วันเสาร์, มกราคม 30, 2559

ฉายแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ‘มีชัย ไม่ปลอก’ ฉบับ ‘ตามใจ คสช.’ โร้ดแม็พ ‘งอก’ สังคมคง ‘เสื่อมสลาย’




ฉายแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ‘มีชัย ไม่ปลอก’ (ถ้างง ‘ปลอก’ อะไร ย้อนไปดูโพสต์วันที่ ๑๙ ม.ค. นะครัช)

ฉบับที่ปู่มีชัย ฤชุพันธุ์ บอกว่าเป็นฉบับปฏิรูป แต่สื่อสายหลักหลายแห่งเรียกเวอร์ชั่น ‘ปราบคอรัปชั่น’ ทั้งนี้เพราะ “ยึดกรอบตามมาตรา ๓๕ แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ๒๕๕๗ ใน ๑๐ ข้อ

มีทั้งกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน” แล้วยังปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตาม directives ที่ คสช.ให้ไว้ ๕ ข้อ




จึงรวมความได้ว่าเป็นฉบับ ‘ตามใจ คสช.’ แค่นั้นไม่พอ ยังอ้อล้อจัดเสลี่ยงนั่งห้างไว้ให้ คสช.ด้วย ข้อนี้นายมีชัยพูดเอง

“ไม่ให้แม้น้ำสี่สาย คณะรัฐมนตรี คสช. สนช. สปท. ต้องเว้นวรรคการเมือง ๒ ปีเหมือน กรธ. เพราะแม่น้ำสี่ สายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ หาก คสช.ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งคสช. ใน ๙๐ วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้”

(http://www.matichon.co.th/news/18623)

ที่แน่ๆ ร่าง รธน.ฉบับนี้เจอกับแรงต้านทันทีที่ออกมา ไม่เฉพาะแต่ฝ่ายการเมืองที่ถูก คสช. กดหัวมาตลอด แม้แต่ฝ่ายที่ได้อานิสงค์รัฐประหารมานานกว่าปี เพิ่งมาอัตคัตเล็กน้อยในระยะหลังๆ และขัดสนอย่างยิ่งในร่างฯ นี้ ก็แสดงอาการฮึดฮัดขัดข้องกันบ้างแล้ว

เริ่มจากพรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะโต้ทันควันเลยทีเดียว โดยแถลงว่าไม่เป็นประชาธิปไตยทั้งในหลักสากล และ “ไม่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ด้วย

(รายละเอียดเต็มโปรดดูที่ http://www.matichon.co.th/news/18552)




ข้อขัดข้องอื่นๆ เนื้อความตามสรุปคำให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม เวชชยชัย เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ที่บอกว่าเป็นร่าง รธน. อำนาจแฝง และไม่เห็นหัวประชาชน เนื่องจาก

หนึ่ง นายกรัฐมนตรีซึ่งควรจะเป็นผู้ถือธงนำในการบริหารปกครองประเทศ กลับไม่มีความหมายในร่าง รธน.ฉบับนี้

สอง เป็นบทบัญญัติที่ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ และองค์กรอิสระทั้งหมดล้วนมีอำนาจแฝง ไม่เฉพาะแต่ศาลรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจล้นหลาม

ดังนี้เมื่อถูกถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยตอบว่า พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง และทุกองค์กรการเมือง หากยังไม่มีการแก้ไขร่างฯ แล้วเข้าสู่ประชามติในรูปแบบที่เป็นอยู่นี้

(http://www.matichon.co.th/news/18290)

ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็มีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคที่ออกมาแสดงการไม่เห็นด้วย ดังที่ อธึกกิต แสวงสุข นำไปอ้างในรายการ ‘โอเวอร์วิว’ ของเขาทางว้อยซ์ทีวีว่า มีการกำหนดเวลาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก ๑๐ ฉบับถึงแปดเดือน จะเป็นวาระซ่อนเร้นในการยืดเวลาออกไปหรือไม่

โดยเฉพาะนายนิพิฏฐ์นั้นเปรียบเปรย รธน. กับกฎหมายลูกว่าเหมือนแม่กับลูก ถ้าต้องใช้เวลามากมายไปร่างใหม่โดยไม่ยึดตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วในกฎหมายแม่ ก็แสดงว่าไปมีชู้

ประเด็นการยืดเวลากว่าจะถึงเลือกตั้งไม่ใช่ ๖+๔+๖+๔ เสียแล้วนี้ พาดหัว นสพ.บางกอกโพสต์ว่าไว้เช่นเดียวกัน “ร่างฯ จุดกระแสความหวาดหวั่นว่าเลือกตั้งจะยืดออกไปอีกถึงปี ๒๕๖๑”

(http://www.bangkokpost.com/…/draft-sparks-fear-election-wil…)

เนื้อข่าวบางกอกโพสต์ชี้ว่า มาตรา ๒๕๙ และ ๒๖๐ ในร่าง ๒๗๐ มาตรา ว่าถึงการร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาราว ๘ เดือน แล้วให้ สนช.พิจารณาอีก ๒ เดือน ซึ่งถ้าเป็นไปตามกำหนดนี้ ก็จะมีการเลือกตั้งได้ในราว ตุลา-พฤศจิกา ๒๕๖๐

แต่ว่า ถ้า กรธ. ไม่สามารถร่างกฎหมายลูกให้เสร็จภายในกำหนดแปดเดือน รธน. ‘ไม่ปลอก’ ของนายมีชัยสั่งให้ยุบ กรธ.ชุดนี้ แล้ว คสช. ตั้งกรรมการร่างชุดใหม่มาร่างต่อให้เสร็จ โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอนไว้

