วันเสาร์, เมษายน 30, 2559

ถอยหลังไปพันปี เรียนรู้ "โจวลี่อ๋องห้ามราษฎรวิจารณ์"





"โจวลี่อ๋องห้ามราษฎรวิจารณ์"

เมื่อโจวลี่อ๋อง(กษัตริย์ในสมัยราชวงศ์ซีโจว หรือโจวตะวันตก)ขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงเชื่อคำเพ็ดทูลของหรงอี๋กง สั่งเพิ่มอัตราภาษีต่างๆ ทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้ราษฎรตัดไม้บนเขา และจับปลาในน้ำเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็น'ทรัพย์สินส่วนพระองค์'

เหล่าราษฎรก็พากันไม่พอใจ จึงพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์

เจ้ามู่กง อำมาตย์ในราชสำนักจึงนำความกราบทูลว่า "บัดนี้นโยบายของพระองค์สร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎรอย่างมาก พวกเขาพากันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่พอใจยิ่ง ขอพระองค์โปรดทบทวนนโยบายเสียใหม่เถิด"

โจวลี่อ๋องได้ฟังก็ทรงพระสรวล ตรัสกับเจ้ามู่กงว่า "ท่านไม่ต้องกังวล เรามีวิธีที่จะไม่ให้ราษฎรเหล่านั้นวิพากษ์วิจารณ์เราได้อีก คอยดูละกัน"

โจวลี่อ๋องจึงสั่งทหารไปตรวจสอบตามตลาด หากเห็นผู้ใดกล้าวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพระองค์ก็ให้จับตัวมาลงโทษประหารทันที ปรากฎว่าภายในเจ็ดวันหลังจากดำเนินการเช่นนี้ ก็ไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์ ชาวบ้านร้านตลาดเวลาออกมานอกบ้านก็ได้มองตาแล้วรู้ใจกันเท่านั้น

โจวลี่อ๋องจึงตรัสกับเจ้ามู่กงว่า "ท่านเห็นรึยัง ตอนนี้ไม่มีใครวิจารณ์เราอีกแล้ว"

เจ้ามู่กงสีหน้าวิตกยิ่ง พลางกราบทูลว่า "พระองค์เพียงใช้อาญาทัณฑ์บังคับพวกเขาไม่ให้พูดเท่านั้น อันธรรมชาติของน้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำแล้วออกสู่ทะเล ธรรมชาติของมนุษย์ย่อมต้องมีการพูด ดังนั้น หลักการควบคุมน้ำที่ดีก็คือ อย่าไปขัดขวางการไหลของน้ำ หลักการปกครองที่ดีก็คือ อย่าไปขัดขวางการพูดของราษฎร โอรสสวรรค์จะล่วงรู้ความต้องการของราษฎร จะรู้ว่าการปกครองของตนถูกปิดประการใดได้เยี่ยงไรเล่า ก็ต้องฟังจากเสียงของราษฎร แต่เวลานี้ ทั้งเบื้องสูงเบื้องต่ำ คนสนิทซ้ายขวา แม้กระทั่งพระญาติแลเหล่าราษฎร์ ต่างก็ไม่มีใครกล้าพูด เกรงว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้ที่จะติดตามพระองค์ด้วยความจริงใจจะเหลือสักกี่คนกันเล่า" แต่โจวลี่อ็องก็ไม่สนพระทัยแต่อย่างใด

ในที่สุด เหล่าราษฎรที่ถูกบังคับอยู่มานานก็อดรนทนไม่ไหว จึงพากันลุกฮือก่อความวุ่นวาย แล้วพากะนบุกเข้าไปในวัง โจวลี่อ๋องเสด็จหนีออกจากวัง (ภายหลังก็เสด็จสวรรคตไม่ได้กลับมาอีก) องค์ชายจีจิ้ง นัชทายาทหนุ่มหนีไปขอความช่วยเหลือจากเจ้ามู่กง เจ้ามู่กงจึงนำองค์ชายมาซ่อนไว้ในบ้านของตน มีคนไปกระซิบกับแกนนำราษฎรว่า "โอรสของโจวลี่อ๋องซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของเจ้ามู่กง" ผู้คนจึงพากันไปที่บ้านของเจ้ามู่กง เรียกร้องให้ส่งตัวองค์ชายมา เจ้ามู่กงหมดหนทาง จำยอมาละลูกชายตัวเองสวมรอยเป็นองค์ชาย มอบให้พวกชาวบ้านไป(คงไม่ต้องบอกนะครับว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไร)

ราชสำนักซีโจวว่างไร้กษัตริย์ อยู่ภายใต้การปกครองของคณะขุนนาง ซึ่งมีเจ้ามู่กงรวมอยู่ด้วย ในประวัติศาสตร์จีนเรียกว่ายุค "ก้งเหอ" เป็นเวลากว่าสิบปี

เจ้ามู่กงรอเวลานับสิบปี จนกระทั่งองค์ชายจีจิ้งโตเป็นหนุ่มมากพอที่จะรับภาระการบริหารแผ่นดินได้แล้ว จึงได้ทูลเชิญองค์ชายจีจิ้งเสด็จขึ้นครองราชย์สืบไป ทรงพระนามว่า "โจวติ้งอ๋อง"

แปลสรุปความจาก http://wapbaike.baidu.com/view/390524.htm?from_lemma_title=召穆公&from_lemma_id=2384065&from_type=syn

http://wapbaike.baidu.com/view/3724959.htm?from_lemma_title=周厉王&from_lemma_id=2175021&from_type=syn

ภาพประกอบ : เจ้ามู่กงกับโจวติ้งอ๋อง

ที่มา เพจ


Worapong Reddit