วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 21, 2558

ข้อความนี้ถูกแชร์ต่อๆกันมาจากทาง Line อีกที ยังไงอย่ารุมผมนะครับ




โรฮิงยา แผนการร้ายสุดแยบยลของนช.ทักษิณ ชินวัตร

คิดว่าทุกคนคงได้ติดตามข่าวเรื่องรัฐบาลไทยกำลังถูกกดดันกรณีชาวโรฮิงยา จาก UN และบรรดานานาประเทศ ที่อวดอ้างตนเองว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ และเคารพในสิทธิมนุษย์มากที่สุดในโลก

หลายคนอาจแปลกใจว่า ทำไมพม่า อังกฤษ และบังคลาเทศ ผู้ซึ่งสมควรที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้มากที่สุด แต่ UN และสหรัฐกลับไม่พยายามกดดันให้ประเทศเหล่านี้ออกมารับผิดชอบ แต่กลับพุ่งเป้ามากดดันประเทศไทย ซึ่งไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่

ทั้งหมดนี้ เป็นบทละครอันแสนแยบยล ตัวละครทั้งหลายทั้ง พม่า บังคลาเทศ สหรัฐ UN รวมถึงองค์กรเพื่อสิทธิมนุษย์ชนต่างๆ ล้วนทำงานแบบสอดประสานกันภายใต้ฝ่ามือของทรราชย์นามว่า ทักษิณ ชินวัตร

หลายคนอาจไม่เข้าใจว่าทักษิณมีเอี่ยวได้อย่างไร และอาจมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะนี่คือสิ่งที่ทักษิณอยากให้คนไทยคิดเช่นนั้น แต่หากลองมองให้ลึกๆ ก็จะเห็นว่า ใครกันที่จะได้ประโยชน์ที่สุดจากการเข้ามาของโรฮิงยา คนไทยคนใหนกันที่มีคอนเนคชั่นกับต่างประเทศถึงขนาดให้รวมหัวกันกดดันไทยได้ และไม่ต้องสงสัยว่าโรฮิงยาไปเอาเงินมาจากใหนมาว่าจ้างให้พวกนายหน้าพาคนจำนวนมหาศาลขนาดนี้ให้ลักลอบเข้าประเทศมาได้ถ้าไม่มีเจ้ามือใหญ่คอยหนุนหลัง ซึ่งมีเพียงทักษิณเท่านั้นที่จะสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้ และหากทำสำเร็จ จะส่งผลร้ายต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล

ชาวโรฮิงยา จะเข้ามาแย่งงาน แย่งที่อยู่คนไทย บางคนก็อาจเป็นโจร รัฐบาลประยุทธ์ซึ่งรับโรฮิงยาเข้ามาก็จะถูกโจมตีจากเหล่าประชาชนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าเป็นคนนำปัญหาเข้ามา แต่หากแผนไม่สำเร็จ รัฐบาลประยุทธก็จะถูกประนามอยู่ดี ว่าไร้มนุษย์ธรรม และนานาประเทศก็จะพากันกดดัน คว่ำบาตรไทยต่อไปเรื่อยๆ

ชาวโรฮิงยาจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญแก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายมุสลิมในภาคใต้ และจะยิ่งทำให้ปัญหาไฟใต้ลุกลามมากขึ้น จากเดิมที่แม้แต่ตำรวจทหารก็ยังรับมือไม่ไหว ด้วยจำนวนคนมากขึ้น ก็จินตนาการเอาว่าจะหนักหนาขนาดใหน คราวนี้อาจจะไม่ใช่แค่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ต้องได้ยินเสียงระเบิด และเห็นครูไทย ตำรวจ ทหาร ชาวไทยพุทธถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา

พื้นที่ภาคใต้ ฐานเสียงอันแข็งแกร่งของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคเผาไทยไม่เคยเจาะเข้ามาได้ เมื่อมีชาวโรฮิงยานับล้านที่ทักษิณพาเข้ามา ปราการด่านสุดท้ายที่คอยต่อต้านการกินรวบประเทศจากระบอบทักษิณมาตลอดก็จะถูกพังทลายลง ชาวโรฮิงยาจะแทรกซึมเข้าไปทั่วพื้นที่ทุกจังหวัดในภาคใต้ หากทักษิณให้นานาชาติใช้มาตรการกดดันไทยให้สัญชาติแก่ชาวโรฮิงยาสำเร็จ เมื่อมีการเลือกตั้ง ชาวโรฮิงยาเหล่านี้ก็จะได้รับใบสั่งให้พร้อมใจกันโหวตให้พรรคเผาไทยเพื่อแลกกับเศษเงิน เมื่อสามารถครอบครองที่นั่ง สส.ภาคใต้ บวกกับพื้นที่ภาคเหนือ และอีสานจะทำให้พรรคเผาไทยกลายเป็นเผด็จการรัฐสภาอย่างสมบูรณ์

ในอนาคตข้างหน้า หากมีการชุมนุมชาวโรฮิงยาอีกส่วนหนึ่งก็จะกลายมาเป็นกำลังเสริมที่สำคัญให้แก่กลุ่มนปช. เมื่อรวมกับคนเสื้อแดงก็จะมีจำนวนมากมายมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น ชาวโรฮิงยาไม่รู้จักการคุมกำเนิดออกลูกออกหลานไวอย่างกับหนู ไม่นานก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตคนไทยคงถูกแทนที่ด้วยประชากรที่ด้อยคุณภาพ ยิ่งเข้าทางทักษิณเพราะจะได้ถูกมอมเมาด้วยนโยบายประชานิยมของทักษิณได้อย่างง่ายดาย ดังเช่นที่เคยทำมาแล้วกับกลุ่มคนเสื้อแดงในแถบภาคเหนือและภาคอีสาน รู้ตัวอีกที ประเทศไทยก็จะเต็มไปด้วยทาสของระบอบทักษิณ คนไทยเดิมที่รู้ทันกลโกงของทักษิณหรือมีความคิดเห็นทางการเมืองตรงกันข้ามกับพวกเสื้อแดงก็จะถูกขับไล่ไม่มีที่ยืน ด้วยประชาธิปไตยแบบพวกมากลากไป จะถูกกำจัดจนสูญสิ้นไปในที่สุด

