วันศุกร์, พฤษภาคม 27, 2559

Atukkit Sawangsuk : ว่าด้วยศิลปิน กปปส.ผู้เคยวาดภาพ 14 ตุลา 6 ตุลา




ว่าด้วยศิลปิน กปปส.ผู้เคยวาดภาพ 14 ตุลา 6 ตุลา

"ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา (ฉบับจิ๊กซอว์)

...การจัดการกับความทรงจำและประวัติศาสตร์ในส่วนที่โหดร้ายและน่าขยะแขยงคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ตนเอง การรื้อฟื้นประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 คือการที่สังคมไทยได้เผชิญหน้ากับอีกด้านหนึ่งของตัวตน เป็นความจริงด้านที่มีแต่คนเบือนหน้าหนี หลอกตัวเองว่าไม่เคยเกิดขึ้นจริง ตราบใดที่สังคมไทยยังไม่ได้จัดการชำระประวัติศาสตร์ในส่วนนี้ 6 ตุลาคม 2519 จะยังคงเป็นความทรงจำที่สยดสยองหลอกหลอน และคนไทยก็จะไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์ส่วนนี้เลย"

เชื่อหรือไม่ นี่คือผลงานของสุธี คุณาวิชยานนท์ เมื่อปี 2551

คนที่เขียนภาพประณาม "ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" กลับไม่หือไม่อือการเข่นฆ่า 99 ศพ และไปเป่านกหวีดปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง "เห็นคนไม่เท่ากัน" ได้อย่างไร นี่แสดงทัศนะที่สับสนต่อสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ประชาธิปไตย แล้วยังบอกว่าต่อสู้ประชาธิปไตย

ผมลองไล่ดูผลงานของสุธีทุกชุด ตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้ว (เคยร่วมงาน 100 ปีปรีดีด้วยนะ) รู้สึกประหลาดว่าหลายๆ ชิ้นแสดงทัศนะ "เสรีชน" ต่อต้านการตีกรอบ ตั้งคำถามกับจารีตสังคม ฯลฯ แต่ไหงลงเอยด้วย Thai Uprising หรือพวกศิลปินฉาบฉวยทางความคิดเช่นนี้เอง แต่เห็นหลายคนเขาก็มีหลักมีเกณฑ์อยู่ ไม่ใช่ยกย่องปรีดี ป๋วย 14 ตุลา 6 ตุลา แต่มาทำลายประชาธิปไตย

ว่าที่จริงที่สุธีแสดงผลงาน 6 ตุลาเมื่อปี 51 ก็มาจากการจัดงาน “อดีตหลอน : ศิลปะร่วมสมัยกับการจัดการประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 19” ที่สถาบันปรีดี ร่วมกับ อิ๋ง กาญจนะวณิชย์, วสันต์ สิทธิเขตต์, มานิต ศรีวานิชภูมิ และนิตยสารวิภาษา มานิตบอกว่าจัดเพราะอยากตอบโต้สมัคร (ที่ว่า 6 ตุลามีคนตายคนเดียว) และอยากชี้ให้เห็นการใช้ความรุนแรงที่เชื่อมโยงจาก 6 ตุลาถึง "ฆ่าตัดตอน"

http://www.thaiwriterassociation.org/newsread.php?id=136

ในกลุ่มนี้ไล่ประวัติดู มีวสันต์คนเดียวที่เป็นรุ่น 6 ตุลา (แต่ไม่ได้เข้าป่า) คนอื่นๆ เกิดไม่ทัน คาดว่าได้รับอิทธิพลทางความคิดจากพวกรุ่นใหญ่เดือนตุลา (มานิตย์ อิ๋ง เคยทำสารคดีกับไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ) จน in กับ 14 ตุลา 6 ตุลา กลายเป็นพวกเกิดไม่ทันแต่ "อยากก้าวหน้า" จิบเบียร์ฟังเพลงพี่หงาแล้วเคลิ้มจะเป็น "นักต่อสู้ประชาธิปไตย" (หรือฟังเพลงเปิบข้าวแล้วก็ไปเปิดร้านหรู "เดอะชนบท" นั่นแล)

ไม่ได้ว่าอะไรถ้าจะเดินตามกัน แต่รับอุดมการณ์ให้ถูกต้องครบถ้วนและผ่านการสรุปบทเรียนหน่อย ไม่ใช่รับมาแบบขาดๆ วิ่นๆ จากซ้ายเพ้อเจ้อแล้วแปะข้างฝาให้ดูเท่

เมื่อรวมท่าทีที่แถลงวันนี้ โดยขนพวกพ้องมาสนับสนุน http://prachatai.org/journal/2016/05/65988 ก็ขอตั้งข้อสังเกตว่า

