วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 24, 2558

นักกิจกรรมตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ร้องเรียน กสม. กรณีถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และเตรียมส่งจดหมายต่อยูเอ็น





บ่ายวันนี้ (23 ธค)  "จ่านิว"สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ สมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา กรกนก คำตา สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และศศวัชร์ คมนียวนิช สมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ได้ไปเขียนคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม) ณ.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรณี ถูกละเมิดสิทธิในหลายด้าน จากเหตุการณ์ในวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งได้จัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปราชภักดิ์ส่องไฟหากลโกง แล้วถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งการรถไฟ ทหาร ตำรวจ ขัดขวางการเดินทาง รวมถึงควบคุมตัว

วัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่าทางกสม.ได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมแล้วเมื่อวานนี้ เมื่อมีผู้มาร้อง ก็จะดำเนินการตรวจสอบทันที โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขัดขวาง ควบคุมตัว จะมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของอนุกรรมการกลั่นกรองชุดที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ส่วนกรณีเร่งด่วน ได้แก่เรื่องได้รับหมายเรียก และ กรณีมีนักกิจกรรมถูกควบคุมตัวโดยไม่ทราบสถานที่ หรือ ถูกอุ้มหาย สามารถร้องเป็นเรื่องเร่งด่วน 




จ่านิวเปิดเผยว่า เขาได้เขียนคำร้องใน 4 เรื่องหลักคือ ให้ตรวจสอบการรถไฟที่ตัดโบกี้โดยสารของตน ซึ่งละเมิดสิทธิในการเดินทาง / ตรวจสอบการขัดขวางของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ว่าทำไปเพราะอะไร รวมถึงที่ได้ควบคุมตัวไว้กว่า 10 ชั่วโมง / การควบคุมตัว "ตูน"ธเนตร อนันตวงศ์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกับตน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปจากโรงพยาบาล ขณะรักษาตัว โดยไม่แสดงตัว แล้วใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 3/2558 มารับรองการกระทำที่มิชอบ 

และ การที่พลตรีบุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ยื่นคำร้องดำเนินคดีกับพวกตน 11 คน ในข้อหามั่วสุมชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกพวกตน เมื่อทำเรื่องขอเลื่อนก็ขู่ออกหมายจับ ทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี




จ่านิวยังเปิดเผยว่า หลังปีใหม่่ เขามีแผนว่าจะฟ้องการรถไฟต่อศาลปกครอง กรณีละเมิดสิทธิการเดินทาง และฟ้องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขัดขวางและควบคุมตัวพวกตนใน

ooo


นักกิจกรรมตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ เตรียมส่งจดหมายร้องเรียนต่อยูเอ็น




นายวิจิตร์ หันหาบุญ หนึ่งในผู้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัว จากเหตุเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ เตรียมยื่นจดหมายร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกดำเนินคดี




“ผมไปตรวจสอบการทุจริต ไม่ได้ไปชุมนุมทางการเมือง ทำไมถึงโดนข้อหาว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง ผมก็เคารพกฎหมาย ผมได้ข่าวจากสื่อหนังสือพิมพ์ ผมก็คิดว่าไปได้ แม้แต่หัวหน้าคสช. ก็บอกว่าไปได้ ผมก็เชื่อว่าไปได้ แต่ไปแล้วโดนอย่างที่เป็นข่าว” นายวิจิตร์ กล่าวกับบีบีซีไทยโดยระบุว่าจดหมายดังกล่าวจะส่งไปยังสำนักงานองค์การสหประชาชาติที่เจนีวา ขณะที่วานนี้ นักศึกษาและนักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สำนักงานในประเทศไทยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกรณีดังกล่าว รวมถึงการจับกุมนายฐนกร ศิริไพบูลย์และนายธเนตร อนันตวงษ์ ด้วย

วานนี้ พ.ต.ท. ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย เผยกับบีบีซีไทยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้นักกิจกรรมทั้ง 11 รายกรณีตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์เลื่อนรายงานตัว จากกำหนดเดิม 22 ธ.ค. ไปเป็น 9 ม.ค. 2559 ตามที่ผู้ถูกเรียกทั้ง 11 รายส่งจดหมายขอมา โดยระบุว่า เหตุผลที่แจ้งมาในการขอเลื่อนรายงานตัวไม่ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ เวลา 9.00 น. ซึ่งหากทั้ง 11 รายไม่มารายงานตัวก็จะต้องดำเนินการออกหมายจับต่อไป




