคนลุกขึ้นมาอภิปรายประเด็นนี้ ก็กล่าววิจารณ์เด็กสมัยนี้ในทำนองนี้เช่นกัน และเสนอให้มีการเอาวิชาคุณธรรมศีลธรรมกลับคืนสู่ห้องเรียน วิชาหน้าที่พลเมืองต้องเน้นระเบียบวินัยเพื่อให้เป็นพลเมืองที่ดีของชาติ

แกก็อภิปรายและวิจารณ์เด็กสมัยนี้ว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ไปนะ ถึงแม้ว่าเวลาในการอภิปราย 3 นาทีของแกจะหมดแล้ว คือผมงงอ่ะว่า แกใช้สิทธิ์อะไรปภิปรายเกินเวลา แล้วไม่มีการเบรกจากวิทยากร หรือเพราะแกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงและอายุอานามก็มากแล้ว เลยเกรงใจแก แล้วผู้สูงอายุที่วิจารณ์เด็กว่าไม่ดีอย่างโง้นอย่างงี้แล้วอภิปรายเลยเวลาซะเอง มันคืออัลไล ย้อนแย้งชะมัด ทำอย่างกับรุ่นของตัวเองเป็นรุ่นที่เป็นพลเมืองดีที่สุดในสังคม รุ่นอื่น ๆ ไม่ดีรับค่านิยมตะวันตก ทำให้สังคมแหลกเหลว

8. ผมอยากลุกขึ้นอภิปรายเหมือนกัน แต่เก็บความต้องการนี้ไว้ในใจ เพราะรู้สึกว่า บรรยากาศและความเห็นของวงสัมมนาเป็นไปในแนวทางแบบวิทยากรและลุง ๆ ที่ลุกขึ้นมาอภิปราย คือ เห็นดีเห็นงามและไม่ท้วงอะไรกับการพูดเกินเวลาของแก ดังนั้นจะลุกขึ้นมาอภิปรายเพื่อตอบโต้หรือขอคิดต่างคงไม่มีประโยชน์ เลยนั่งฟังไปเพลิน ๆ เพื่อนเรียนรู้ว่า อ๋อผู้ใหญ่เขาคิดกันอย่างนี้นะ ชีวิตแกในสมัยของแกนี่ดี๊ดี โดยเฉพาะสมัยสฤษฏ์เนี่ย บ้านเมืองราบคาบด้วยอานุภาพพ่อขุนอุปถัมภ์จริง ๆ สโง้บสงบ น่ายู้น่าอยู่ ส่วนสมัยนี้เลวบัดซบมาก

จบเวที รับตังค์ค่าเดินทาง รีบกลับ กลัวตกเครื่อง นั่งคิดนอนคิดว่า เวทีนี้มันสะท้อนอำนาจนิยมอยู่ คนแก่ไม่อยากแก่ แต่อยากมีบทบาทชี้นำสังคม ทั้ง ๆ ที่มันเป็นความคิดตกยุค

เรื่องนี้ก็สะท้อนย้อนคิดถึง การส่งเสริมผู้สูงอายุในบ้านเรานะ คือ วิธีคิดที่เราวิจารณ์ว่า สมัยก่อนเราทอดทิ้งผู้สูงอายุและมองว่าเป็นภาระ แล้วเราก็จะส่งเสริมผู้สูงอายุให้มีคุณค่าความสำคัญและที่ยืนในสังคม ผมว่า วิธีการที่เราทำกันในการส่งเสริมผู้สูงอายุเนี่ย มันสำเร็จเกินคาดนะ ผู้สูงอายุในบ้านเรามีบทบาทและคุณค่าในสังคมมาก แต่มันมากล้นจนทำให้ความคิดของผู้สูงอายุที่ตกยุคยังมีบทบาทครองอำนาจนำในสังคมบ้านเราอยู่ จนผลิตผลออกมาเป็นรูปธรรมต่าง ๆ เช่น ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย ในการปกครองประเทศ การมีรัฐบาลของคนดี อะไรเงี้ย

เราคงต้องอยู่กับบรรยากาศนี้ไปอีกนาน

ooo

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2559 ของ สศช



https://www.youtube.com/watch?v=Tgfzhln6DDI

ทำเนียบ รัฐบาล

Published on Jul 22, 2016

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2559 ของ สศช. เรื่อง "ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564)" ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี 22 กรกฎาคม 2559