วันอาทิตย์, ธันวาคม 27, 2558

รัฐบาลเดือด!! โต้ไม่คิดล้ม 30 บาท มีแต่จะพัฒนา ซัด เพื่อไทยปูดข้อมูลเท็จ (สส.เพื่อไทยไม่ได้เริ่มก่อน ก็ รมต.สาธารณสุขพวกมรึงนั่นแหละ ที่ออกมาบ่นเรื่องงบ30บาทคนแรก)





เรามาถึงนี้ได้ยังไง จุดที่ทหาร ตอแหล กว่าพวกนักการเมืองอีก...หรือมันเป็นเชื้อติดต่อกันได้

รัฐบาลนี้โยนหินถามทางหลายเรื่องแล้ว ตั้งแต่ single getway พอโดนกระแสเข้าก็โยนบาปให้คนอื่น ด่าพวกที่ไม่เห็นด้วย หาว่าเข้าใจผิดบ้าง แตกตื่นเองบ้าง
สส.เพื่อไทยไม่ได้เริ่มก่อนเลย ก็ รมต.สาธารณสุขพวกมึงนั่นแหละ ที่ออกมาบ่นเรื่องงบ30บาทคนแรก

เปลี่ยนโฆษก จะดีมาก .วายแบบนี้
มีแต่แถลง ให้บ้านเมืองขัดแย้ง เอนเอียงจนเกินไป เห็นชัดๆ คดีระเบิดที ศาลพระพรหม และ กุผังล้มเจ้า
กะลาแลนด์ แดนสนธยา - รวมคลิปเด็ด V.2

...

รบ.เดือด!! โต้ไม่คิดล้ม 30 บาท ซัด เพื่อไทยปูดข้อมูลเท็จ จี้เลิกทำกรรมชั่ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 
26 ธ.ค. 2558

รบ. ไม่เคยคิดยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค มีแต่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จี้ ส.ส.เพื่อไทยเลิกใช้พฤติกรรมโกหกบิดเบือน เผาความรักความสามัคคีของคนในชาติ แนะ ถ้าทำดีไม่เป็น ขอแค่เลิกทำชั่วก็พอ

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.58 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวอ้างว่า รัฐบาลจะยกเลิกโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เคยมีแนวคิดที่จะยกเลิกโครงการดังกล่าวตามที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จงใจสร้างข้อมูลเท็จเพื่อให้เกิดความตื่นตระหนกและวุ่นวายในสังคม

"ขอยืนยันว่าการยกเลิกโครงการ 30 บาท ไม่เคยอยู่ในความคิดของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือตอนนี้ สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำคือ การปรับปรุงโครงการให้สามารถดูแลพี่น้อง และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้ได้รับการดูแลมากที่สุด ดีที่สุด ทั่วถึงที่สุด ขณะเดียวกันก็แก้ไขช่องโหว่ความทับซ้อน ของการจัดการและการใช้งบประมาณ เพื่อมิให้เป็นภาระต่อการบริหารงบประมาณแผ่นดินในอนาคต" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคน ได้แสดงพฤติกรรมชี้นำ ชักจูง ให้ผู้หลงผิดเผาบ้านเผาเมือง เป็นภาพสลดที่คนไทยทุกคนยังติดตาไม่รู้ลืม มาวันนี้พฤติกรรมโอหังฝ่าฝืนกฎหมายเช่นนั้นกระทำไม่ได้แล้ว เพราะ คสช.และรัฐบาลเข้ามาดูแลความสงบปลอดภัยในประเทศ แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ยังใช้วิธี เผาความรัก เผาความสามัคคีของคนในชาติ ด้วยการโกหก สร้างข้อมูลเท็จอย่างไม่ละอายใจ ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความวิตกกังวลและสังคมสับสนวุ่นวาย

"ทุกคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ควรพิจารณาตนเองได้แล้วว่า เหลือความเป็นคนไทยในตัวมากน้อยเพียงใด ถ้าคิดทำกรรมดีให้ประเทศชาติไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอเพียงแต่เลิกทำกรรมชั่ว เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ชีวิตตัวท่านเอง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว


ooo


ทรัพย์สินเฉียด 100 ล.‘หมอปิยะสกล’ผู้ดันแนวคิดให้ ปชช.ร่วมจ่ายบัตรทอง





พลิกทรัพย์สิน 99 ล้าน ‘หมอปิยะสกล-ภรรยา’ พบมีที่ดินย่านคลองตัน-กทม. ไม่ถึงไร่ 30 ล้าน เงินลงทุนรวมกว่า 33 ล้าน ห้องชุดคอนโดฯ 2 แห่ง 12 ล้าน เครื่องประดับ 5.3 ล้าน ก่อนดันแนวคิดให้ประชาชนร่วมจ่ายระบบบัตรทอง อ้าง รบ.รับผิดชอบฝ่ายเดียวไม่ไหว