เช่นนี้จะทำให้ไม่สามารถมีการเลือกตั้งได้จนกระทั่งต้นปี ๒๕๖๑ เป็นอย่างเร็ว




ซึ่งในข้อนี้ ‘ใบตองแห้ง’ ได้เตือนไว้ด้วยว่า “ตลอดเวลา ๘+๒+๕+......... คสช.ยังมีอำนาจเต็มตาม ม.๔๔ รัฐธรรมนูญมีแค่แขวนไว้ แต่ไม่ได้ใช้ ของจริงใช้ รธน. (ชั่วคราว) ๕๗ เรื่อยไป จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ”

ซ้ำร้าย ตายห่ เมื่อนักข่าวถามนายมีชัยว่า ถ้าร่างฯ ไม่ผ่านประชามติจะมีมาตรการอะไรแก้ไข ปู่ไม่ปลอกตอบว่า “ไม่รู้ อย่าให้ผมตอบ เดี๋ยวตกใจ” นักข่าวย้อนว่าเอาน่า ตอบให้ตกใจหน่อยนะ ก็ได้รับคำตอบอีกว่า “อย่าเลย เดี๋ยวเป็นลม”

ตานี้ ปัญหามันอยู่ที่ คสช. ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าสุดยอดเพิ่งย้ำว่า ถ้าประชามติคว่ำร่างฯ มีชัย ก็จะไม่อยู่ต่อ จะให้มีเลือกตั้งภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ ตะเองอยากให้ผ่าน แต่ถ้าใครไม่อยากให้ผ่านต้องไปคุยกันหน่อย

อ้าว พูดแบบนี้เหมือนกับที่บอกว่าทหารปกป้องแผ่นดิน ๕ แสนตารางกิโลเมตร ไว้ให้พวกที่ถามมีทหารไว้ทำไมพูดหมาๆ กัน

ยิ่งกว่านั้นพอรุ่งขึ้นอีกวัน บร๊ะพูดอีกอย่าง พอไปเมืองทองธานี จ้อเรื่อง ‘อาชีวะศึกษา ทวิภาคีชาติ’ ทั่นหัว คสช. ดันบอก “ว่าการสร้างคนต้องสร้างการเรียนรู้การใช้สมอง

ที่ไม่ใช่สมองที่คิดแต่เรื่องความขัดแย้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนการละเมิดกฎหมาย คิดแต่ประชาธิปไตย เพราะถ้ายังติดกับเรื่องเหล่านี้ ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ถอยหลังไปเรื่อย”

(http://www.matichon.co.th/news/18474)

“โอ้ ปากหนอปาก” นึกถึงเพลงสุนทราภรณ์ขึ้นมาทันที แต่ว่าช้าก่อน ยังไม่หมด เท่านั้นไม่พอ มีอีกตอน

Sunai @sunaibkk ทวี้ต :ประยุทธ์พูด “ทุกคนบอกว่าต้องสร้างความเป็นธรรมให้ผู้หญิงผู้ชายมีสิทธิเท่ากัน...สังคมไทยจะเสื่อมสลายถ้าคิดแบบนี้”

ชิหาย นี่ใครกันล่ะที่ ‘ถอยหลัง’ ถ้าไม่ถอยก็คงยังไมผุดโผล่จากโคลนตมใต้น้ำ ทั่วโลกเขาพยายามกำหนดสิทธิเท่าเทียมทางเพศ แต่หัวโจกไทยฮุนต้ากลับทำตัว ‘ติดกับ’ ความคิดแบบโลกล้านปีเสียเอง

แม้แต่ปู่มีชัย คนรุ่น ‘ไม่ปลอก’ ก็ยังบอกว่า “ที่ผ่านมาสิทธิผู้หญิงไม่เคยถูกกีดกัน เช่นเดียวกับในกรธ.ที่มีผู้หญิงเข้าไปมีส่วนร่วม แม้จะมีเพียง ๒ คนแต่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ”

(ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญไปพูดบนเวทีเสวนา ‘ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย’ เมื่อ ๓๐ ม.ค. นี้ http://www.matichon.co.th/news/19058)

บังเอิญทั่นประธานพูดในหัวข้อ ‘รัฐธรรมนูญ :ยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศและการมีส่วนร่วมของประชาชน’ ทั่นจึง ‘ไม่มีหูรูด’ เอาอย่างหัวหน้าสูงสุด เลยเถิดไปถึง

“คนอเมริกันไม่มีวันเข้าใจคนเอเชียเพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อคนอเมริกันเข้ามาจึงทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งวิธีคิดทั้งหลายของอเมริกันไม่สามารถนำมาใช้กับคนไทยได้”

ทั่นคงไม่รู้หรอกว่า วิธีคิดแบบอเมริกันเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญน่ะ เป็นที่ยอมรับของทั่วโลกว่า universal ไม่ใช่อยู่ในกระดองหรือกะลานะฮัฟ

ปู่กับป้าพูดเป็นพิมพ์เดียวกันอย่างนี้ ขืนปล่อยให้โร้ดแม็พ ‘งอก’ คสช.ได้อยู่ยาวกันจริงๆ อย่างที่อธึกกิตว่า สังคมคง ‘เสื่อมสลาย’ อย่างที่ประยุทธ์พล่ามแน่ๆ