วันศุกร์, มกราคม 22, 2559

ยูเอ็น-ฮิวแมนไรต์วอทช์ จ่อ ออกแถลงการณ์ถล่ม รบ.ไทย ซัดละเมิดกติกาสากลชัดเจน




ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่: 21 ม.ค. 59

ฮิวแมนไรต์วอทช์ จ่อ ออกแถลงการณ์ ปมอุ้ม “จ่านิว” ชี้ ละเมิด “กฏหมาย-สิทธิมนุษยนชน” ชัด “สุณัย” เผย ภายใน 24 ชั่งโมง เจอ ปฏิกิริยา ตปท.หนักแน่ หลัง “บิ๊กตู่” ให้ท้ายทหาร

เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอทช์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ฮิวแมนไรต์วอทช์กำลังจะออกแถลงการณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าจับกุมตัวนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา หนึ่งในผู้ที่ถูกหมายเรียกหลังจากการจัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (ฝั่งประตูเชียงราก) เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดย ฮิวแมนไรต์วอทช์มีความกังวลเป็นอย่างมากกับวิธีการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งปรากฏในบันทึกการจับกุมของทางราชการว่า เป็นทหารจากหน่วย ร.2 พัน 2 รอ. เนื่องจากวิธีการที่ใช้เรียกได้ว่า เป็นการอุ้ม ไม่ใช้เป็นการจับกุมที่สอดคล้องกับมาตรการทางกฏหมาย และกติกาสากล เพราะในช่วงเวลา 22.00 – 02.30 น.เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยกลับปฏิเสธไม่รับรู้ว่ามีการจับกุมตัว ซึ่งถือในช่วงเวลาดังกล่าวนายสิรวิชญ์ได้ถูกบังคับให้สูญหายแล้ว อีกทั้งภายหลังจากช่วยกันตามหาจนเจอตัว นายสิรวิชญ์ยังให้ปากคำว่า ระหว่างที่ถูกคุมตัว เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการปิดตา ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฏหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนชัดเจนแล้ว

“สิ่งที่ถือเป็นความน่ากังวลยิ่งขึ้นไปอีก คือท่าทีของเจ้าหน้าที่ทหาร เริ่มจาก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังจากพบตัวนายสิรวิชญ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ และละมุนละม่อมแล้ว ซึ่งเป็นคำพูดสิ่งที่ขัดกับข้อเท็จจริงที่จ่านิวระบุ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ ยิ่งไปกว่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นายสิรวิชญ์ทำผิดกฏหมาย ดังนั้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมด้วยวิธีการใดก็ได้ นี่จึงเท่ากับว่า หัวหน้า คสช.ได้พูดต่อสาธารณะเพื่อให้ท้ายกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และผิดกฏหมายระหว่างประเทศด้วยตัวเอง อีกทั้งยังพูดด้วยว่า เขาไม่กังวลกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ ทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำวัฒนธรรมของการทำผิดแล้วไม่ต้องรับผิด เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่เหนือกติกาสากลระหว่างประเทศ” นายสุณัย กล่าว

นายสุณัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการจับกุมเพื่อนนักศึกษาอีก 3 คน คือ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ และนายกรกช แสงเย็นพันธ์ ภายหลังจากการไปเยี่ยมนายสิรวิชญ์ที่โรงพักตามหมายซ้ำอีก แล้วยังถูกนำตัวขึ้นศาลทหารด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นกรอบใหญ่ที่มีความกังวล เพราะที่ผ่านมาได้คัดค้านการนำพลเรือนขึ้นศาลทหารมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีการดำเนินคดีกับคนเห็นต่าง คสช.ด้วยข้อหาที่ทำกิจกรรมทางการเมืองอย่างสันติ ซึ่งเป็นสิ่งที่กติการะหว่างประเทศที่ไทยเป็นพันธกรณีให้รองรับ แต่กลับเลือกปฏิบัติกับฝ่ายที่เชียร์ คสช.ให้สามารถทำอะไรก็ได้ ไม่มีความผิด โดยเฉพาะกรณีเดียวกัน ฝ่ายนักศึกษายังไม่ทันลงจากรถไฟด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายหนึ่งสามารถนัดรวมตัวเพื่อไปชุมนุมได้ มีการใช้ความรุนแรง ขว้างปา ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย โดยที่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆกับคนเหล่านี้เลย อย่างไรก็ตาม ภายใน 24 ชั่งโมงจากนี้ ปฏิกิริยาจากต่างประเทศจะออกมาอย่างเข้มข้น สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ เตรียมออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน เพราะถือเป็นเรื่องที่อยู่ในความกังวลขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก