วันอังคาร, มกราคม 05, 2559

Kasian Tejapira : ความเข้าใจผิดทางรัฐศาสตร์





ที่มา FB

Kasian Tejapira



ความเข้าใจผิดทางรัฐศาสตร์

%%%%%%%%%

โฆษกไก่อูคงเข้าใจผิดอะไรสักอย่างในทางรัฐศาสตร์แน่ ๆ จึงออกตัวว่ารัฐไม่เกี่ยวกับคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรห้ามแจกปฏิทินของคุณทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

โดยไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับสองอดีตนายกฯแห่งตระกูลชินวัตร หรือเห็นดีเห็นงามไปกับการแจกปฏิทินรูปทั้งสอง อะไรที่ล่วงละเมิดหรือจำกัดหวงห้ามสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ล้วนเกี่ยวกับรัฐเสมอทั้งนั้นแหละครับ เพราะมันเป็นหน้าที่หลักที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของรัฐชาติสมัยใหม่ในโลกอารยะที่จะต้องปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของพลเมืองไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดมาล่วงละเมิดหรือจำกัดหวงห้ามโดยมิชอบ ยังมิพักต้องพูดว่าในกรณีนี้ มันมีที่มาจากคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด

ดังนั้น เรื่องกระจอก ๆ อย่างแจกปฏิทินนี่ก็เกี่ยวกับรัฐครับ และในฐานะรัฐบาล (คนบริบาลและทำหน้าที่รัฐ) ก็ต้องออกมาทำความกระจ่างชี้แจงข้อเท็จจริงว่าการกระทำอันล่วงละเมิดหรือจำกัดหวงห้ามสิทธิเสรีภาพของพลเมืองคนไทยร่วมชาตินี้ รัฐบาลสั่งหรือไม่? ถ้าไม่ได้สั่ง ก็ต้องยุติห้ามปรามไม่ให้กระทำ เพราะเป็นสิทธิโดยชอบของพลเมืองที่จะแจก/รับปฏิทินไม่ว่าของใครหน้าไหนก็ตาม ส่วนรับแล้ว ชาวบ้านเขาจะเอาไปติด ไปใช้ หรือไปลอกหน้าออก ติดหน้าคนใหม่เข้าไปตามใจชอบ ก็เป็นเรื่องของชาวบ้านนะครับ รัฐบาลและผู้แจกปฏิทินไม่เกี่ยว

ขอให้คำนึงถึงว่าสักวันหนึ่งในอนาคตอาจเกิดเรื่องข้าราชการอาวุโส "ห้ามแจก" ทำนองเดียวกันนี้กับปฏิทินที่มีภาพนายกฯคนปัจจุบันหรือโฆษกไก่อูได้เช่นกัน ถึงตอนนั้น ท่านจะรู้สึกอย่างไรหรือครับ?




ในทำนองเดียวกัน การยุให้ยึดรถของผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับเป็นเวลา ๑ ปี (จากเดิม ๗ วันที่รัฐบาลใช้อำนาจ ม. ๔๔ ของรธน.ชั่วคราวประกาศสั่ง) ก็เป็นเรื่องควรใคร่ครวญไตร่ตรองให้ดี การใช้อำนาจอาญาสิทธิ์เด็ดขาดไปล่วงละเมิดสิทธิเหนือร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนพลเมืองนั้น ต่อให้มีเหตุอันสมควรหรือชอบด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ก็ควรต้องผ่านกระบวนการอันชอบธรรมและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งก็คือผ่านการพิจารณาอภิปรายและเห็นพ้องของตัวแทนเจ้าของสิทธินั้นเอง (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบ)

ในสภาพที่ไม่มีสภา ไม่มีตัวแทนดังกล่าว การใช้อำนาจเด็ดขาดเหนือการตรวจสอบถ่วงดุลที่ไปล่วงล้ำ จำกัดกระทบสิทธิพลเมืองเหล่านี้ ควรเบรคตัวเองให้มาก อย่าใช้พร่ำเพรื่อ เอาสะดวกเข้าว่า ผมเองนั้นเห็นด้วยเต็มที่กับการลงโทษจำกัดสิทธิผู้ประมาทสุ่มเสี่ยงต่อการก่ออุบัติเหตุทำร้ายชีวิตร่างกายทรัพย์สินของชาวบ้าน แต่ต้องทำผ่านกระบวนการโดยชอบ ผ่านการปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนถกเถียง มองให้รอบด้าน (เช่น ยึดใบขับขี่ตลอดชีพ มิดีกว่าแค่ยึดรถหรือ? หรือยึดรถหนึ่งปีนานพอหรือ เอาสัก ๑๐ ปีเป็นไง ฯลฯ) มันจะได้ชอบธรรม และยั่งยืน หากทำด้วยอำนาจอาญาสิทธิ์ที่มาจากการยึดและควบคุม มันจะไม่ยั่งยืนและถูกยกเลิกเพิกถอนได้โดยง่ายในอนาคต

ดาบมีสองคม อำนาจอาญาสิทธิ์เด็ดขาดก็เช่นกัน ควรระวังมันบาดมือเจ้าของนะครับ

....

สตาร์วอภาคพิเศษ





จาก หยุดดัดจริตประเทศไทย