วันเสาร์, สิงหาคม 15, 2558

ยัดรัฐประหารไว้ในรธน. คอลัมน์ ใบตองแห้ง (มติชนออนไลน์)



ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

9 ปีผ่านไป ฝรั่งส่งยานอวกาศไปถึงดาวพลูโต แต่สยามประเทศเกิดรัฐประหาร 2 ครั้ง ก็ยังถอดยศทักษิณไม่ได้ ไม่รู้กระบิดกระบวนอะไรนักหนา ทั้งที่ชาวบ้านไม่สนใจหรอก เขาเลือกทักษิณ เขาไม่ได้เลือกพ.ต.ท. แล้วไม่เห็นต้องอ้างข้อกฎหมายอะไร ยังไงก็ถอดยศในยุครัฐประหารอยู่ดี

คนสนใจมีแต่มวลมหาประชาปี๊ดๆ ซึ่งเอาเข้าจริงไม่ได้อยากปฏิรูป แค่ไล่ทักกี้กับอีปูแผ่นดินก็สูงขึ้น แต่บังเอิญทักกี้มันมาจากเลือกตั้ง จึงต้องคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้อำนาจมาจากเลือกตั้ง เพราะนักการเมืองเลือกตั้งมันเลว มีแต่นักการเมืองจากแต่งตั้ง ที่แม้กระทั่งขี้ยังหอม

นี่พูดจริงๆ นะ เวลามีเลือกตั้งคนดีรังเกียจ แต่พอรัฐประหารเท่านั้น คนดีไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหน ยกมือกันสลอน ขอเก้าอี้นั้นขอเก้าอี้นี้ พร้อมเงินเดือน เบี้ยประชุม

เสียดายฝรั่งไม่เข้าใจว่า ประเทศนี้คนดีชอบปืน รถถัง ถ้าไม่มีเลือกตั้งก็ไม่เจรจาการค้า เดวิด คาเมรอน บินข้ามหัวไปข้ามหัวมา คนไทยรักชาติรุมด่ายุโรป อเมริกา แต่ถ้ามีสตางค์ก็ส่งลูกไปเรียนไอวี่ลีก ไปอังกฤษ ไปออสเตรเลีย ไม่ยักส่งลูกเรียนเซี่ยงไฮ้หรือมหา"ลัยเปียงยาง

เศรษฐกิจตกต่ำ ใช่เลย เป็นกันทั้งโลก ประเทศสูญเสียความสามารถในการแข่งขันก็เพราะรัฐบาลเลือกตั้ง อย่ามาโทษรัฐประหารนะ แต่ทำไงได้ ถ้าคสช.อยู่นานไป นอกจากแรงกดดันต่างชาติ ก็ยังต้องแบกทั้งปัญหาปากท้อง แรงกดดันทางการเมือง เรื่องอะไรจะอยู่ 2 ปี "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" หาทางลงจากหลังเสือแล้วปล่อยให้มีการเลือกตั้งเป็นพิธีกรรม ให้มีนักการเมืองจากเลือกตั้งมารับหน้าโดนชาวบ้านด่าไม่ดี กว่าหรือ

ปัญหา มีอย่างเดียวเท่านั้นคือ ลงจากหลังเสือแล้วทำอย่างไรสถาบันกองทัพจะคุมอำนาจได้ไม่ต่างจากรัฐประหาร เพื่อปกป้อง "ความมั่นคงของชาติ" ไปอีกอย่างน้อยๆ 5-10 ปี ไม่ให้มีนักการเมืองจากเลือกตั้งมาหือได้

ณ บัดนี้ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุด "พลเมืองเป็นใหญ่" คิดสูตรให้แล้วครับ ยัดเข้ามาในนาทีสุดท้าย หนึ่ง เขียนบทเฉพาะกาลให้ส.ว. 123 คนมาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ส่วนสูตรขายฝัน "ปราชญ์ชาวบ้าน" ตัวแทนสาขาอาชีพผู้ทรงคุณวุฒิคุณธรรมอะไรนั่น ต้องฝันค้างไปอีก 3 ปี

สองให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 22 คน ซึ่งจะมีอำนาจพิเศษเหนืออำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ หากเกิดความปั่นป่วนทางการเมือง รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ ก็สามารถออกประกาศ "ขออภัยในความไม่สะดวก... โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง" โดยไม่ต้องทำรัฐประหาร เพราะใน 22 คนนั้นมี ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. นายกฯ อดีตนายกฯ ประธานสภา อดีตประธาน ประธานศาลฎีกา อดีตประธาน พร้อมสรรพแล้ว

บวรศักดิ์บอกว่าต่อไปจะไม่มีรัฐประหารอีก ใช่เลยครับ เป็นการเอารัฐประหารมาวางไว้บนโต๊ะ ใส่ไมโครเวฟกินได้ทุกเมื่อ เป็นวิถีทำให้รัฐประหารชอบธรรมอยู่ในรัฐธรรมนูญ อย่างสุดยอดบริกร

ที่จริง "นิติราษฎร์" เคยดักคอไว้แต่แรกว่าจะมีองค์กรพิเศษอยู่เหนือทุกอำนาจในรัฐธรรมนูญ พอเห็นร่างแรกนึกว่าเก็งผิด ไม่คิดว่าจะย้อนมายัดใส่หลังไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พม่า

