วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 13, 2558

อยู่กันมาปีกว่า ข้าวยาก หมากฝรั่งแพง ส่งออกเหี่ยว ท่องเที่ยวหาย manufacturing หด เงินบาทลด หุ้นดิ่งพสุธา แล้วพวกมะรึงยังจะชงยืดเวลาเป็นหกปีอีกหรือนี่




ท่ามกลางสถานการณ์ตกต่ำของค่าเงิน วันนี้เปิดที่ ๓๕.๓๔ บาทต่อดอลลาร์

ดูท่าจะขยับตามแห่มหามิตรใหม่ ที่ประกาศลดค่าเงินเร็นมินบิลงไปอีก ๑ เปอร์เซ็นต์ (จากเดิม เมื่อวานลดแล้ว ๒ เปอร์เซ็นต์) เพื่อให้คงระดับ ๖.๔ หยวนต่อดอลลาร์

เหล่าลิ่วล้อ และบ่าวพลอย ต่างตั้งหน้า ‘ชง’ กันขนานใหญ่

ฝ่ายกลาโหมนั้นชงน้องชายทั่นผู้ณรรมขึ้นบัญชาการทัพบก น่าจะแน่

“เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องเลือกคนที่ไว้ใจมากที่สุดมาดูแลสถานการณ์”

(อ่านละเอียดใครจะไปไหน มายังไง ได้จาก ‘ไทยรัฐ’ เมื่อเช้าhttp://www.thairath.co.th/content/517902)

อ่า ‘ปฏิรูปประเทศ’ catchword/gimmick (แต่บ้านเราเรียกวาทกรรม) สำหรับเปิดช่องชงกันสนานสนุก

จอมชงรายแรก ‘กูรูนักร่าง’ อีกจนได้ บวรศักดิ์ อุวรรณโน ชงเรื่องประชามติรัฐธรรมนูญให้เพิ่มคำถาม ‘รัฐบาลเพื่อการปรองดองแห่งชาติ’ เข้าไปด้วยเพื่อความขลัง เอาไหม ใช้กฏหมายบังคับพรรคการเมืองให้ต้องปรองดองกัน




Slap-back ทันทีจากพรรคการเมืองค่าย ‘ราบ ๑๑’ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สลับขาแย็บ

“เป็นเรื่องยาก เหมือนบังคับให้พรรคประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแต่งงานกัน ทั้งที่ไม่ได้สมัครใจตั้งแต่ต้น”

(http://www.lokwannee.com/web2013/?p=169880)

อ้าว 'คลุมถุงชน' ก็เคยเป็นธรรมเนียมไทยๆ เหมือนกันนะ อีกอย่างโลกสมัยนี้ trendy เพศเดียวกันแต่งงานได้จ้ะ

แต่ปัญหาอยู่ที่ อีกฝ่ายก็ขอไม่เล่นด้วยละซี




วรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย มีความเห็นเรื่องนี้ง่ายๆ สั้นๆ เข้าใจได้ตลอดถึงท้ายซอย

“ข้อเสนอดังกล่าวก็เพียงเพื่อต่อท่ออำนาจของผู้มีอำนาจเท่านั้น”

(http://www.lokwannee.com/web2013/?p=169887)

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ฝ่ายโน้นเขาไม่เล่นกับคุณ แต่เขาทอดหางตาให้ชายอื่นนะ

“กรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้มาตรการจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ขัดแย้งที่รัฐบาลปกติไม่สามารถแก้ปัญหาได้” นิพิฏฐ์แย้ม

“ส่วนตัวก็พอยอมรับได้ และเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง”

ระดับหนึ่งนั่นแค่ไหน ต้องไปฟังอีกกูรูจากค่าย ‘ลิ้ม’ ที่ได้ดีเป็น สว. ก่อนทหารยึดอำนาจ แล้วมาได้ดิบเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตอนทหารเถลิงอำนาจ




คำนูณ สิทธิสมาน บอกว่าไอ้ยุทธศาสตร์อย่างว่านั่นมีทั้ง ‘กลไกพิเศษ’ และ ‘อำนาจพิเศษ’ “เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปและสร้างความปรองดอง”

“เช่นนี้ทำให้ประเด็น 'ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง' น่าจะตกไปโดยพื้นฐาน

เพราะการปฏิรูปดำเนินได้ตั้งแต่วันนี้ไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนการเลือกตั้ง และถ้าร่างรัฐธรรมนูญนี้ผ่านด่านหินทั้งสองด่านออกมาใช้บังคับ การปฏิรูปก็จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อย ๕ ปี”

(https://www.facebook.com/kamnoon/posts/921457827898172)

๖ ปี นะ ๖ ปี สำหรับการปฏิรูป ‘คู่ขนาน’ ไปกับกระบวนการปกครองที่หัวหน้าฝ่ายบริหารไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง

เห็นไหม นึกแล้วเชียว ต้องมีอะไรในกอไผ่

“คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการจำนวนไม่เกินยี่สิบสองคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากบุคคลดังต่อไปนี้”

๑.โดยตำแหน่ง ๒. แต่งตั้ง และ ๓. ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งหมดนี้ “ถ้ามีความจำเป็นเพื่อ...(บลา บลา บลา)

ก็ให้ใช้เสียงสองในสามของคณะลากถูลู่ถูกังชุดนี้แหละ ที่องค์ประชุมเกินกึ่งก็ใช้ได้แล้ว (๑๑+๑ โหลนึงพอดี)

“มีอำนาจใช้มาตรการที่จำเป็นสำหรับจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวแทนได้ ภายหลังจากที่ได้มีการปรึกษาหารือกับประธานศาลรัฐธรรมนูญและประธานศาลปกครองสูงสุดแล้ว”

เพิ่มมาอีกสองประธานฯ ผู้มีอำนาจโดยไม่ติดยึด ผ่านทาง หรือรับผิดชอบต่อประชาชน

คำนูณยังเขียนชักนำให้เคลิ้มด้วยว่า

“ถ้าจะยุติเหตุแห่งความขัดแย้ง ก็ต้องเขียนรัฐธรรมนูญแบบใหม่ โดยคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศและสถานการณ์สากลเป็นสำคัญ มีเลือกตั้งควบคู่ไปกับมีกลไกพิเศษในระยะเปลี่ยนผ่านให้มีการเปลี่ยนแปลงประเทศทำลายรากฐานของวิกฤต”

ขออนุญาตขยายความหน่อยเถอะ

‘สถานการณ์ของประเทศ’ เวลานี้มีแต่พวกเดียวที่ยึดครองอยู่ โดยฝ่ายที่ไม่ชอบเลือกตั้งเพราะไม่เคยชนะคะแนนมานานนักแล้ว ได้รับการประคบประหงมอย่างดี อีกฝ่ายแค่หายใจแรงยังจะโดนปรับทัศนคติ

‘สถานการณ์สากล’ ถ้าไม่ยอมเลือกตั้งก็โดนบอยคอต ชอบหนุงหนิงจีน-เกาหลีเหนือ มีทางน้ำตาเช็ดหัวเข่า

‘รากฐานวิกฤต’ พวกพันธมิตรฯ เพื่อนคำนูณไง ก่อหวอดป่วนเมือง ปิดสนามบิน แล้วส่งไม้ให้ กปปส. เป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ แถมป็อปคอร์น เรียกแขกเสียจนประยุทธ์เลิกเหนียม ออกมารวบหมดคนเดียว ป๋าอด

อยู่กันมาปีกว่า ข้าวยาก หมากฝรั่งแพง ส่งออกเหี่ยว ท่องเที่ยวหาย manufacturing หด เงินบาทลด หุ้นดิ่งพสุธา แล้วพวกมะรึงยังจะชงยืดเวลาเป็นหกปีอีกหรือนี่