วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 12, 2559

ทูตสหรัฐย้ำจุดยืนกังวลสถานการณ์ไทย ชี้ไม่เคารพเสรีภาพ สร้างบรรยากาศข่มขู่ นายดอนให้สัมภาษณ์หลังส่งนายเดวีส์ว่า สิ่งที่เดวีส์ย้ำเป็นการแสดงความห่วงใยแต่ไม่มีการประณามไทยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด (เออ)





ทูตสหรัฐย้ำจุดยืนกังวลสถานการณ์ไทย ชี้ไม่เคารพเสรีภาพ สร้างบรรยากาศข่มขู่ 

ที่มา มติชนออนไลน์
12 พ.ค. 59

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกับนายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย โดยหลังการหารือราว 1.30 ชั่วโมง ทั้งคู่ได้แถลงข่าวร่วมกัน นายดอนได้เปิดโอกาสให้นายเดวีส์ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามของสื่อมวลชนก่อน ในช่วงต้นเดวีส์ได้พูดถึงประเด็นที่มีการหารือกับนายดอนคือเรื่องทะเลจีนใต้และเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย พร้อมกับขอบคุณนายดอนที่ได้มีการพูดคุยหารือกันอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่เอเอฟพีได้เสนอข่าวว่าสหรัฐได้ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ เดวีส์กล่าวว่าสหรัฐห่วงกังวลอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น และย้ำจุดยืนที่ได้พูดไปโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแล้วว่าสหรัฐห่วงกังวลกับการจับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเห็นว่าควรต้องมีการเปิดพื้นที่ทางการเมือง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นขัดต่อพันธกรณีของไทยตามหลักสากล

ผู้สื่อข่าวถามว่าความสัมพันธ์สหรัฐ-ไทยหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร นายเดวีส์กล่าวว่า ความสัมพันธ์สองประเทศยังแข็งแกร่ง เพราะไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ของสหรัฐและยังมีความร่วมมือระหว่างกันในหลายมิติ

หลังนายเดวีส์ให้สัมภาษณ์เช่นนั้น นายดอนได้เรียกเอกสารจากเจ้าหน้าที่มาดูก่อนที่จะสอบถามนายเดวีส์อีกครั้งซึ่งเดวีส์ยืนยันว่า แคทรีนา อดัมส์ คือโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งขัดกับการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศไทยก่อนหน้านี้ จากนั้นนายเดวีส์ได้หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อหน้าสื่อมวลชนและให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐแปลให้สื่อมวลชนฟังเป็นภาษาไทยว่า สหรัฐรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์จับกุมเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความออนไลน์ รวมถึงการจับกุมมารดาของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับพันธกิจของไทยต่อนานาชาติ ซึ่งไม่เป็นการเคารพเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างบรรยากาศของการข่มขู่ และทำให้เกิดการเซนเซอร์ตัวเอง

นายเดวีส์กล่าวต่อว่า การข่มขู่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและครอบครัว ทำให้เกิดความวิตกกังวลและห่วงใยอย่างยิ่งต่อพันธกรณีของไทยที่ต้องเคารพเสรีภาพในการแสดงความเห็น สหรัฐยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น การจำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การจำกัดสิทธิในการแสดงความเห็น สิทธิในการชุมนุม รวมถึงการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร

“สหรัฐเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยินยอมให้มีพูดคุยกันอย่างเปิดเผย และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในอนาคตทางการเมืองของประเทศ ซึ่งรวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญและการลงประชามติในเดือนสิงหาคม เราขอเรียกร้องและกระตุ้นให้ไทยยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เหล่านี้”เดวีส์กล่าว และว่า นี่คือจุดยืนและท่าทีของสหรัฐในขณะนี้ พร้อมกับขอบคุณรัฐบาลไทยอีกครั้งที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนควาเห็นในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงสิทธิมนุษยชนในไทย ทั้งยังขอบคุณสื่อมวลชนที่ทำงานเพื่อประชาชนและย้ำว่าสื่อมวลชนมีหน้าที่ในการสื่อความจริงให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งสหรัฐให้ความเคารพกับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

หลังนายเดวีส์อ่านเอกสารที่เตรียมมาจบ นายดอนได้ย้ำว่า นายเดวีส์ไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยกับตนระหว่างการหารือกันแต่อย่างใด นายเดวีส์จึงพูดอีกครั้งว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดกับนายดอน แต่พูดกับสื่อเพื่อแสดงจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่ในการหารือกับนายดอนก็ได้พูดคุยกันในหลายเรื่องรวมถึงเรื่องสิทธิพลเมือง

นายดอนให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังส่งนายเดวีส์และคณะแล้วว่า สิ่งที่เดวีส์ย้ำเป็นการแสดงความห่วงใยแต่ไม่มีการประณามไทยตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ระหว่างการหารือไม่มีการพูดถึงประเด็นเหล่านี้ ตรงกันข้ามสหรัฐเป็นฝ่ายรับฟังด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เป็นประเด็นในขณะนี้คืออะไรบ้าง ซึ่งตนก็ได้พูดถึงเรื่องการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของไทยต่อคณะทำงานยูพีอาร์ที่เจนีวา ซึ่งก็มีเสียงชื่นชมไทยในหลายประเด็น

