วันศุกร์, เมษายน 22, 2559

“คุณคิดว่าตอนนี้ประเทศไทยเป็น ‘ประเทศกำลังวัฒนา’ หรือ ‘ประเทศด้อยพัฒนา’






ยังไงก็ไม่จบ ตราบเท่าที่ คสช. ยังทำตัวลุแก่อำนาจไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะ

“กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระบุว่าหากการทำประชามติเกิดความวุ่นวายจะยกเลิก”

ผลักความผิดให้ผู้เสียหาย หาว่า “เป็นความพยายามกดดันให้ คสช. ใช้อำนาจ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายในบ้านเมือง” นั่นประยุทธ์พูดถึงการเรียกร้องของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ให้ปล่อยตัวนายวัฒนา เมืองสุข

“นักศึกษาก็นักศึกษา แล้วอยู่กับพวกไหน พวกไหนใครเอารถไปส่ง ใครหะ วอยส์ทีวีไปส่งหรือเปล่า รถ นปช. ไปหรือเปล่า” เอ๊า เพิ่งรู้ว้อยซ์ทีวีมีบริการแบบ ‘อูเบอร์’ กะ ‘ลิฟท์’ ด้วยเรอะ





ยังไม่หมด “ไม่รู้เหรอว่ามาจากไหน ใครล่ะที่ทำตรงนี้ ใครล่ะที่สนับสนุนกันมา ใครมีการวางแผนมา หนึ่งล็อบบี้ยีสต์ต่างประเทศ ใครทักษิณ”

(http://prachatai.org/journal/2016/04/65351)

แบบนี้ต้องให้ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ตอบ ถึงจะสาสมกันว่า “ทำเสมือนเป็นเจ้าของร่างรัฐธรรมนูญหรือกกต.เสียเอง มันกงการอะไร อยากเลิกก็เลิกไปเลยถ้าจิตใจคับแคบไม่ยอมรับความเห็นต่าง...

นายกฯ ควรตรวจสอบการข่าว...เป็นการข่าวที่ขาดสติ และสติแตกที่สุด นำข้อมูลรายงานอันเป็นเท็จ และเป็นการข่าวที่เฮงซวย...

ถ้าคนอย่างตนและนปช.ทำ ต้องทำอย่างซึ่งหน้า ไม่มีพฤติกรรมและนิสัยที่เป็นอีแอบ พวกเราไม่เกี่ยวข้องซ้ำยังบอกให้แกนนำยืนอยู่ให้ห่างกลุ่มนักศึกษา เพราะเกรงว่าจะทำลายน้ำหนักความน่าเชื่อถือของกลุ่มนักศึกษา”

(http://www.thairath.co.th/content/609005)







มันเป็นลูกโซ่กันมาเพราะความกร่าง วางอำนาจของ คสช.แท้ๆ เริ่มแต่ทำตัวดั่งสนิมสร้อยเมื่อนายวัฒนาออกโรงค้านร่างรัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา แต่กลับกลายเป็นดั่งนายวัฒนาว่า

“มีบุคคลออกมาแสดงความคิดเห็นหลายฝ่ายแต่ทำไมตนถึงถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว”

แม้ว่าท้ายที่สุดนายวัฒนาก็ได้รับการปล่อยตัวดังคาด พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เขียนไว้ตั้งแต่วันวาน “ข่าวว่า เขาจะปล่อยตัวคุณวัฒนาแบบเนียน ๆ

คือเอาตัวไปฟ้องขึ้นศาลทหารข้อหาขัดคำสั่ง คสช. แล้วศาลให้ประกันตัว ปล่อยกลับบ้านไป ... จบ! หลังจากนี้ คุณวัฒนาก็ไปสู้คดีในศาลทหาร ยืดยาว”

การก็เป็นเช่นนั้น ตำรวจกองปราบและทหาร คสช. นำตัวนายวัฒนาจากค่ายสุรสีห์ กาญจนบุรี ไปยังศาลทหารเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน เพื่อฟ้องคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. และขอฝากขังผลัดที่หนึ่ง แล้วทนายยื่นประกันขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยหลักทรัพย์ ๘ หมื่นบาท

