วันจันทร์, มิถุนายน 27, 2559

๑๒ ข้อที่อองซาน ซูจีเสนอต่อรัฐบาลทหารไทย กลายเป็นไม้เบื่อกับผู้มีสติปัญญาแบบสลิ่ม





๑๒ ข้อที่อองซาน ซูจีเสนอต่อรัฐบาลทหารไทย เกี่ยวกับการดูแลแรงงานข้ามชาติชาวพม่า กลับเป็นเหตุให้คนชั้นกลางและผู้ดีในประเทศกรุงเทพฯ กลายเป็นไม้เบื่อกับเธอไปเสียแล้ว

ทั้งๆ ที่สิ่งที่เธอต้องการเหล่านั้นเป็นหลักการสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ที่รัฐบาลในประเทศประชาธิปไตยควรต้องถือปฏิบัติ

บรรดาผู้มีสติปัญญาแบบสลิ่มที่ส่งเสียงออนไลน์ ไล่หม่องแหม่งที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานขั้นต่ำอยู่ในไทย ให้กลับบ้านกันไปซะ น่าจะติดตามเพจเฟชบุ๊ค อจ.Pavin Chachavalpongpun กันบ่อยหน่อย จะได้ไม่จังงังหน้าหงาย

“ว้ายยย ไล่แรงงานพม่ากลับหมด ต่อไปนี้มีเรื่องชั่วๆ อย่าง นักท่องเที่ยวถูกฆ่าข่มขืน แล้วตำรวจไทยจะเอาขี้ไปโยนให้ใครหละ?”





แท้จริงเสียงค้านและต้านอาการไสส่งแรงงานพม่ากลับมีอยู่ดารดาษ คัดมาให้อ่านกันเพียงสังเขป

จากฝ่ายวิชาการ อจ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ บอกว่าไม่ต้องไล่หรอก เดี๋ยวเขาไปเอง “เพราะเขาเห็นว่า ปท.ไทยมันไม่มีอนาคต และอนาคตสดใสอยู่ที่ประเทศของเขาเอง...

การท่องเที่ยวไทยเป็น ‘อาทิตย์อัสดง’ จะอุ้มศก.ไทยไปได้อีกไม่นานนัก เพราะสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ปัญหาสังคม ราคาที่แพงขึ้น และคู่แข่งในภูมิภาคที่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่เอี่ยม สวยงาม บริสุทธิ์ และราคาถูกกว่า คือเวียดนามและเมียนมาร์...

และโปรดรู้ด้วยว่า การลงทุนของเขาที่บูมมากนั้นส่วนหนึ่งก็คือ นักธุรกิจไทยย้ายโรงงานหนีออกจากปท.ไทยไปหาบ่อน้ำใหม่ที่หวานอร่อยกว่า!

ข้อแนะนำคือ พวกคุณหัดเติมน้ำมันรถเอง ทำอาหาร ถูบ้าน ขัดส้วม เก็บขยะ เข้าภัตตาคาร self-service แบกหาม ทำประมง โรงสี เชือดหมูไก่เป็ด ชำแหละอาหารทะเล ฯลฯ เองด้วยนะ”

เช่นเดียวกับ อจ.กานดา นาคน้อย ตั้งคำถามไว้ก่อนหน้าแล้ว “ถ้าแรงงานพม่าอพยพกลับไปพม่ากันมากๆ จะจ้างคนไทยเป็นพี่เลี้ยงเด็กเดือนละเท่าไร? จะจ้างคนไทยเป็นแม่บ้านเดือนละเท่าไร?”

ประเด็นกฎหมายแรงงาน Thuethan Prasobchoke ให้ข้อคิด (แถมภาพปรากอบน่าชมกว่ามิสแกรนด์ไทยแลนด์เสียอีก) ว่า

“สิ่งที่ซูจีเรียกร้องเป็นเพียงสิทธิพื้นฐานที่แรงงานควรจะได้รับ และเป็นสิ่งที่กฏหมายไทยกำหนดอยู่แล้วไม่ได้เกินเลยไปจากที่กฏหมายกำหนดหรอก...





ถามว่า มีความรู้สึกว่า คนไทยถูกแย่งงานแย่งอาชีพไหม เป็นธรรมดาว่ามีบ้าง แต่ต้องยอมรับความจริงเช่นกันว่า งานที่แรงงานต่างด้าวทำนั้น ส่วนใหญ่หาคนไทยทำไม่ได้แล้ว

และหากคนงานต่างด้าวกลับหมด คนไทยผู้ประกอบการไทยนั่นแหละจะเดือดร้อน”

(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=689651904506479&set=a.148914405246901.30555.100003850270527&type=3)

ละเอียดลงไปอีก เป็นข้อเขียนจาก Labour Rights Promotion Network พูดถึงข้อโจมตีที่ว่า “แรงงานต่างด้าวไม่เสียภาษี

ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา มีเพดานครับ หากรายได้ไม่ถึง ไม่ต้องจ่าย แรงงานต่างด้าวก็อยู่ในระบบภาษีเดียวกันกับคนไทย แต่ก็ยังมี VAT 7% และค่าธรรมเนียมราชการอื่นๆ

สรุปคือระบบเดียวกันกับคนไทย และธรรมเนียมเดียวกันกับแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างแดน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานทักษะ หรือไร้ฝีมือ (เป็นกติกาสากล)...