นายดอนกล่าวต่อว่า ในเรื่องสิทธิพลเมืองก็พูดให้สหรัฐฟังว่าไทยก็เหมือนสหรัฐที่เมื่อมีเรื่องที่สร้างความวุ่นวายในสังคมก็ต้องหารทางไม่ให้เกิดความปั่นป่วน สังคมก็ต้องหาทางดูแลปัญหาเหล่านั้นเช่นกัน ที่ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดเพราะเป็นที่เข้าใจว่าทุกประเทศก็มีปัญหาเหล่านี้เช่นกัน ขณะที่ในรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั้งที่สหรัฐและอังกฤษเพิ่งเผยแพร่ออกมา ประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นเป้า ซึ่งไม่ใช่ว่าเราไม่มีปัญหา ถ้าจะมีก็เหมือนประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นเป้าเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับสหรัฐอีกครั้งหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าไทยและสหรัฐจะเข้าใจเรื่องไม่ตรงกัน นายดอนกล่าวว่า คงมีโอกาสพบกันอีกแต่จะพูดคุยเรื่องเดิมคงใช่ที่ แต่อย่าถือเป็นเรื่องใหญ่โต มันเป็นเรื่องการเลือกใช้คำของสื่อแล้วคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่เข้าใจเจตนาก็เอาไปใช้ต่อ

เมื่อถามว่าแสดงว่าสหรัฐไม่เข้าใจกระบวนการจัดการภายในของไทยหรือ นายดอนกล่าว่า เข้าใจไม่เข้าใจคงต้องเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะเราพูดกันมาพอควร และสหรัฐก็รู้ว่ามันเป็นปัญหาในหลักการอันหนึ่งเช่นเดียวกับบ้านเมืองเขา ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการเดินทางมาหารือกันครั้งนี้เป็นการเรียกทูตสหรัฐมาพบหรือสหรัฐขอพบ นายดอนกล่าวว่า สหรัฐขอพบมานานแล้วแต่เพิ่งมีเวลาว่าง

....

ความเห็นชาวเน็ต....

เขาด่า.ต่อหน้าสื่อ..นี่คือการประจานทางการทูต...ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย....ขายหน้าไปทั่วโลก..อย่างหนา.

ปั้นหน้าไม่ถูกเลย

...

chip หาย 55555 ตาเฒ่าดอนหน้าแหกกลางธารกำนัล ป่านนี้วงการทูตล้อกันให้แซ่ดไปถึงบอตสวานาแล้วมั้ง

ต้องย้อนข่าวให้ฟังอีกครั้ง เมื่อวานมีข่าวสหรัฐประณามไทยเรื่องจับแม่จ่านิว เป็นคำแถลงของแคทรีนา อดัมส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ

เสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ แถว่า เปล่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐไม่ได้ออกคำแถลง ข้อความที่สื่อรายงาน เป็นเพียงการตอบคำถามของเจ้าหน้าที่เวรข่าวของกรมเอเชียตะวันออกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และไม่ได้ใช้คำว่าประณาม

วันนี้ ทูตเดวีส์มาคุยเรื่องทะเลจีนใต้กับสิทธิมนุษยชน เสร็จแล้วยืนแถลงข่าวคู่กัน นักข่าวถามว่า เอเอฟพีลงข่าวสหรัฐประณามไทยจริงไหม เดวีส์ก็บอกว่าสหรัฐห่วงกังวล และย้ำจุดยืนที่ได้พูดไปโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

หลังจากเดวีส์ให้สัมภาษณ์ไปอย่างนั้น ตาเฒ่าดอนก็เรียกเอกสารจากเจ้าหน้าที่มาดู แล้วสอบถามเดวีส์อีกครั้ง เดวีส์ก็ยืนยันว่า แคทรีนา อดัมส์ คือโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ (ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เวรข่าว)

เท่านั้นไม่พอ เดวีส์หยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่สถานทูตแปลเป็นไทย "สหรัฐรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์จับกุมเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความออนไลน์ รวมถึงการจับกุมมารดาของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับพันธกิจของไทยต่อนานาชาติ ซึ่งไม่เป็นการเคารพเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างบรรยากาศของการข่มขู่ และทำให้เกิดการเซนเซอร์ตัวเอง............." อ่านไปจนจบ

พ่อเฒ่าดอนผู้น่าสงสาร ยังท้วงว่าตะกี้นี้เดวีส์ไม่ได้คุยเรื่องนี้นี่นา เดวีส์ก็บอกว่าใช่ ไม่ได้พูดกับดอน แต่นี่พูดกับสื่อเพื่อแสดงจุดยืนรัฐบาลสหรัฐ

ยังดีที่เดวีส์บอกว่า โฆษก ตปท.ไม่ได้ใช้คำว่า "ประณาม" พอเขาไปแล้ว ตาเฒ่าดอนเลยยังอ้อมแอ้มกับนักข่าวว่า เห็นไหม เขาแค่ห่วงใย ไม่ได้ประณาม คณะทำงาน UPR ก็ยังชมไทยตั้งหลายข้อ

http://www.matichon.co.th/news/134134

ข่าวสหรัฐประณามไทย
http://www.dailynews.co.th/foreign/396999

ดูคำแถลงกรมสารนิเทศ

http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/14/66745-กรณีการรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับท่าทีของกร.html

Atukkit Sawangsuk