วันพุธ, กรกฎาคม 01, 2558

ขอชวนเชิญ จุดเทียนให้กำลังใจ นศ.ที่หน้าเรือนจำพิเศษฯ หนึ่งทุ่มตรงทุกคืน จนกว่านักศึกษาที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว มีพื้นที่ให้ยืนเยอะ




นักศึกษา ‘ประชาธิปไตยใหม่’ ๑๔ คนที่ถูกจับกุมคุมขัง ท่าทางจะต้องอยู่กันครบ ๑๒ วันในเบื้องต้น

นอกเหนือจากศาลทหารคงตั้งทั้งข้อแม้และวงเงินสูงลิ่ว เห็นจากเจตนาจะเอาผิดนักศึกษาให้จงได้ จึงเปิดทำงานล่วงเวลาถึงตีสองของเช้าวันเสาร์ที่ ๒๗ มิถุนายน รอเวลาเพื่อประทับรับฟ้องและสั่งฝากขังยาว ๑๒ วัน

ท่าทีของพวกนักศึกษาเองที่บางคนสื่ออกมาจากในคุกก็ยืนยันว่าจะไม่ประกัน เพราะพวกตนไม่ได้ทำผิดอะไรตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ จะไม่ยอมน้อมรับวิธีการหักหาญของทางการแน่นอน

เล่ากันว่าพวกนักศึกษาชาย ๑๓ คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่คุกคองเปรม ปรึกษากันกับทนายขอให้ยื่นประกันตัว ‘ลูกเกด’ ชลธิชา แจ้งเร็ว นักศึกษาหญิงคนเดียวในกลุ่มออกไปก่อน เพราะถูกแยกไปขังที่ทัณฑสถานหญิง พวกเขาเป็นห่วงกลัวจะเกิดอันตราย

ลูกเกดไม่ยอม ตอบกลับฝากทนายไปบอกเพื่อนๆ ว่า ‘ไอ้เหี้ย’

ลูกเกดคนนี้ได้รับการเขียนถึงโดย ธิกานต์ ศรีนารา อาจารย์ผู้สอนเธอที่ มศว. ประสานมิตรอย่างนิยมในความเก่งกล้า ในฐานะหลานปู่ ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ ของสุพจน์ แจ้งเร็ว อดีตนักกิจกรรม ‘คนเดือนตุลา’




นักศึกษาอื่นๆ อีกหลายคนได้รับการกล่าวขวัญถึงทั้งในปณิธานเด็ดเดี่ยวต่ออุดมการณ์แห่งประชาธิปไตย และจิตมุ่งมั่นในการต่อสู้ ช่วยเหลือประชาชนที่เสียเปรียบและถูกเอาเปรียบ

ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเราได้เห็นคณาจารณ์อีกหลายคนออกมาแสดงการสนับสนุน ชื่นชมการยืนยงปฏิบัติกิจกรรมเพื่อมวลชนของนักศึกษาเหล่านี้




ไม่ว่าจะเป็น ปิยบุตร แสงกนกกุล แห่งคณะนิติศาสตร์ มธ. กล่าวถึงรังสิมันต์ โรม หรือ เดชรัตน์ สุขกำเนิด แห่งคณะเศรษฐศาสตร์ มก. กล่าวถึง ‘หนุ่ย’ อภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์

(http://www.prachatai.com/journal/2015/06/60025)

หรือแม้แต่เพื่อนต่างสายทางออกมาปรากฏตัวประกาศตนให้การสนับสนุน เสริมกำลังใจ ยกย่อง และหนุนเนื่องผลักดัน



ไม่ว่าจะเป็น ‘นิ้วกลม’ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ เขียนถึงกลุ่มนักศึกษา ‘ดาวดิน’ แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น นักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวบ้านมาเนิ่นนาน ในบทความชื่อ เราคือเพื่อนกัน

(http://prachatai.org/journal/2015/06/60043)

หรือว่า ‘ลูกเสกสรรค์’ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล เขียนถึง ‘แมน’ ปกรณ์ อารีกุล ในบทความที่เปิดมิติใหม่ทางการเมืองภาคประชาชน ผ่านพ้นความลุ่มหลงเรื่องสี ก้าวข้ามวาทกรรม ‘ระบอบทักษิณ’ ชวนให้ฉุกคิดอีกว่า “บ้านเมืองยังไม่ปกติดี”

(http://www.prachatai.com/journal/2015/06/60039)

มิใยที่ยังมีข้อเขียนปฏิกิริยาจากฝ่ายขวา ‘Think Tank’ ทั้งตำหนิและถากถาง อย่างเช่น ชวินทร์ ลีนะบรรจง แห่งคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. จวกเข้าให้ว่า ‘ไม่ถูกกาละเทสะ’ และ ‘ไร้เดียงสา’ ส่วนสุวินัย ภรณวลัย นั่นอาการหนักไม่จืด อ้างแผนนองเลือด ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ โน่นเลยเชียว