พอพ้นจากการควบคุมตัว นายวัฒนาก็แถลงทันทีว่า “กระบวนการฟ้องร้องตนเองไม่ตรงไปตรงมา โดยในตอนแรก คสช.ควบคุมตัวจากการโพสต์ข้อความไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ภายหลังมีการหาข้อหาอื่น ๆ เพื่อให้ฟ้องร้องต่อศาลได้” และ

“พร้อมจะเดินหน้าแสดงความคิดเห็นต่อไป เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาคมโลกรับรอง และตนไม่ได้ลงชื่อกับทหารว่าจะไม่แสดงความเห็นทางการเมือง

นายวัฒนากล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองการเคลื่อนไหวของบุตรสาวว่าเป็นเพราะถูกชักจูงนั้น ตนยืนยันได้ว่าเป็นผู้แนะนำให้บุตรสาวออกมาเคลื่อนไหว ให้รู้ว่าควรดำเนินการอย่างไรเมื่อตนถูกจับกุม รวมทั้งต้องติดต่อองค์กรระหว่างประเทศให้ช่วยยืนยันถึงสิทธิในการแสดงออก”

(https://www.facebook.com/BBCThai/posts/1764581577096208)





จนมีคนเขานำวีรกรรมของ น.ส.วีรดา เมืองสุข มาประมวลไว้สั้นๆ จับใจว่า

“หนูสู้เพื่อพ่อ พ่อสู้เพื่อประชาชน ประชาชนสู้เพื่อประชาธิปไตย ค่ะ”

นายวัฒนาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า “ในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัว ตนได้ใช้วิธีการอดอาหารประท้วง แต่ทางทีมแพทย์ขอร้องให้ดื่มน้ำมะพร้าว ๔ ลูก ไม่ได้กินเนื้อตามที่เป็นข่าว...

ทั้งนี้ตนได้ติดต่อไปยังบุตรสาวทราบว่าถูกกดดันผ่านคุณตา (นายสุเมธ เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือบริษัทซีพี) ให้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมมารดา โดยมีกำหนดกลับวันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายนนี้”

(http://www.matichon.co.th/news/113273)

รวมความว่าอันเนื่องมาแต่เรื่องของวัฒนา สมบัติ บุญงามอนงค์ สรุปไว้ง่ายๆ ๓ ประโยค “คนยืนเฉย ๆ ก็โดน ตร. จับ คนถูกจับแล้วไม่ยอมกินข้าวก็จะถูกฟ้องคดี ช่วยตอบผมที ที่นี่มันที่ไหน”

มีคนให้คำตอบด้วยคำถามอยู่ในนิตยสาร ‘โลกวันนี้วันสุข’ ว่า “คุณคิดว่าตอนนี้ประเทศไทยเป็น ‘ประเทศกำลังวัฒนา’ หรือ ‘ประเทศด้อยพัฒนา’

น่าจะกำลัง ‘วัฒนา’ ล่ะนะ หากจะพิจารณาในแนวข้อคิดของบทความเรื่อง ‘วัฒนา สปริง’ ในหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ รายวัน ที่ว่า

“ยิ่งหาก คสช.ใช้อำนาจไล่จับคนเห็นต่างเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญตามคำขู่ที่ออกมาไม่เว้นแต่ละวันเชื่อว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลายมากขึ้น

สถานการณ์ตอนนี้เป็นไปอย่างที่อาจารย์วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ กล่าวเอาไว้ว่า คสช. มุ่งปกครองด้วยหนทางแห่ง ‘ความกลัว’

แต่ความกลัวนั้นนำไปสู่ ‘ความโกรธ’ ที่รอปะทุเป็น ‘ความพังทลาย’ (ของทุกคน) คุณวัฒนา เมืองสุข คือหนึ่งคนที่ปฏิเสธ ความกลัว”

(http://www.lokwannee.com/web2013/?p=215132)

การปฏิเสธของนายวัฒนาจึงเป็น ‘สปริง’ เด้งดึ๋ง “เกิดแรงกระเพื่อมท้าทายอำนาจ คสช....เพราะจะมีคนอย่างนายวัฒนาอีกเป็นร้อยเป็นพันออกมาแสดงพลังคานอำนาจ” นั้น