ลดความเป็นไทยชาตินิยมลงนะครับ เพิ่มความเป็นมนุษย์เข้าไป เราอยู่ประเทศเดียวในโลกไม่ได้ และไม่มีประเทศไหนเจริญได้ท่ามกลางสังคมที่ล้มเหลว”

(https://www.facebook.com/371018579290/photos/a.434035004290.235137.371018579290/10154271305489291/?type=3&theater)

อย่างมันขึ้นไปหน่อยก็ต้องเพจเฟชบุ๊ค ‘ศาสดา’ “อยากจะบอกให้คนที่เอาแต่ด่าได้รู้”

นั่นคือประเทศไทยเป็นสมาชิก ‘International Labour Organization’...ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ
ที่ดูเรื่องแรงงาน ต่อต้านการใช้แรงงานบังคับ (แรงงานทาส) และการห้ามเลือกปฏิบัติ...

ไอ้ข้อ ๑-๓ และ ๖-๑๐ ที่ซูจีเรียกร้อง ก็แม่งเป็นไปตามหลักนี้แหละครับ ไม่ได้เกินเลยตรงไหนเลย มันเป็นสิ่งที่ไทยต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว”

ลงท้าย “อย่ามาคึกอะไรกับอยุธยามากเลย มึงลืมไปแล้วหรอว่าตอนกรุงศรีแตกรอบสอง อีไทยแท้ๆ ในอยุธยาแม่งถูกกวาดไปพม่าหมด

เผลอๆ ลูกหลานเขาส่วนนึงก็คือคนที่มึงไล่ๆ กลับประเทศไปนี่ละ ไทยแท้ๆ สมัยอยุธยามีครับ มีจริง แต่แม่งก็อยู่ที่พม่านั่นล่ะครับ”

(https://www.facebook.com/sasdha/photos/a.136628223104528.19869.119139078186776/796598967107447/?type=3&theater)

.....

เรื่องเกี่ยวข้อง.....

"เรื่องพวกนี้แม่งควรมีอยู่แล้ว"


อยากจะเขียนเรื่องข้อเรียกร้องที่เสนอต่อซูจีสักหน่อยนะครับ
แต่จะไม่เขียนในมุมของ "ถ้าไม่มีแรงงานพม่าไทยเจ๊งยับ"
หรือในมุมแบบว่า "แรงงานพม่าก็เสียภาษีนะเว้ยไม่ด้อยู่ฟรีๆ"
แบบที่หลายๆท่าน หรือหลายๆเพจเขียนกัน ซึ่งถามว่าถูกมั๊ย ก็ถูก
แต่สองประเด็นข้างต้น ไม่ได้ address สิ่งที่ซูจีพูดเท่าไรนัก
.

ผมคิดว่าจริงๆแล้วถ้าอ่านดีๆ ข้อเรียกร้องของทั้งหมดนี้
จริงๆไม่มีอะไรที่เกินกว่ามาตรฐานปกติที่ประเทศอารยะพึงมี
คือ พูดง่ายๆว่าในฐานะผู้ใช้แรงงานปกติ เรื่องพวกนี้แม่งควรมีอยู่แล้ว
.

- ให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำงี้
- สิทธิรักษาพยาบาลงี้
- ประกันสังคมงี้
- แก้ไขการขูดรีดงี้
- ให้ดำเนินคดีกับนายจ้างที่ใช้แรงงานทำผิดกฎหมายงี้
- แก้ไขเรื่องแรงงานที่ไม่เป็นตามข้อตกลงงี้
- ให้มีสวัสดิการแรงงานสูงอายุงี้
.

อีเหี้ย ด้วยความเคารพ
ไม่ทราบว่าข้อไหนมัน "เกินไป" ในสายตาของมึงวะ?
อันนี้ถามจริงๆ ไม่ได้อีเดียต หรือโลกสวยอวยพม่าอะไรเลยนะ
อย่างสิทธิรักษาพยาบาล หรือ ประกันสังคมงี้ มันมีประเภทต่างๆ
เราครีเอทสิทธิขั้นพืนฐานบางอย่างมาดูแลเขาได้ ก็เข้ารักษา
เวลาเจ็บป่วย ใช้ได้ที่ รพ.ไหนบ้าง มันก็มีวิธีกำหนดตามเกณฑ์
มึงคิดว่าแม่งจะเรียกร้องถึงขั้นแบบต้องนอนบำรุงราษฎร์หรอวะ
มึงกลัวว่าภาษีมึงจะต้องจ่ายให้แรงงานพม่าไปนอน BNH หรอ?
ป่าวเลย เขาเรียกร้องสิทธิที่แม่งธรรมดามากๆ เข้าถึงสาธารณสุขได้
มึงจะให้เขาซื้อยาต้ม แดกยาหมอตี๋หรอวะ ไอ่สัส มึงจะไม่ให้ไปหาหมอหรอ?
.

