วันจันทร์, มกราคม 12, 2558

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์ถึงกรณีการกราดยิงสำนักงานนิตยสาร Charlie Hebdo ในปารีส โดยระบุว่าการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันจะช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น แม้บางครั้งจะทำให้คนไม่พอใจ และยืนยันว่าเราจะต้องไม่ยอมให้ใครมากำหนดว่าเราจะพูดเรื่องอะไรได้บ้าง



เว็บไซต์ Blognone แปลโพสต์ดังกล่าวได้ดังนี้:

"หลายปีก่อนมีชายหัวรุนแรงในปากีสถานพยายามต่อสู้เพื่อให้ผมถูกตัดสินประหารเพราะไม่ยอมแบนเนื้อหาที่เกี่ยวกับโมฮัมหมัดที่ทำให้เขาไม่พอใจ

เรายืนยันต่อเรื่องนี้ เพราะการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันแม้ว่าบางครั้งมันจะทำให้คนไม่พอใจ แต่มันสามารถช่วยให้โลกนี้ดีขึ้นและทำให้โลกนี้น่าสนใจขึ้น

เฟซบุ๊กเป็นสถานที่ที่คนทั่วโลกแบ่งปันความคิดและมุมมองมาเสมอ เราทำตามกฎหมายในแต่ละประเทศ แต่เราไม่เคยยอมให้ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดเข้ามากำหนดว่าคนทั่วโลกจะแบ่งปันเรื่องอะไรได้บ้าง

การโจมตีเมื่อวานนี้และประสบการณ์ของผมเองกับกลุ่มหัวรุนแรงเป็นสิ่งที่เราต้องปฎิเสธไม่ให้กลุ่มหัวรุนแรงมาหยุดการแสดงความเห็นของคนอื่นๆ ทั่วโลก

ผมจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้บนเฟซบุ๊ก ผมยืนยันจะสร้างบริการที่คุณทุกคนสามารถแสดงออกโดยไม่ต้องกลัวต่อความรุนแรง

ผมส่งความคิดถึงเหยื่อและครอบครัวของพวกเขา, ประชาชนฝรั่งเศส, และประชาชนทั่วโลกที่แสดงมุมมองและความคิดแม้จะต้องอาศัยความกล้าก็ตาม ‪#‎JeSuisCharlie‬"

ที่มา: https://www.facebook.com/zuck/posts/10101844454210771
https://www.blognone.com/node/64610

‪#‎blasphemy‬ ‪#‎netfreedom‬

Credit Thai Netizen Network
...

A few years ago, an extremist in Pakistan fought to have me sentenced to death because Facebook refused to ban content about Mohammed that offended him.

We stood up for this because different voices -- even if they're sometimes offensive -- can make the world a better and more interesting place.

Facebook has always been a place where people across the world share their views and ideas. We follow the laws in each country, but we never let one country or group of people dictate what people can share across the world.

Yet as I reflect on yesterday's attack and my own experience with extremism, this is what we all need to reject -- a group of extremists trying to silence the voices and opinions of everyone else around the world.

I won't let that happen on Facebook. I'm committed to building a service where you can speak freely without fear of violence.

My thoughts are with the victims, their families, the people of France and the people all over the world who choose to share their views and ideas, even when that takes courage. ‪#‎JeSuisCharlie‬


Mark Zuckerberg

ooo


ข่าวจาก บีบีซี

ผู้คนจำนวนมากพากันไปรวมตัวเดินขบวนแสดงความเป็นเอกภาพกันที่กรุงปารีสเมืองหลวงของฝรั่งเศส โดยคาดว่าจะมีผู้นำประเทศจากกว่า 40 ประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งที่เดินทางไปถึงแล้ว ก็มีอย่างเช่น นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกฯ เยอรมนี และนายมัตเตโอ เรนซี นายกฯ อิตาลี เป็นต้น

คาดว่าการเดินขบวนหนนี้ จะมีผู้เข้าร่วมกว่าล้านคน ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานจากกรุงปารีสว่าผู้เข้าร่วมมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางคนเข็นรถเข็นเด็กเข้าร่วมขบวนที่ไกลเกินสุดขอบตา บางคนตะโกนคำขวัญว่า “Liberte!” หรือเสรีภาพ และ “Charlie!” ซึ่งเป็นชื่อของนิตยสารชาร์ลี เอ็บโดที่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกสังหารคนในสำนักงาน

นอกจากที่กรุงปารีสแล้ว ก็ยังมีผู้ไปชุมนุมกันอีกหลายเมืองทั้งในและนอกฝรั่งเศส อย่างเช่นที่เมืองมาร์แซย์เมืองใหญ่อันดับสองทางตอนใต้ของฝรั่งเศสซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรชาวมุสลิมหนาแน่นมากที่สุดของประเทศ ก็ได้มีผู้เดินขบวนหลายพันคนชูประเด็นขอให้มีการยอมรับกันระหว่างคนต่างศาสนาและการอยู่ร่วมกันโดยสันติ

ส่วนที่กรุงลอนดอน ก็มีผู้คนจำนวนมากไปร่วมชุมนุมกันที่จตุรัสทราฟัลการ์ ใจกลางกรุงลอนดอนเพื่อร่วมแสดงความเป็นเอกภาพกับผู้คนที่ปารีสด้วย นอกจากนี้ การเดินขบวนยังเกิดขึ้นที่เมืองใหญ่ในยุโรปหลายเมือง เช่นกรุงมาดริดของสเปน เป็นต้น