วันอังคาร, พฤศจิกายน 17, 2558

“คดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด” กลับมาดังอีกครั้ง (ฟ้อง-ไม่ฟ้อง) ฟังคำพูด “สนธิ (ลิ้ม)” ปมภาษีบุหรี่ ประเทศเสียหาย 6.8หมื่นล้าน?




ปริศนา คำพูด “สนธิ (ลิ้ม)” ปมภาษีบุหรี่ เบื้องหลัง “คดีฟิลลิปมอร์ริส” ประเทศเสียหาย 6.8หมื่นล้าน?

ที่มา เวปที่นี่และที่นั่น
November 9, 2015

กลายเป็นเรื่องใหญ่ ขึ้นมาในทุกวงสนทนาอีกครั้งสำหรับ “คดีบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด” หลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร ทำให้รัฐเสียรายได้กว่า 68,881 ล้านบาท ล้านบาท แต่ “รัฐบาล คสช.” โดย รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม กลับยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังอย่างไร

จากข้อมูลกรณีนี้ มีที่มา จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส แจ้งราคานำเข้าบุหรี่ต่ำกว่าการนำเข้าของบริษัทอื่น 3-4 เท่า อาทิ บุหรี่มาร์ลโบโร บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสสำแดงราคาซองละ 7.76 บาท แต่ บริษัท คิง พาวเวอร์ สำแดง ราคาที่ซองละ 27.46 บาท และบริษัท การบินกรุงเทพ สำแดงราคาที่ซองละ 30.39 บาท หรือบุหรี่แอลแอนด์เอ็ม ซึ่งบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส สำแดงราคาซองละ 5.88 บาท บริษัท คิง พาวเวอร์ ซองละ 16.81 บาท เป็นต้น

โดยมีรายงาน “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” ได้รายงานการดำเนินคดีพิเศษ ที่ 75/2549 กรณีบริษัทนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และยี่ห้อแอลแอนด์เอ็ม จากประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างปี 2546-2550 และพนักงานสอบสวนฯ ได้มีความเห็นทางคดี เห็นควร “สั่งฟ้องผู้ต้องหา” จำนวน 14 รายต่อพนักงานอัยการ

แต่ต่อมามีรายงานเมื่อ 12 มกราคม 2554 พนักงานอัยการกลับมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ที่ระบุว่ามีการสำแดงภาษีเท็จ ทำให้ประเทศชาติเสียหายกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท เสียเฉยๆ

จนเกิดการเคลื่อนไหวกดดันให้มีการดำเนินคดีเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยกลุ่มนักวิชาการ ภาคประชาชน สื่อมวลชนหรือแม้แต่หน่วยงานรัฐ ในเวลาต่อมา รวมทั้ง “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” เอง “มีความเห็นแย้ง” ต่อการไม่ฟ้องดังกล่าว และท้ายที่สุด “อัยการสูงสุด” มี “คำสั่งเด็ดขาดฟ้อง” ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 (ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากกว่านี้)

แต่ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตตรงกัน ก็คือ เหตุการณ์ “สั่งไม่ฟ้อง” ปริศนาที่เกิดขึ้นกับ “คดีฟิลลิป มอร์ริส” ที่อาจทำให้ประเทศชาติ เสียหายกว่า 6.8 หมื่นล้านนั้น กลับเกิดขึ้นในช่วง “รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์” ได้อย่างไร ?

ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่า ครั้งหนึ่ง “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลับกลายเป็นผู้ที่เคยปราศรัย เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ในการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อ 11 มีนาคม 2554พาดพิงทั้งในส่วนของ “พรรคประชาธิปัตย์, รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และยังพาดพิงไปถึงนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ “เกียรติ สิทธีอมร” ซึ่งมีตำแหน่งเป็น “ผู้แทนการค้าไทย” รัฐบาลในขณะนั้นด้วย

โดยเนื้อหาที่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ปราศรัยในวันนั้น ส่วนหนึ่งระบุว่า …

“พี่น้อง ผมไม่อยากหาเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผมต้องพูด พรรคนี้เรื่องเลวๆ เล็กๆ ไม่ทำ ทำแต่เรื่องใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย เริ่มจากเรื่องเสียเขาพระวิหาร ครั้งแรกใครเป็นคนทำให้เสีย เสนีย์ ปราโมช ประชาธิปัตย์รึเปล่า เรื่องที่ 2 ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ฝีมือใคร เรื่องที่ 3 ไอเอ็มเอฟเข้ามาปล้นประชาชน ให้ฝรั่งบังคับคนไทยขายทรัพย์สินราคา 10% ให้มัน ให้ฝรั่งซื้อ 10% แล้วมาขายคืนคนไทย 100% ปรส.ฝีมือใคร ดินแดนเขมร พื้นที่ 1:200,000 ฝีมือใคร ประชาธิปัตย์ ประชาชนเข้าแถวซื้อน้ำมันปาล์มทั่วประเทศ ฝีมือใคร ช่วยฝรั่งโกงภาษี 68,000 ฝีมือใคร เห็นหรือยังพี่น้อง พรรคระยำนี่เล็กๆ มันไม่ทำ มันทำแต่เรื่องใหญ่ๆ เรื่องที่ดินของชาติ เรื่องดินแดนของชาติ เรื่องภาษีของชาติ มันโกง โกงฉิบหาย ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วประเทศเพื่อซื้อน้ำมันปาล์ม ฝีมือมันหมดเลย นี่แหละฝีมือพรรคประชาธิปัตย์ แล้วนายกฯ ยังมีหน้ามาพูดบอกว่า มันเลวน้อยที่สุด…”

ซึ่งเนื้อหาคำปราศรัยดังกล่าว เผยแพร่อยู่ในเว็บไซด์ผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th) ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง ในการที่จะค้นหาข้อมูล เพื่อพิสูจน์ “ความจริง” ให้เกิดความชัดเจน ?


เรื่องเกี่ยวข้อง...

เพื่อไทยยันต้องฟ้องคดี"ฟิลลิป มอร์ริส"เลี่ยงภาษี | เดลินิวส์
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/359565