1.จากการสืบทอดอุดมการณ์ขาดวิ่นคิดว่าตัวเองเป็นพวกก้าวหน้า “นักต่อสู้ประชาธิปไตย” กระทั่งกล้าๆ เอาศิลปะปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งไปแสดงที่กวางจู ซึ่งนักศึกษาเกาหลีพลีชีพต่อต้านเผด็จการทหาร แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังภาคภูมิใจกับวีรกรรม กปปส. ไม่สำนึกเลยว่ามันสวนทาง ไม่เคารพผู้พลีชีพที่กวางจู

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาก็คงยังคุยฟุ้งในวงเหล้าว่า เว้ยเฮ้ย มวลมหาประชาชนยิ่งใหญ่กว่า 14 ตุลาอีกนะ 14 ตุลาแค่โค่นถนอม เราโค่นอีปูที่มาจาก 15 ล้านเสียง

จุมพล อภิสุข โผล่มาจากไหนไม่ทราบ อ้างว่าศิลปินต้องหันหน้าหากันไม่แบ่งฝักฝ่าย เฮ้ยไอ้... งานกวางจูเขาแบ่งฝ่าย คือฝ่ายต่อต้านเผด็จการทหาร ไม่มีสมองไว้เข้าใจเลยหรือไง

2.ถามว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับเผด็จการทหารจริงหรือ 2 ปีไม่เห็นมีปฏิกิริยาอะไร มีวสันต์เคยโพสต์เรื่องกระทืบรังแกประชาชน (ปตท. ไล่คนออกจากป่า สิทธิชุมชน ประเด็นของพวก คปท.ทั้งหลาย) เมื่อเดือนมิถุนาปีที่แล้ว แล้วก็เงียบฉี่ ถ้า in กับ 14 ตุลา 6 ตุลา ทำไมไม่มีปฏิกิริยาต่อการจับกุมนักศึกษาละเมิดสิทธิมนุษยชน

อ้อ แล้วยังไปเอาจรูญ อังศวานนท์ มาพูดว่า คสช.ไม่ใช่เผด็จการ 55555 หมดกัน

3.ถ้าอ่านจดหมายพวกเขา จะเห็นการกล่าวหาผู้ที่คัดค้านว่าเป็นกระบวนการ “ใส่ร้ายป้ายสี” การเมืองอัน สลับซับซ้อน สงครามสร้างภาพลักษณ์ การแย่งชิงมวลชน, อำนาจ และผลประโยชน์ นี่คือท่าทีเกลียดชังคนเห็นต่างเป็นศัตรู เห็นคนที่เรียกร้องเสรีภาพประชาธิปไตยในยุคเผด็จการเป็นพวกทักษิณแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ไปทั้งหมด

แล้วมาเรียกร้องอะไรไม่ให้แบ่งฝ่าย

4.อันที่จริง เรื่องเข้าร่วมม็อบ กปปส.เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ เชียร์รัฐประหารหรือไม่ ไม่ใช่เราตัดสินหรอก และไม่ได้ขึ้นอยูกับกลุ่มสุธีออกมาเถียง แต่อยู่ที่กวางจูโน่น อยู่ที่ผู้เคยผ่านเหตุการณ์กวางจู นักต่อสู้ประชาธิปไตยเกาหลีเขาจะมองอย่างไร

5.ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงดิ้นเร่าๆ ทุรนทุราย เพราะกลัวสูญเสียความภาคภูมิใจในยี่ห้อ “นักต่อสู้ประชาธิปไตย” ได้ไปกวางจูกันทั้ง 3 คน แต่วันนี้กลับโดนประจาน ต่อให้ภัณฑารักษ์งี่เง่าไม่ถอดงานศิลปะออก แต่การเป็นข่าวไปทั่วในเกาหลี ในญี่ปุ่น ก็พอแล้ว ฉะนั้น การเคลื่อนไหวแบบ Guerrilla Boys จึงสะใจยิ่ง

ที่จริงควรใช้มาตรการนี้กับพวกอ้างตัวเป็นนักต่อสู้ทั้งหลาย อาทิพวกสมานฉันท์แรงงานไทยไปประชุม ILO ก็ไม่ว่าอะไร ถือเป็นตัวแทนแรงงานจริง แต่ส่งจดหมายไปแจ้งเขาหน่อยว่าเคยปิดเมืองปิดสถานที่ราชการขัดขวางเลือกตั้ง หรือถ้าสารี อ๋องสมหวัง จะไปประชุมผู้บริโภคที่ไหน ก็อัดคลิป “รับค่ะ” ส่งไปให้เขาดู แล้วเชิญประชุมต่อ ไม่ว่าอะไร

6.ในฐานะคนรอดตายจาก 6 ตุลา เสียเพื่อนใน 6 ตุลา ขอเรียกร้องให้สุธีเยี่ยวรดภาพชุด 6 ตุลาเสียเถอะครับ มันไม่มีค่าแล้ว สะอิดสะเอียนมากกว่า

"ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป" ต่างอะไรกับ "ฆ่าเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง"


Atukkit Sawangsuk