วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 02, 2558

แม้แต่ บีบีซีไทยยังเล่นเรื่องท่านผู้นำโมโหลย...ทำไม ทำไมผมจะโมโหไม่ได้ ถ้าผมโมโหไม่ได้ ผมจะมาเป็นนายกทำไม นี่ไม่ได้โมโหนะ แอร๊.......


ที่มา BBC Thai

สื่อทำเนียบฯ เผยนายกรัฐมนตรีแสดงอารมณ์บ่อยครั้งกับคำถามการเมือง โดยเฉพาะเรื่องทักษิณ ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่เคยรุนแรงเช่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่ออาวุโสระบุอดีตผู้นำอาเซียนมีเพียงลี กวนยู กับ มาร์กอส ที่เคยกริ้วใส่นักข่าวแต่ไม่มากเท่า ด้านรองโฆษกกองทัพบกชี้นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจและเป็นผู้ใหญ่ ทีมงานโฆษกไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำใด ๆ ในการตอบคำถามสื่อ

นายอนพัทย์ ดีช่วย นักข่าวสำนักข่าวเนชั่น ประจำทำเนียบรัฐบาล กล่าวกับบีบีซีไทย ถึงกรณีที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยท่าทีที่ดูเหมือนมีอารมณ์ฉุนเฉียวว่า สิ่งนี้เหมือนกับเป็นคาแรคเตอร์ของนายกรัฐมนตรีไปแล้วที่จะมีอารมณ์เวลาเจอคำถามประเด็นการเมือง

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ว่านักข่าวไม่รู้สึกอะไรกับพฤติกรรมดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งยังดูสนุกสนาน อนพัทย์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าว บอกว่า

“นาทีที่เขารุนแรงก็ไม่มีใครหัวเราะ นักข่าวที่อาวุโสก็ใช้เทคนิคไปถามคำถามอื่น แล้วค่อยกลับมา ยังไงก็ต้องได้ประเด็น”

ทั้งนี้ ในระหว่างตอบคำถามสื่อมวลชน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าไม่ได้อยู่ในอารมณ์โมโห

อย่างไรก็ดี ภัสรา จิกคำ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ประจำทำเนียบรัฐบาล บอกว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีโมโหเป็นประจำเมื่อถูกตั้งคำถามเชิงการเมือง โดยเฉพาะเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“แต่ไม่นึกว่าจะพูดขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็โมโห แต่ไม่เคยหลุดคำหยาบออกมา กลุ่มนักข่าวก็มานั่งคุยกันเหมือนกันว่าทำไมต้องโมโหขนาดนี้”

ภัสราเปิดเผยว่านักข่าวที่ต้องติดตามทำข่าวนายกรัฐมนตรี เจอบ่อยแล้ว จึงค่อนข้างจะรู้ว่าท่านอารมณ์แบบนี้ ต้องใช้วิธีเปลี่ยนคำถามที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีโมโหนำไปไว้ท้ายๆ

ด้านสงวน คุ้มรุ่งโรจน์ นักข่าวอาวุโสที่เคยทำงานกับสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง และติดตามทำข่าวอดีตผู้นำของหลายประเทศในอาเซียน มองพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ตนไม่เคยเจอผู้นำที่ไม่รู้จักมารยาทสากลมากเท่านี้ “ที่ผ่านมาในอาเซียนมีแต่นายลี กวนยู อดีตผู้นำสิงคโปร์ และ นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ที่เคยกริ้วใส่นักข่าว แต่ไม่ถึงขนาดนี้”

ผู้สื่อข่าวอาวุโสกล่าวว่าพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าเป็นในยุคก่อน จะถูกนักข่าวบอยคอตทันที “ไม่ทำข่าว ต่อให้กองโฆษกเชิญก็ไม่ไป เพราะสื่อตอนนั้นมีศักดิ์ศรี”

ด้าน พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกกับบีบีซีไทย ว่าเข้าใจว่าการใช้คำพูดรุนแรงน่าจะแสดงความเป็นตัวตนของนายกรัฐมนตรีที่เป็นนายทหาร ไม่ใช่นักการเมือง นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลที่พูดจาตรงไปตรงมาไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง คำพูดของนายกรัฐมนตรีเป็นการแสดงความจริงใจซึ่งสิ่งนี้คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

พล.ต.วีรชน กล่าวว่าในฐานะทีมงานโฆษก คงไม่มีความจำเป็นต้องให้คำแนะนำใด ๆ กับนายกรัฐมนตรีในเรื่องการตอบคำถามสื่อ เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว และต้องยอมรับว่าในบางครั้งสื่อเองก็ถามคำถามที่ไม่สร้างสรรค์เช่นกัน
...

