วันพุธ, ธันวาคม 03, 2557

ลูกดาวดิน ที่แม่รู้จัก : เสียงรู้สึกของแม่ๆ กลุ่มอนุรักษ์ดงมูล จ.กาฬสินธุ์

เรื่อง/ภาพ : กลุ่มอนุรักษ์ดงมูล จ.กาฬสินธุ์
ที่มา นักข่าวพลเมือง Thai PBS

หลังจาก พล.โท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวหากรณีที่นักศึกษาดาวดิน 5 คน ออกมาชู 3 นิ้ว และใส่เสื้อที่เขียนข้อความว่า “ไม่เอารัฐประหาร” หน้าเวทีขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ได้รับเงินจากนักการเมืองในพื้นที่ 50,000 บาท มาเคลื่อนไหวเพื่อมาแย่งชิงพื้นที่สื่อจากนายกรัฐมนตรีนั้น แม้จะเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน แต่คำพูดของนายทหารระดับแม่ทัพภาค ที่สื่อสารต่อสาธารณะเช่นนี้ ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นจริงหรือไม่

สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักหรือทำงานร่วมกับกับนักศึกษากลุ่มดาวดินมาก่อน อาจจะเชื่อคำบอกเล่าของแม่ทัพภาคที่ 1 หรือ สงสัยว่าเป็นจริงหรือไม่

แต่สำหรับชาวบ้านที่นักศึกษากลุ่มดาวดิน ได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ และร่วมต่อสู้กับชาวบ้านต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด ว่า “ลูกๆดาวดิน” จะซื้อได้ด้วยเงินอย่างที่ถูกกล่าวหา อะไรทำให้ชาวบ้านที่พวกเขาเรียกว่า “พ่อๆแม่ๆ“ เชื่อมั่นในดาวดินขนาดนั้น

วันนี้เรามาทำความรู้จักกลุ่มดาวดิน ผ่านแม่ๆ กลุ่มอนุรักษ์ดงมูล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับกลุ่มทุนพลังงานที่กำลังมีโครงการสำรวจขุดเจาะปิโตรเลียมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ว่าดาวดินที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างไร
รู้จักดาวดินได้อย่างไร

“ตอนแรกลูกๆดาวดินเข้ามาช่วยเราในการคัดค้านบ่อก๊าซ (โครงการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ) ตอนนั้นหน่วยงานภาครัฐ จัดเวทีชี้แจงเรื่องการขุดเจาะก๊าซ เพราะว่ามีการร้องเรียนเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหลายพื้นที่ แต่เราเห็นว่าเวทีนั้นจะเป็นการจัดขึ้นเพื่อให้บริษัทสามารถทำโครงการต่อไปเท่านั้น พวกเราจึงมาคัดค้าน ลูกๆดาวดิน ตอนนั้นก็มาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย แจกใบปลิว เรียกว่าช่วยทุกอย่าง พวกเขาขับรถมอเตอร์ไซด์กันมากว่า 90 กิโลเมตร เพื่อมาช่วยพวกแม่ โดยที่พวกแม่ก็ไม่มีอะไรให้พวกเขาเลย หลังจากนั้น พวกเขาก็จะเข้ามาช่วยเรื่อยๆ ทุกครั้งที่กลุ่มเราต้องเดินทางไปไหน ให้ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ หรือไปขอเอกสาร พวกเขาก็จะไปกับเรา เขาเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานเราจริงๆ
กลุ่มดาวดินที่แม่ๆกลุ่มอนุรักษ์ดงมูลรู้จักเป็นอย่างไร

“ลูกดาวดินเป็นเด็กที่มีความจริงใจเสียสละ พวกเขานำความรู้มาให้กลุ่มอนุรักษ์ดงมูล บ้านหนองแซง ต่อสู้ เป็นคนที่ชี้แนวทางที่ดี ช่วยคิดแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ และช่วยอย่างจริงใจ เพื่อจะพากลุ่มอนุรักษ์ดงมูลมุ่งไปสู่ความสำเร็จ มีความจริงใจ มีใจแบ่งปัน ลูกดาวดินมีจิตอาสาจริงๆ”

“เป็นเยาวชน คนหนุ่ม ที่เป็นตัวอย่างของคนหลายๆคนที่มีจิตสำนึก คนอื่นเราก็ไม่รู้ แต่ดาวดินเรามองเห็นว่าเค้ามีจิตอาสาทุกอย่างช่วยเหลือคนอื่นเห็นใจคนอื่น เป็นบุคคลตัวอย่าง สู้ๆ บ่ต้องถอย”
“แม่ก็จะช่วยสู้ เราทำดีแล้วกับสังคมนี้ เราก็สู้ต่อไป”
ข้อกล่าวหาว่าดาวดินรับเงิน (เสียงแทรก บ่เชื่อ) จากนักการเมืองมาค้านรัฐประหาร แม่ๆ คิดอย่างไร

“กลุ่มแม่ๆไม่เชื่อว่าลูกๆกลุ่มดาวดินจะรับค่าจ้างหรือสินบนอะไรก็ช่าง พวกแม่เชื่อมั่นในตัวเขา แม่ทุกคนเชื่อมั่นว่าลูกบริสุทธิ์ ไม่มีทางรับค่าจ้าง พวกเขาทำด้วยจิตสำนึกของพวกเขาเอง ใครจะพูดก็ไม่เชื่อ เรามั่นใจ”

“จากที่เคยรู้จักแล้วก็สัมผัสมาการที่กลุ่มดาวดินทำอะไรซักอย่าง เขาทำด้วยความศรัทธาของเขาจริงๆ ในลักษณะที่เคยลงมาชาวบ้านในการให้ความรู้ช่วยให้ชาวบ้านในการลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเอง แม้ว่าจะต้องมาอยู่อย่างลำบาก มาอยู่แบบไหนก็ได้ กินแบบไหนก็ได้ อยู่กับชาวบ้านมานาน ช่วยเหลือชาวบ้านมาหลายอย่าง เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากชาวบ้าน พวกเขาต้องควักเงินตัวเอง ทำให้เราได้รู้ ได้สัมผัสว่า เป็นไปไม่ได้ที่ “เงิน” จะซื้อพวกเขาได้ เพราะจากที่เรารู้จักมาไม่ใช่อย่างนั้น

สิ่งหนึ่งที่ดาวดินเป็นและแตกต่างจากคนทั่วไป คือ เป็นคนที่รักความยุติธรรม เห็นว่าการที่ชาวบ้านถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ไม่เหมือนคนทั่วไปที่มองว่าการที่ชาวบ้านถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนใหญ่คนโตเป็นสิ่งที่ชาวบ้านตัวเล็กๆตัวน้อยๆ ต้องยอมรับ เราต้องพยักหน้ายอมรับในสิ่งที่เราถูกยัดเยียด แต่กลุ่มนี้ทำให้ชาวบ้านตัวเล็กๆ กล้าที่จะพูด กล้าที่จะลุกขึ้น ทำให้ชาวบ้านรู้ว่าตัวเองมีพลัง แม้จะเป็นพลังเล็กๆแต่ถ้าเรารวมกลุ่มกันหลายๆคน กล้าลุกขึ้นมาตอบกลับหน่วยงานใหญ่ๆ ตอบกลับคนที่มีตำแหน่งสูงๆว่าเราไม่ยอมรับในความทุกข์ต่างๆที่เราถูกยัดเยียดมาจากหน่วยงานภาครัฐ เราจึงเชื่อว่า ข่าวที่ออกมาไม่จริง ชาวบ้านที่ได้สัมผัสที่ได้คลุกคลี มีลูกๆ ดาวดินมาช่วย ไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะเราได้สัมผัสกับเด็กๆกลุ่มนี้จริงๆ ถ้าใครที่ไม่เคยสัมผัส ไม่เคยมีความทุกข์ยากแล้วมีคนมาช่วยแบบนี้ ก็จะไม่รู้ เพราะคนเราจะมองแค่ข่าวแล้วยอมรับ แค่เรื่องของกระแสสังคม”