หรือเรื่องการดูแลแรงงานไม่ให้นายจ้างใช้ทำผิดกฎหมาย
เอารัดเอาเปรียบ หรือใช้งานที่ไม่เป็นตามข้อตกลงเนี่ย
มันมีอะไรที่น่าเดือดร้อนหรอครับ? ในเมื่อมันคือสิ่งที่ต้องทำ
ที่จริงเขาไม่ต้องพูดอะไรแบบนี้เลยก็ได้ ถ้าประเทศมึงโอเคอยู่แล้ว
นี่ต้องยอมรับว่าระบบหลายๆอย่างบ้านเราแม่งเส็งเคร็งจริงๆ
เรื่องพื้นฐานที่สุดแบบนี้ เลยต้องถูกพูดออกมาเป็นข้อเรียกร้อง
.

อยากจะบอกให้คนที่เอาแต่ด่าได้รู้ 2 เรื่อง
.

นั่นคือประเทศไทยเป็นสมาชิก "International Labour Organization"
เรียกสั้นๆว่า ILO หรือ "ไอโล่" ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ
ที่ดูเรื่องแรงงาน ต่อต้านการใช้แรงงานบังคับ(แรงงานทาส)
และการห้ามเลือกปฏิบัติ(เช่น คนไทยได้ 300 พม่าต้องต่ำกว่า ไรงี้)
.

ซึ่งไทยเป็นสมาชิกไอโล่และมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
และไอ้ข้อ 1-3 และ 6-10 ที่ซูจีเรียกร้อง ก็แม่งเป็นไปตามหลักนี้แหละครับ
ไม่ได้เกินเลยตรงไหนเลย มันเป็นสิ่งที่ไทยต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว
แต่ที่ผ่านมาไม่เคยทำ คิดกันเองไงครับว่า "ก็มันเป็นพม่า" นั่นละครับ
.

อีกข้อก็คือ โดยปกติแล้ว ตามกฏหมายระหว่างประเทศ
มันจะมีสิ่งที่เรียกว่า minimum standard of treatment
พูดง่ายๆคือ ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติอะไร สิ่งพื้นฐานีที่สุด
ที่เขาควรจะได้รับการปฏิบัติ รัฐ(เรา)ก็จะต้องจัดให้
เช่น ถ้าเขาเดือดร้อน และยังไม่มีสิทธิ์อื่นๆต้องได้รับการดูแลเบื้องต้น
หรือ สิทธิในการเดินทางทั่วๆไป การในการที่จะไม่ถูก abuse
หรือ สิทธิที่พึงจะได้รับปฏิบัติโดยเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
.

สรุปก็คือ ไอ้ข้อเรียกร้องๆที่ยื่นต่อซูจี ไม่มีอะไรเกินกว่าปกติเลย
มันคือมาตรฐานปกติที่ต้องทำอยู่แล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่กับแรงงานพม่า
แต่กับแรงงานทุกๆชาติ เพราะเราลงนามเป็นภาคีกับ ILO ไว้นานแล้ว
.

คนจำนวนนึงที่ทนกับข้อเรียกร้องแบบนี้ไม่ได้ เพราะลึกๆแม่งชิน
ชินกับแรงงานทาสไง พม่าที่มึงจะทำอะไรเค้าก็ได้ พม่าที่ไม่มีปากมีเสียง
พม่าที่ต้องยอมเอาค่าแรงถูกๆ พม่าที่ยังไงซะก็ไม่กลับไป เพราะไม่มีงานทำ
พม่าที่ใช้ไรก็ต้องทำ เกินเวลาแค่ไหนก็ต้องยอม เพราะมันไม่มีบัตร
ไม่มีหนังสือเดินทาง มากันแบบผิดกฏหมาย อยู่กันแบบไม่มีสถานะ
.

พอวันนึง เขามีปากมีเสียง มีผู้นำที่กล้าจะถามถึงมาตรฐานธรรมดา
แม่งก็ทนไม่ได้ เพราะเคยชินกับการกดขี่คน และดูคนไม่เป็นคนมานาน
.

แล้วไม่ต้องมาอ้างอยุธยาห่าเหวไรนะ สืบโคตรดีๆเผลอๆก๋งมึงเพิ่งโล้สำเภาจากซัวเถามาไม่นาน ไม่ก็อาจเป็นญวนเป็นลาวอพยพมาก็ได้(คนไทยนี่เจ๊กปนลาวน่ะครับ เราอยู่ย่านอุษาคเนย์นี้ก็อพยพเคลื่อนย้ายไหลเวียนกันเป็นปกติ)
.

อย่ามาคึกอะไรกับอยุธยามากเลย มึงลืมไปแล้วหรอว่าตอนกรุงศรีแตกรอบสองอีไทยแท้ๆในอยุธยา แม่งถูกกวาดไปพม่าหมด เผลอๆลูกหลานเขาส่วนนึงก็คือคนที่มึงไล่ๆกลับประเทศไปนี่ละ ไทยแท้ๆ สมัยอยุธยา มีครับ มีจริง แต่แม่งก็อยู่ที่พม่านั่นล่ะครับ


ศาสดา