ความเห็นจากเวป...

ทหารเข้าใจผิดไปแล้วว่าการพูดจาหยาบคายเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ เพราะในสังคมทั่วไปซึ่งไม่ใช่สังคมทหาร การพูดหยาบคายเป็นการแสดงออกถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ต่ำต้อยและไม่ให้เกียรติผู้อื่น คนพูดไม่สมควรจะได้รับเกียรติใดๆ ตอบด้วยซ้ำ หากคุณไม่พร้อมมายืนตรงจุดนี้ด้วยวุฒิภาวะที่เหมาะสมพอ คุณก็ควรพิจารณาตัวเองไม่ใช่การหาเหตุผลข้างๆ คูๆ มาทำให้ตัวเองดูดี เพราะสายตาของคนที่มองคุณอยู่ เขาตัดสินคุณไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมา

ตอนแรกก็เข้าท่าที่อ้างมาเคลียร์ปัญหาขัดแย้งของ2กลุ่ม หลังๆเหมือนจะล้างบางกลุ่มหนึ่งและยกเว้นเลือปฏิบัติกับอีกกลุ่ม ..การบริหารก็แก้ไขปัญหาไม่ได้สักเรื่อง อนุมัติงบลูกเดียว ...เมื่อออกมาสัมภาษณ์ก็แบบโมโหตลอดเวลาอยากให้เขาถามตามที่อยากตอบ. ..จะให้ไว้ใจได้ไง. ..
สุดท้ายคงพาลงเหว......

พูดตรงไปตรงมา กับ พูดหยาบคายต่างกันนะคะ

พูดคำหยาบคายคือพูดตรงไปตรงมา?? แล้วเราจะสอนเด็กๆ อย่างไร

พูดจาตรงไปตรงมาเหรอ??? เห็นใครนะบอกว่าจะไม่ปฎิวัติก็ปฎิวัติ บอกว่าจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นนายกรัฐมนตรี. ก็เลยไม่แน่ใจในคำตอบของรองโฆษกว่าจริงหรือไม่

ใครใช้ให้ท่านมาเป็นนายก มิทราบ ประชาชนก็ไม่ใช่นิ

นี่ขนาดยังไม่โมโห ถ้าโมโหคงควงปืนกราดยิงไปแล้ว

จะไม่ให้แกโมโหได้ไง ตั้งแต่แกเป็นนายกมาแกแก้ปัญหาได้อย่างเดียวเอง ไม่มีการชุมนุมทางการเมือง นอกนั้นเหมือนเดิมหมด โดยเฉพาะล๊อตเตอรรี่ เหมือนเดิม

ไม่โทษตนเองแต่โทษคนอื่นทำแบบนี้จะเป็นแบบอย่างเด็กรุ่นหลังถ้าเด็กทำตามบ้างจะสอนเขาว่าอย่างไรเพราะผู้ใหญ่ทำใหัเห็นหรือจะโทษเด็กอีกเท่าที่ติดตามดูก็รู้ว่าเพราะยึดอำนาจจึงกล้าที่จะพูดเพราะไม่มีใครกล้าทำอะไรไม่งั่นก็จะโดนเรียกมาข่มขู่โดยใช้คำว่าปรับทัศนคติให้ดูเป็นว่าไม่ได้ขู่แต่ในความจริงมันก็ขู่นั้นแหละ

ไม่ใช่พูดจาตรงไปตรงมาหรอก สับปลับตรงๆล่ะมากกว่า
บอกไม่ทำรัฐประหาร ก็ทำรัฐประหาร
บอกไม่เป็นนายก ก็เป็นนายก
บอกไม่มีใครสูญเสียเสรีภาพ แต่ไม่ให้แสดงความเห็นต่าง
บอกไม่มีงบช่วยปชช แต่ขึ้นเงินเดือนตัวเอง และ ข้าราชการ

ooo

รีรัน...