“ถ้ามีบุคคลแบบนี้มากๆ บ้านเราคงเจริญมากกว่านี้ เพราะว่าจิตสำนึกเขาดี แม่ก็บอกให้ลูกชายเอาตัวอย่างจากพี่ๆดาวดิน”

“คนทั่วไปจะมองว่า นายว่าอย่างไร คนอื่นๆว่าอย่างไร ให้ยอมรับไปเถอะ ถึงเราจะได้รับผลกระทบเล็กก็ต้องยอมรับ ให้เงียบไม่มีสิทธิพูดอะไร แต่พอเราได้รู้จักดาวดินทำให้เราหูตาสว่างขึ้นอย่างน้อยๆ เราก็มีแรงผลักดันว่าสิ่งที่เราถูกกระทำ ความทุกข์ที่หน่วยงานสูงๆเอารัดเอาเปรียบ ลิดรอนสิทธิเรา เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่เราจะลุกขึ้นมาต่อสู้ ทำให้เรากล้าที่จะพูด สมกับชื่อดาวดิน เป็น ดาวที่มาอยู่ดิน เป็นกำลังใจให้ บ่ต้องยอมแพ้ บ่ต้องถอย”
มีข้อครหาว่าดาวดินมาทำเพื่อรับใช้กลุ่มการเมือง เท่าที่รู้จักน้องกลุ่มดาวดินมีท่าทีอย่างนั้นหรือไม่

“ดาวดินจะไม่เอาการเมืองมายุ่งกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะว่าชาวบ้านหลายคนมีความชอบที่หลากหลาย ชอบพรรคนั้น พรรคนี้ ดาวดินไม่เคยพาดพิงหรือพูดเรื่องการเมือง และบอกแม่ๆว่าในการต่อสู้ จะหลีกเลี่ยงการพูดเรื่องนี้เพราะจะทำให้ชาวบ้านขัดแย้งกัน จึงเป็นไปไม่ได้ เพราะที่ดาวดินเข้ามาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบสีไหน เพราะเขาไม่เคยมายัดเยียดให้พวกเรา เราเลยสัมผัสได้ว่าเขาไม่ได้มาเพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะเขาจะพูดเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม และสิทธิของชาวบ้าน อยากให้ชาวบ้านต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อแผ่นดินเกิดตนเอง

สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าทำไมลูกๆดาวดินจึงกล้าทำ เพราะว่าพวกเขามองเห็นการเอารัดเอาเปรียบ และการไม่ยอมแพ้ต่อขบวนการที่ไม่ยุติธรรม เพราะสัมผัสได้ว่าชาวบ้านไม่ได้รับความยุติธรรมก็ลุกขึ้นมาร่วมกันสู้แบบไม่กลัวอะไร พาชาวบ้านต่อสู้แบบไม่กลัว “เราจึงชื่อมั่นว่า อะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ยุติธรรม พวกเขาไม่ได้มองว่าเป็นสีไหน หรือหน้าไหน เพียงแค่พวกเขาเห็นว่าไม่ยุติธรรมแล้ว ก็ไม่ใช่สำหรับพวกเขา”
สิ่งที่แม่ๆกลุ่มอนุรักษ์ดงมูลอยากบอกลูกๆ ดาวดิน

“แม่ๆให้กำลังใจกลุ่มดาวดิน แม่ๆเคียงข้างลูกๆเสมอ สู้เพื่อชัยชนะนะลูก แม่ก็ไม่ถอยเหมือนกัน สู้ๆนะลูก”