สามสังเกตให้ดียังมีข้อสาม องค์กรอิสระต่างๆ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ยังชุดเดิม ป.ป.ช. กสม.ครบวาระ ก็ให้สนช.เลือกใหม่ อยู่ไปอีก 9 ปีจนมีรัฐประหารได้อีกครั้ง ที่บอกว่าจะให้สภาองค์กรชุมชนอะไรนั่นมาตั้ง ก็ฝันค้าง วันก่อนจะประชุมกันที่หนองคายยังมีตำรวจทหารคุมเข้ม โถ ยังเพ้อ "พลเมืองเป็นใหญ่"

ถ้าเข้าสูตรตามนี้ พี่น้องประชาชนคนไทยก็ไชโยโห่ร้อง หุ้นขึ้นได้แล้วครับ เราจะมีเลือกตั้งราวเดือนกันยาฯปีหน้า แล้วได้รัฐบาลใหม่ต้นปี "60 โดยถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านสปช. รัฐบาลนี้ก็จะลดแรงกดดัน ดีกว่าไม่ผ่านแล้วไปตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ยืดไปตั้ง 6 เดือน

ลงประชามติภายใต้ ม.44 เรื่องขี้ผง ฝ่ายต่อต้านถูกบล็อกจนไม่มีทางรวมพลังได้ หรือต่อให้รวมได้ก็แพ้เหมือนปี "50 เพราะนิสัยคนไทยหยวนยอมง่าย รู้สึกอึดอัดอยากให้พ้นสภาพนี้เร็วๆ ก็รีบรับร่างแล้วเลือกตั้งดีกว่า หารู้ไม่ว่าเป็นแค่พิธีกรรมหลอกฝรั่ง เหมือนเลิกกฎอัยการศึกแล้วใช้ ม.44 ดีไม่ดี พรรคการเมืองก็เกี้ยเซี้ยด้วย ถึงมีสูตรรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ เรื่องอะไรจะอดอยากปากแห้ง มีโอกาสได้ส่วนแบ่งส่วนบุญ

การปฏิรูปสำเร็จแล้ว ประเทศไทยจะเดินหน้าภายใต้ระบอบใหม่ ที่ย้อนไปยิ่งกว่ายุคเปรม ไชโย

ooo

"ชวลิต" อัด กมธ.ยกร่างฯ ออกมติปมกก.ยุทธศาสตร์ฯ เท่ากับ "แช่แข็งประเทศ"

มติชนออนไลน์
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558


เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกมธ.ยกร่างฯ มีมติให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งเพียงจังหวัดละ 1 คน รวม 77 คนแต่มาจากการสรรหาถึง 123 คน รวมถึงการมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ที่มีอำนาจเหนืออำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติว่ามติกมธ.ยกร่างฯ ขัดกับหลักการประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ถอยหลังเข้าคลอง เป็นการซ้ำเติมประเทศ มองโลกในแง่ร้ายอย่างสุดโต่ง ถ้ากติกาออกมาอย่างนี้เท่ากับแช่แข็งประเทศ ต้องเอาปี๊บคลุมหัว ไม่มีใครกล้ามาลงทุนเพราะกติกาของประเทศยังมีความขัดแย้งและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะเอาไม่อยู่ สุดท้ายคนรับเคราะห์ส่วนใหญ่ก็คือคนยากคนจนและเกษตรกร

นายชวลิต กล่าวอีกว่า ขอเสนอทางออกในเรื่องนี้ว่า 1.หากจะเป็นประชาธิปไตยต้องอย่าถอยหลัง และควรยึดโยงกับสากลเพราะเราอยู่คนเดียวในโลกนี้ไม่ได้ 2.คนที่ออกไปประท้วงที่ไม่ใช้เหตุผลเพื่อประชาธิปไตย ควรไตร่ตรองมากขึ้นว่าการประท้วงของตนจะมีผลย้อนกลับมาทำลายประเทศและเศรษฐกิจปากท้องประชาชน 3.ขอให้ข้าราชการทำตามระบบบริหารราชการแผ่นดิน เริ่มต้นใหม่กับรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมา 4.ควรลดละทิฐิ ให้อภัยซึ่งกันและกัน ทุกวิกฤติการณ์ ควรนำมาเป็นอุทาหรณ์

"ผมยังหวังว่า มติของกมธ.ยกร่างฯ ยังเป็นเพียงความเห็นเบื้องต้น ซึ่งในอดีตครม.ก็เคยมีความเห็นไม่เห็นด้วย และให้ข้อเสนอแนะในประเด็นสำคัญหลายๆ ประเด็น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เกี่ยวข้องจะฟังเสียงสะท้อนจากภาคส่วนต่างๆ อย่างรอบด้าน แก้ไขให้กติกาบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ประเทศของเราจะได้ผ่านพ้นหลุมดำแห่งความขัดแย้ง ก้าวสู่ประเทศที่จะพัฒนาเฉกเช่นนานาอารยประเทศต่อไป" นายชวลิต กล่าว