จริงๆแล้วแผนการนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่อ้าแขนรับชาวโรฮิงยาเข้ามา โดยอ้างหลักมนุษย์ธรรมมาบังหน้า และคงจะมีการอพยพระลอกที่ 2 ที่ 3 ตามมา หากไม่มีการเปลี่ยนรัฐบาลคงเข้ามาเต็มประเทศไปนานแล้ว ทักษิณได้จ่ายเงินไปแล้วจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้อพยพกลุ่มที่เหลือ แทรกซึมเข้าไปในประเทศไทยให้ได้ตามแผน โดยให้นานาประเทศเดินหน้ากดดันรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไทยเองก็รู้ดี และได้พยายามดำเนินการขัดขวางแผนการนี้อยู่ แต่ก็ทำได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากขณะนี้สหรัฐและประเทศกลุ่มอียู พยายามนำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลในการคว่ำบาตและกีดกันทางค้ากับไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ลงไปอีก รัฐบาลไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด โดยการยอมรับชาวโรฮิงยาเข้ามาดูแลชั่วคราว เพื่อประวิงเวลาในการคิดหาทางแก้เกมจากการเดินหมากของทักษิณในครั้งนี้ต่อไป

ประชาชนทุกคน ต้องอย่าให้ท่านประยุทธต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ต้องร่วมกันขัดขวาง อย่าให้ชาวโรฮิงยาเข้าประเทศ

หากมีการทำประชาพิจารณ์ ต้องร่วมกันโหวตโน

หาก UN บังคับให้รับเข้ามา ต้องร่วมกันต่อต้าน

ไม่ต้องไปสนใจ UN ไม่ใช่พ่อ ไม่มีสหรัฐ ไม่มียุโรป เราก็ยังมีจีน มีรัสเซียอยู่ เราต้องอย่ายอมให้ UN ซึ่งถือหางทักษิณอยู่มาข่มเหงเรา

ไม่อย่างนั้นในภายภาคหน้า เตรียมพบกับกองทัพ นปช.ที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ เป็นโรฮิงยา การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่โหวตโดยเสียงส่วนใหญ่ เป็นโรฮิงยาได้เลย และที่แย่ที่สุด คือจะมีการนำ พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยให้แก่นักโทษหนีคดีจากดูไบ พวกแดงล้มเจ้าและคนเผาเมืองขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้จะไม่ดำเนินการผ่านสภาแล้ว แต่จะใช้วิธีการทำประชามติ เพราะมั่นใจว่าหากนปช.กับโรฮิงยารวมกันก็จะชนะการโหวตได้อย่างง่ายดาย และประเทศไทยก็จะถูกยึดครองโดยระบอบทักษิณอีกครั้ง

ที่มา เวปไซต์พันทิป



ฝากรูปนี้ให้คนแชร์ไลน์พวกนั้นครับ ....
...

ท.เอ๋ย ท.ทักกี้

เป็นริดสี ดวงโดด โทษทักษิณ
น้ำไม่ไหล ไฟดับด่า ไอ้ห่ากิน
แม้วทั้งสิ้น มันวางแผน ล้างแค้นเรา

อย่าไปคิด ให้ปวดหัว มั่วดีกว่า
มีปัญญา เก็บไว้ใช้ เลียไข่เต่า
เพราะด่าแม้ว แล้วดูเท่ห์ เก๋ไม่เบา
คืนความสุข ให้ข้าเจ้า เราคนดี


Akkharaphong Khamkhun





เฮกันลั่น! แกมเบีย ประเทศแอฟริกาตะวันตก ประกาศรับผู้อพยพชาวโรฮีนจาทั้งหมด ระบุเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์“

ที่มา เดลินิวส์
วันพฤหัสที่ 21 พฤษภาคม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบันจูลประเทศแกมเบีย เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่าแกมเบีย ประเทศยากจนแถบแอฟริกาตะวันตกออกแถลงการณ์เสนอที่พักพิงให้แก่ผู้อพยพชาวโรฮีนจาทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของพี่น้องชาวมุสลิมเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหลีกหนีการถูกกดขี่ข่มเหง โดยรัฐบาลแกมเบียเรียกร้องต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยส่งผู้อพยพมายังชายฝั่งของแกมเบีย ซึ่งจะมีการสร้างค่ายผู้ลี้ภัยให้แก่ชาวโรฮีนจา ทั้งนี้ทางการแกมเบียแสดงความวิตกต่อสถานการณ์ผู้อพยพชาวโรฮีนจาในเมียนมา โดยเฉพาะเรือมนุษย์จำนวนมากลอยเคว้งคว้างอยู่ในทะเลนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย คำประกาศนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทยประชุมหารือกันเกี่ยวกับกรณีชาวโรฮีนจา หลังเผชิญเสียงวิจารณ์จากทั่วโลกกรณีผลักดันเรือผู้อพยพชาวโรฮีนจาออกไปจากน่านน้ำของตน ด้านนายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียไม่ต้อนรับกลุ่มผู้อพยพที่เดินทางมาอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากจะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในประเทศ.“