วันอาทิตย์, มิถุนายน 07, 2558

เผยมีเจรจา 'ลับ' พิชัย รัตตกุล กับทักษิณ เพื่อปรองดอง

หากแต่แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณตกลงยอมรับตามข้อเสนอ ครั้นนายพิชัยนำกลับไปแจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งสองคนไม่ยินดีรับ

ดังรายละเอียดคัดมาจาก น.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ ดังนี้

(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1433637842)


รายงาน

หลังกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางสองเล่ม รวมถึงถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เกิดการตั้งคำถามว่า เส้นทางปรองดอง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญของการรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 2557 และโรดแมปปฏิรูปของ คสช.นั้นขาดสะบั้นลงหรือไม่

แต่คนการเมืองที่เชื่อมได้ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และทหาร วิเคราะห์ว่า คำว่าปรองดองระหว่าง คสช.กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นขาดสะบั้นก่อนยึดพาสปอร์ต-ปมถอดยศ และขาดมาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ส่งสัญญาณถึง ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ให้เอาจริงเอาจังกับการสั่งฟ้องคดีทุจริตจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวเข้าไปเกี่ยวโยงในฐานะที่เป็นนายกฯ แต่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต

รวมทั้งเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว
 
ไม่แปลกหากในคลิปการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกาหลีใต้พ.ต.ท.ทักษิณเปรยว่า "ผมก็เลยคุยกับนายกฯปูว่า เหตุการณ์เหมือนที่พี่โดนมา"

นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกประหารชีวิตการเมืองเมื่อปี 49 เคยมีการเจรจาลับระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับคู่ขัดแย้ง-คู่เกาเหลา ผู้มีอำนาจการเมืองหลายขั้ว หลายกลุ่ม หลายช่วงเวลา นับสิบครั้ง แต่บรรทัดสุดท้ายขีดเส้นใต้ด้วยคำว่า' ล้มเหลว'

หนึ่งในนั้นคือความพยายามของ พิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

หลังจาก 'พิชัย' ถูกทาบทามให้เข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมืองในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเดินสายเรื่องการปฏิรูปการเมือง 

'พิชัย' เล่าว่า หลังจากวันนั้นได้พบกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯในขณะนั้น เพื่อหาทางขอคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายพงศ์เทพตอบกลับว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะมาสิงคโปร์ พิชัยจึงให้นายพงศ์เทพช่วยติดต่อให้ พอติดต่อตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ เขาก็บินไปสิงคโปร์ทันที

"โอกาสในความเห็นผม บุคคลที่เป็น 'คีย์' ที่จะทำให้เหตุการณ์สงบได้นั้นมีคนเดียวคือคุณทักษิณ ตราบใดปัญหาคุณทักษิณไม่สามารถตกลงกันได้ หมายถึงยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ตราบใดที่ยังไม่ยอมรับ ไม่มีทาง ถ้าคุณทักษิณยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่ศาลตัดสินแล้ว จะมาอยู่กี่วันกี่ปีก็แล้วแต่ ไม่ได้หมายความว่าติดตะราง 2 ปีนะ อาจจะเป็น 10 วันก็ได้ 7 วันก็ได้ และดำเนินการไปอย่างที่ถูกที่ควร แล้วเริ่มต้นกันใหม่ อันนั้นผมคิดว่าจะมีโอกาสที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายคือ กปปส.โอเค"

"ผมไม่เคยรู้จักคุณทักษิณมาก่อนเลย แต่ผมไปคุยกับคุณทักษิณมาในเรื่องนี้ ก่อนปฏิวัติ 6 เดือน และคุณทักษิณก็ยอม พรรคเพื่อไทยยอมในแนวทางของผม ผมไปคนเดียว บินคนเดียว เป็นเงินของตัวเอง คุยกันครึ่งวันที่สิงคโปร์"

"เรื่องที่น่าดีใจคือเขายอมรับ เห็นด้วย คุณทักษิณถามผมว่าอะไรจะเป็นการันตี ว่าทำอย่างนี้แล้วเขาจะปลอดภัย เขากลัวถูกโดนยิงมาก ซึ่งผมเห็นใจมาก คนรักก็แยะคนเกลียดก็มาก ผมบอกการันตีได้อย่างเดียวว่าเมื่อคุณมาถึงแล้วไม่ต้องกลัว เพราะผมจะเดินทางมาพร้อมกับคุณ ไป ร.พ.ศิริราช ไปกราบพระบรมรูปของในหลวง และคุณก็เดินเข้าตะราง ผมพร้อมเข้าไปกับคุณ ผมไปนอนกับคุณในคุก ผมอาสาถึงขนาดนั้นเลยนะ ผมจะถือกระเป๋าเจมส์ บอนด์ มีเสื้อผ้าเล็กน้อยไปนอน แต่จัดที่นอนให้ผมดีหน่อยนะ ผมพูดจริงนะคุณทักษิณเป็นพยานได้ และเขายอมผม ยอมในหลักการ"

'พิชัย'" เล่าต่อว่า หลังจากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นชอบในหลักการ เขากลับมาเมืองไทยเพื่อคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.

"พูดกับคุณอภิสิทธิ์ 3 ครั้ง ไม่ยอมฟังผมเลย คุณอภิสิทธิ์บอกเป็นไปไม่ได้ ไม่เชื่อคุณทักษิณ อยากพูดกับคุณสุเทพ ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ผมเลย เพราะถ้าคุณทักษิณยอม อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอม มันทำอะไรไม่ได้"

เมื่อ "'พิชัย"' พยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ เกิดการรัฐประหารขึ้นเสียก่อน ในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน และอยากเห็นบ้านเมืองสงบ จึงฝากไปถึง 'พล.อ.ประยุทธ์'

"ถ้าคุณประยุทธ์ไม่ทำไม่มีทางปรองดองได้ เพราะคนที่ทำปรองดองคือคุณประยุทธ์ คุณประยุทธ์จะสามารถดึงสองฝ่ายมาพูดกันให้รู้เรื่องได้ เอาแล้วนะ ผมปฏิวัติครั้งนี้ ผมจะให้โอกาส คราวหน้าต่อไปต้องเลิกแล้วต่อกันนะ ความเข้าใจกันด้วยความเป็นนักเลงกันเนี่ย มันจะดีกว่าเป็นตัวอักษร"

"หากคุณประยุทธ์เป็นคนกลาง การเจรจาต่อไปไม่สำคัญ ผมยินดีไปเจรจาให้ แต่ผมไม่เจรจากับฝ่ายประชาธิปัตย์ คุณประยุทธ์เจรจาเอง ตราบใดที่พรรคประชาธิปัตย์มีคุณอภิสิทธิ์อยู่ ส่วนการเจรจากับคุณสุเทพ คุณประยุทธ์ก็ไปจัดการเอง หรือถ้าหากเป็นไปได้ คุณประยุทธ์อาจจะไปคุยกับคุณทักษิณก็ได้ แต่มันจะน่าเกลียด คุณประยุทธ์คงทำไม่ได้ ในฐานะเป็นนายกฯ แต่ผมไปได้ ในฐานะที่ไม่มีตำแหน่งอะไร"

เป็น 'เบื้องหลัง' การเจรจาลับ-ข้อเสนอปรองดอง สูตรหนึ่งที่มาจาก พิชัย รัตตกุล-ตำนานประชาธิปัตย์