ที่มา สำนักพิมพ์อิศรา
วันเสาร์ ที่ 26 ธันวาคม 2558

ชื่อของ ‘นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร’ รมว.สาธารณสุข ตกเป็นที่สนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง !
ภายหลังออกมาแถลงผลงานของรัฐบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ระบุตอนหนึ่งว่า ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ ‘บัตรทอง’ มีแนวโน้มการใช้งบประมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 4.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ดังนั้นในปี 2559 ประชารัฐอาจจะต้องร่วมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนของระบบดังกล่าว จะให้รัฐบาลรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียวไม่ไหว

“ทุกคนบอกว่าถ้าพูดเรื่องให้ประชาชนร่วมจ่ายจะถูกตี แต่ผมก็ต้องยอมให้ถูกตี ถ้าไม่มีใครกล้าที่จะปรับปรุงระบบ ก็จะต้องปล่อยให้หลักประกันแห่งชาติเจ๊ง เรื่องนี้ถ้าใครไม่เห็นด้วยก็ต้องเสนอแนวทางมาให้ว่าจะให้ทำอย่างไร ถ้าบอกว่าประชารัฐร่วมกันแล้วไม่ดี ก็ต้องบอกมาว่าที่ดีต้องทำอย่างไร จะพัฒนาประเทศอย่างไร แต่ประชารัฐต้องมีส่วนร่วมเรื่องหลักประกันสุขภาพฯ ทำให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ต้องเดินหน้าและยืนอยู่บนความจริง” เป็นคำยืนยันของ ‘หมอปิยะสกล’

ไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะมีบทสรุปเช่นใด ?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นพ.ปิยะสกล ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2558 พบรายละเอียด ดังนี้

นพ.ปิยะสกล แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 49,425,272 บาท

ได้แก่ เงินฝาก 6 บัญชี 7.433,732 บาท เงินลงทุน 6 แห่ง (ส่วนใหญ่เป็นกองทุนเปิดธนาคาร-หุ้น) 10,346,539 บาทที่ดิน 1 แปลง (แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กทม. เนื้อที่ 1 งาน 99 ตร.ว.) 30,845,000 บาท บ้าน (แถบ ถ.สุขุมวิท กทม.) 5 แสนบาท รถยนต์ 3 แสนบาท มีหนี้สิน 15,961 บาท (เป็นเงินเบิกเกินบัญชี)

มีรายได้ (ต่อปี) 1,247,500 บาท เป็นเงินเดือน 4.8 แสนบาท เงินบำนาญ 384,000 บาท ค่าบำเหน็จกรรมการ 343,500 บาท มีรายจ่าย (ต่อปี) 7 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 แสนบาท เงินทำบุญ 1 แสนบาท

พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร คู่สมรส มีทรัพย์สิน 49,937,829 บาท

ได้แก่ เงินฝาก 7 บัญชี 2,779,117 บาท เงินลงทุน 24 แห่ง (เป็นกองทุนหุ้น-หุ้นกู้-โรงพยาบาล) 23,692,623 บาท ที่ดิน 3 แปลง 3,191,800 บาท (ปทุมธานี-นครราชสีมา-ประจวบคีรีขันธ์) ห้องชุดคอนโดมีเนียม 2 แห่ง (จ.ประจวบคีรีขันธ์) 12,389,287 บาท รถยนต์ 2.5 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ และเครื่องประดับโบราณ) 5,385,000 บาท มีหนี้สิน 18,913 บาท (เป็นเงินเบิกเกินบัญชี)

มีรายได้ (ต่อปี) 7,226,000 บาท เป็นเงินเดือน 6,849,000 บาท เบี้ยประชุม 302,000 บาท ค่าบำเหน็จกรรมการ 7.5 หมื่นบาท มีรายจ่าย (ต่อปี) 1 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 9 แสนบาท เงินทำบุญ 1 แสนบาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินเบ็ดเสร็จ 99,363,101 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 34,875 บาท

ปัจจุบัน นพ.ปิยะสกล เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ม.กรุงเทพฯ นายกสภาสถาบันดนตรีกัลยานิวัฒนา กรรมการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ ม.มหิดล กรรมการบริษัท สยามไอโอไซเอนซ์ จำกัด และกรรมการบริษัท เอเพ็กซ์ เซล่า จำกัด อดีตเคยเป็นอธิการบดี ม.มหิดล อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภา วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ส่วน พญ.สมสิริ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการบริษัท สมิติเวช จำกัด

หมายเหตุ : ภาพประกอบหมอปิยะสกล จาก hsri.or.th