(สำหรับ inquiring minds เกี่ยวกับสองคนนี้ กรุณาไปดูที่https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul เขาชี้ให้เห็นว่าทั้งคู่นี่ ขบวนการ เสธ. อ้าย ตัวยง)

ส่วนว่าท่าทางก้าวร้าวห้าวเหี้ยมต้องยกให้กับ ‘กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ’ ออกมาสวิงอย่างเปรี้ยงป้างทีเดียวว่า “หากไม่หยุดทำลายความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของชาติ กลุ่มอาชีวะทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าจะออกมาแสดงพลังเพื่อสนับสนุนการทำงานของ คสช.”

(ไม่รู้ว่าลุกลี้ลุกลนหรือลุ่มหลงย้อนยุค แถลงการณ์ลงปีไว้เป็น ๒๕๒๘http://prachatai.org/journal/2015/06/60090)



แต่กระนั้นก็ดี วิธีการข่มขู่ ปลุกระดม ไม่น่าจะได้ผลเหมือนยุคนวพล กระทิงแดง คราวนี้มีโลกล้อมเมืองอยู่เห็นจริงทุกทิศทาง

อย่างที่เมื่อวาน สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารไทยยุติการดำเนินคดีต่อนักศึกษาเหล่านี้ และปล่อยตัวพวกเขาจากสถานที่ควบคุมโดยทันที

นอกนั้นยังเรียกร้องให้ “รัฐบาลไทยทบทวนการใช้กฏหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม ให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทย ภายใต้กฏหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ”

ก่อนหน้านั้น สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ก็แถลงเช่นกันว่า “การจับกุมนักศึกษาจำนวน ๑๔ คน จากข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นอันเนื่องมาจากการชุมนุมอย่างสันติของพวกเขาในวันที่ ๒๒ พฤษภาคมเป็นพัฒนาการที่น่ากังวล

สหภาพยุโรปมีความเชื่อในสิทธิของคนทุกคนในการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง การเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้นจะต้องได้รับการค้ำชูและศาลทหารไม่ควรถูกนำมาใช้กับพลเรือน”

ในบ้านเอง นอกจาก‘องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์’ แถลงเรียกร้องอย่างทางการให้รัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษาแล้ว

(https://www.facebook.com/thammasatsu/posts/854653537904784)

ก็ยังมีบรรดาคณาจารย์ ‘ผู้ห่วงใยศิษย์’ จำนวนถึง ๒๘๑ คน เข้าชื่อกันเรียกร้องให้รัฐบาลทหารปล่อยตัวนักศึกษา ด้วยเหตุผลว่า “การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิต นักศึกษาโดยเฉพาะในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมานับเป็นกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนที่สำคัญประการหนึ่ง...

พวกเขาได้แสดงบทบาทในครรลองของสังคมประชาธิปไตยอย่างกล้าหาญ เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เพียงแต่จะสอดรับกับหลักการและทฤษฎีอันเป็นสากล หากแต่ยังสอดคล้องกับหลักกฎหมายที่นานาอารยะประเทศให้การรับรอง จะมีก็แต่เผด็จการที่หวาดกลัวเสรีภาพในการเรียนรู้และการแสดงความเห็นต่างของพลเมืองเท่านั้นที่เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นสิ่งผิดหรือเป็นอันตราย”

(http://prachatai.org/journal/2015/06/60078)




ข้อน่าปลื้ม ซึ่งก่อความชุ่มชื่นแก่พลังใจ อยู่ที่เพื่อนนักศึกษาอื่นๆ ทะยอยกันออกมาแสดงการสนับสนุนและเรียกร้องการปล่อยตัวกลุ่มประชาธิปไตยใหม่กันเป็นระลอก จากนักศึกษาปัตตานีแสดงสัญญลักษณ์ เบื้องหลัง นักศึกษา ไปถึงการประท้วงโดยนักศึกษาในสหรัฐอเมริกาที่แมดิสัน วิสคอนซินและแอล.เอ. แคลิฟอร์เนีย

ในกรุงเทพฯ เพื่อนนักศึกษาและประชาชนชวนกันไปจุดเทียนให้กำลังใจที่หน้าเรือนจำพิเศษฯ กันอย่างหนาแน่น พร้อมประกาศว่าจะทำเช่นนี้ตอนเวลาหนึ่งทุ่มตรง ต่อไปทุกๆ คืน จนกว่านักศึกษาที่ถูกคุมขังจะได้รับการปล่อยตัว

ใครอยากไปร่วมเชิญได้ มีพื้นที่ให้ยืนเยอะแยะ