ด้านนางสาวเยาวลักษณ์ อนุพันธ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของกลุ่มนักศึกษาและนักกิจกรรม 11 คน ตั้งข้อสังเกตว่าตามหลักทางกฎหมายแล้ว พนักงานสอบสวนจะมีหมายเรียกครั้งที่สองต่อเมื่อผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาพนักงานสอบสวน แต่กรณีนี้ผู้ถูกกล่าวหา มีการทำหนังสือแจ้งกลับนัดหมายล่วงหน้าเป็นที่ 9 ม.ค.59 แต่เจ้าหน้าที่กลับดำเนินการอย่างเร่งรัด ทำให้ศูนย์ทนายมีความกังวลต่อการปฏิบัติของเจ้าพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตามจะพูดคุยกับลูกความทั้ง 11 คนอีกครั้งว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป

นักกิจกรรม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาที่ถูกเรียกไปรายงานตัว ประกอบด้วย สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ อานนท์ นำภา ชลธิชา แจ้งเร็ว ชนกนันท์ รวมทรัพย์ ธเนตร อนันตวงษ์ กิตติธัช สุมาลย์นพ วิศรุต อนุกุลการย์ อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ กรกช แสงเย็นพันธ์ กรกนก คำตา และวิจิตร์ หันหาบุญ ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาจากการทำกิจกรรมขึ้นรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยข้อกล่าวหาระบุว่าเป็นการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 13

‪#‎อุทยานราชภักดิ์‬





ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิจิตร์ หันหาบุญ อายุ 66 ปี 1 ใน 11 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกกรณีชุมนุมทางการเมือง ขัดคำสั่งคสช. เนื่องจากการเดินทางด้วยรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

เรื่องขอความช่วยเหลือคุ้มครองข้าพเจ้า ครอบครัวและผู้เกี่ยวข้อง

เรียน องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ข้าพเจ้านายวีจิตร์ หันหาบุญ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 ซอยเพชรเกษม 41 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160 ประเทศไทย

ข้าพเจ้าได้รับหมายเรียกจากตำรวจออกโดยสถานีตำรวจบางกอกน้อย ธนบุรี หมายเรียกนี้ให้ไปให้ปากคำจากการที่ข้าพเจ้าจะไปที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะได้ทราบข่าวจากโทรทัศน์และสื่ออื่นๆ ว่ากลุ่มนักศึกษาจะเดินทางไปตรวจสอบเรื่องการโกงอุทยานตามที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอเป็นความจริงหรือไม่

ข้าพเจ้าอยากเห็นรัฐบาลปราบโกงจึงได้นั่งรถไฟฟรีไปกับนักศึกษา ประชาชนพร้อมทั้งสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2558 แต่ก็ไปที่อุทยานราชภักดิ์ เพราะเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เข้าขัดขวางด้วยการตัดตู้โบกี้รถไฟขบวนที่ข้าพเจ้าได้นั่งไปกับนักศึกษาและผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี

จากนั้นทหาร สารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจกักตัวไว้ในห้องประชุมสถานีรถไฟบ้านโป่ง และน้ำขึ้นรถบัสของทหารโดยการชาร์จตัวอย่างรุนแรงโดยปิดบังต้นสังกัด ข้าพเจ้าถามว่าจะพาพวกเราไปไหนก็ไม่บอก ภายหลังจึงทราบว่ามาที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม หลังจากถึงแล้ว และนำตัวเข้าไปกักขังเพื่อสอบสวนประเด็นทางการเมือง โดยพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรมเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองและห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ข้าพเจ้าจึงไม่ยอมลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหาจึงได้ปล่อยตัวกลับบ้านเมื่อประมาณ 22.00 น. รวมเวลาที่ถูกกักขังประมาณ 12 ช.ม.

ข้าพเจ้าถูกกักตัวถูกสอบสวนโดยไม่ได้ทำผิดใดๆ เพียงเพราะอยากจะไปเที่ยวอุทยานฯ เพื่อจะพิสูจน์การโกงตามที่สื่อต่างๆ ได้นำเสนอ และการไปครั้งนี้ ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ การรถไฟแห่งประเทศไทย และหัวหน้าคสช.ได้ประกาศแล้วว่าไปได้ทุกคนโดยไม่มีความผิด

ข้าพเจ้าสนใจการเมืองเพราะเป็นเรื่องชีวิตประจำวัน เคยร่วมชุมนุมหลายครั้งเมื่อรัฐบาลจากประชาชนเลือกเข้ามาถูกยึดอำนาจ และการยึดอำนาจครั้งสุดท้ายเมื่อ 22 พ.ค. 2555 นั้นอ้างว่ารัฐบาลก่อนนี้โกงจนจะทำให้ประเทศเสียหายจึงอยากเห็นการปราบโกงจริงๆ

ข้าพเจ้าขอกล่าวหาว่าการกระทำของรัฐบาลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติให้ช่วยคุ้มครองข้าพเจ้า ครอบครัวและผู้ที่โดนละเมิดในครั้งนี้

ขอแสดงความนับถือ

วิจิตร์ หันหาบุญ

(นายวิจิตร์ หันหาบุญ)


ภาพจาก ประชาไท